สัญญาณความตึงตัวเริ่มต้นขึ้นแล้ว
เราไปศึกษาข้อมูลในอดีต พบว่าในช่วงที่ NPLs/loans ratio ของธนาคารพาณิชย์ไทย ปรับเพิ่มขึ้นในช่วงปี 2014-17, 2020 และ 2023-24 เราเห็นการปรับลดประมาณการของของกลุ่มธนาคารลงเช่นเดียวกัน โดยระยะเวลาในการปรับลดลงจะอยู่ในช่วงประมาณ 6-9 เดือน ส่วนการปรับลดลงก็จะอยู่ที่ราว 10-25% ทั้งนี้ แม้เราจะยังไม่ได้เห็นการปรับลดประมาณการของตลาดมากนักในปีนี้ แต่หากมีการปรับลดประมาณการของตลาดรอบนี้ เราคาดว่าน่าจะจบเร็วขึ้น เพราะสภาพตลาดที่เปลี่ยนไปจากอดีต และธนาคารก็มีการระวังในการปล่อยสินเชื่อและตั้งสำรองเพิ่มเติมมาแล้วกว่า 2 ปี
นอกจากนี้ เราได้ทำการวิเคราะห์กรณี bull-case และ bear-case เพื่อหาจังหวะในการเข้าลงทุน โดยปัจจุบันกรณี base-case เราคาดกำไรสุทธิกลุ่มธนาคารจะลดลง 7% YoY
แต่หากเศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าคาด ก็จะกดดันให้การชำระหนี้ของลุกค้าลดลง และธนาคารก็จะระวังในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้นด้วย ทำให้ในกรณี bear-case ภาพรวมกำไรกลุ่มธนาคารปีนี้ จะปรับลดลง 15% YoY (เห็นความเสี่ยงของประมาณการกำไรราว 9% จากกรณี base-case)
ส่วนในกรณี bull-case หากเศรษฐกิจฟื้นตัวได้ดีกว่าคาด เราประเมินว่าความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้จะดีขึ้นและสินเชื่อเติบโตได้บ้าง ทำให้เราคาดว่ากำไรปีนี้ของกลุ่มธนาคาร น่าจะทรงตัวใกล้เคียงปีที่แล้วได้ (upside จากประมาณการในกรณี base-case ราว 6%)
Fundamental view: เรามองว่าตลาดน่าจะให้น้ำหนักไปที่หุ้นที่มีคุณภาพสินทรัพย์ที่ดี มากกว่าเรื่องของการเติบโตในปีนี้ เราจึงแนะนำเลือกหุ้นที่แนวโน้มคุณภาพสินทรัพย์น่าจะยังดี โดยแนะนำ ซื้อ BBL และ KTB เนื่องจากโครงสร้างสินเชื่อเป็นรายใหญ่และรัฐบาลเป็นหลัก ซึ่งมีความเสี่ยงน้อยกว่าสินเชื่อในกลุ่ม SME และรายย่อย นอกจากนี้ เราแนะนำถือ SCB เนื่องจากคาดว่าน่าจะยังจ่ายปันผลสูงในระดับ 8% ได้ในปีนี้