Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ คาดวันนี้ SET "แกว่งในกรอบ รอปัจจัยชี้นำใหม่ๆ"

535

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 18 เมษายน 2568)------- บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ออกบทวิเคราะห์ประจำวันที่ 18 เมษายน 2568คาด SET แกว่งในกรอบ ตลาดยังรอปัจจัยใหม่ โดยเฉพาะความคืบหน้าการต่อรองภาษีกับสหรัฐซึ่งไทยมีกำหนดเจรจา 23 เม.ย. ขณะที่กลุ่มพลังงานน่าจะได้แรงหนุนตามราคาน้ำมันที่ขยับขึ้น แต่คาดวันนี้มูลค่าซื้อขายน่าจะเบาบางต่อ เนื่องจากตลาดต่างประเทศหลายแห่งปิดทำการในวัน Good Friday ประเมินแนวรับที่ 1130-1125 จุด แนวต้านที่ 1148-1155 จุด

 

ประเด็นสำคัญ
• นายกรัฐมนตรีเผย รมว.คลัง นำทีมไทยเจรจารัฐมนตรีสหรัฐ 23 เม.ย. มั่นใจผลเจรจาเป็นประโยชน์ 2 ประเทศ ไทยยื่น 5 ข้อเสนอ ลดดุลการค้าสหรัฐ 50% ใน 5 ปี พร้อมหนุนอาเซียนผนึกกำลังเจรจาภาษีสหรัฐ
• ธปท. เผยส่ง 3 รายชื่อผู้ผ่านคัดเลือกได้รับไลเซนส์ Virtual Bank ให้กระทรวงการคลังแล้ว คาดคลังมีเวลาพิจารณา 3 เดือน ก่อนประกาศชื่ออย่างเป็นทางการภายใน 19 มิ.ย.นี้ พร้อมชี้ทั้ง 3 รายเหมาะสม ในการกำกับดูแล-ดูแลความเสี่ยง ก่อนพิจารณาใหม่ในเฟสถัดไป
• ธปท. ระบุว่านโยบายการค้าของสหรัฐส่งผลให้ระยะสั้นตลาดการเงินผันผวนมากขึ้น พร้อมคาดกดดันให้ GDP ไทยปีนี้หลุดเป้า 2.5% โดยจะส่งผลต่อการส่งออกมากขึ้นใน 2H68 รวมทั้งจะเริ่มเห็นการผลิตการค้า และการลงทุนบางส่วนชะลอเพื่อรอความชัดเจน
• ECB มีมติปรับลดดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 7 ในรอบ 1 ปีอีก 0.25% สู่ระดับ 2.25% เพื่อลดความกังวลและฟื้นฟูความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจที่ยังเปราะบาง ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาษีทางการค้าของสหรัฐ
• ปธน. ทรัมป์ เรียกร้องอีกครั้งหนึ่งให้นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย พร้อมขู่ว่าจะปลดนายพาวเวลออกจากตำแหน่งหากไม่สนองต่อข้อเรียกร้องดังกล่าว
• สหรัฐออกมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ โดยมุ่งเป้าไปที่การส่งออกน้ำมันของอิหร่าน ซึ่งการคว่ำบาตรครั้งนี้รวมถึงโรงกลั่นน้ำมันขนาดเล็กในจีนด้วย ขณะที่โอเปกมีแผนจะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันเพิ่มเติม เพื่อชดเชยการผลิตเกินโควตาตามที่ได้ตกลงกันไว้

 


กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET ยังผันผวนและบรรยากาศการซื้อขายจะยังเป็นไปอย่างระมัดระวัง เนื่องจากความไม่แน่นอนในนโยบายการค้าสหรัฐ รวมทั้งยังต้องติดตามการตอบโต้ทางภาษีระหว่างสหรัฐและจีนซึ่งอาจฉุดการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะเดียวกันยังต้องจับตาการเจรจาทางการค้าของไทยกับสหรัฐ หลังรัฐบาลไทยเตรียมบินเจรจากับสหรัฐในวันที่ 19-25 เม.ย.นี้ ซึ่งคาดข้อสรุปอาจต้องใช้เวลา 2-3 เดือน อย่างไรก็ดี สัปดาห์นี้ (17 เม.ย.) มองท่าทีการดำเนินนโยบายการเงินของ ECB จะเป็นตัวกำหนดทิศทางตลาดได้ในระดับนึง โดยหากมีการผ่อนคลายทางการเงินน่าจะช่วยพยุงตลาดได้ในระยะสั้น ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ “Selective Buy”

 

 

แนวรับ-ต้าน
1130/1125 – 1148/1155


ล็อคเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
Weekly Portfolio: มอง SET ยังผันผวนและบรรยากาศการซื้อขายยังคงเป็นไปอย่างระมัดระวัง จากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าของสหรัฐ และยังต้องติดตามการตอบโต้ทางภาษีระหว่างสหรัฐและจีนซึ่งอาจฉุดการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีมหลัก และ 1 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1. หุ้นที่คาดเป็นเป้าหมาย ThaiESGX โดย 1) ปี 2568 คาดกำไรเติบโต YoY 2) ฐานะการเงินแกร่ง และ 3) จ่ายปันผลสม่ำเสมอ คาดให้ Div. Yield อย่างน้อยปีละ 3% พบหุ้นน่าสนใจ SET50: ADVANC BBL BDMS CPALL PTT และ SET100: BCH BTG
2. หุ้น Undervalued คัดเลือกหุ้น SET100 ที่คาดเป็นเป้าหมายกองทุน โดย 1) ปี 2568 คาดกำไรเติบโต YoY 2) มีความสามารถจ่ายดอกเบี้ยสูง 3) ซื้อขายที่ PER และ PBV 2568F ระดับต่ำกว่า -1SD 4) คาดให้ Div. Yield อย่างน้อยปีละ 2% และ 5) มี SET ESG Ratings ระดับ A-AAA แนะนำ MTC MINT BJC CPF
3. Trading Idea: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการเก็งกำไรภายใต้สงครามการค้าที่มีท่าทีรุนแรงขึ้น แนะนำ หุ้นที่มีรายได้ภายในประเทศเป็นหลักซึ่งจะต้านทานความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ดีกว่า โดยเฉพาะหากสามารถกำหนดราคาและส่งผ่านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้ อีกทั้งคาดจะได้ประโยชน์จากการปรับลงของราคาน้ำมันและดอกเบี้ย ได้แก่ BCH CPALL CPAXT GULF MTC OR และ TRUE ขณะที่แนะนำหลีกเลี่ยงกลุ่มที่ได้ผลกระทบทางตรงจากส่งออกไปสหรัฐ ได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ ยาง สินค้าเกษตร เครื่องประดับ และกลุ่มที่ได้ผลกระทบทางอ้อม ได้แก่ นิคม ท่องเที่ยว ธนาคาร

 

 

Daily top picks
PTT: มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น และเป็นหนึ่งในเป้าหมายของกองทุน ThaiESGX หลังมี SET ESG Ratings “AAA” อีกทั้งปี 2568 คาดกำไรยังเติบโตเด่น 44%YoY และมีฐานะการเงินแกร่ง สามารถจ่ายปันผลสม่ำเสมอ โดยคาดให้ Div. Yield ปี 68 สูงราว 6.7% ทั้งนี้แนะนำราคาซื้อเก็งกำไรวันนี้ไม่เกินหุ้นละ 31.25 บาท

KTB: มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากงบ 1Q68 กลุ่มธนาคารที่ประกาศออกมาแล้วอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และเป็นหนึ่งในเป้าหมายของกองทุน ThaiESGX หลังมี SET ESG Ratings “AAA” ขณะที่ปี 2568 แม้คาดกำไรจะหดตัว 3%YoY แต่ยังมีศักยภาพจ่ายปันผลได้สม่ำเสมอในอัตราสูง โดยคาดให้ Div. Yield ปี 68 สูงราว 7%

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

Thailand Focus By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ วันนี้ วันแรก งานThailand Focus 2025 เช้าวันนี้ หุ้นไทยบวก 5.22 จุด บ่ายวันนี้ ...

PTG มุ่งมั่นปลูกฝัง DNA ความยั่งยืน ได้รับเกียรติบัตร "โครงการ ESG DNA" จากตลาดหลักทรัพย์ฯ

PTG มุ่งมั่นปลูกฝัง DNA ความยั่งยืน ได้รับเกียรติบัตร "โครงการ ESG DNA" จากตลาดหลักทรัพย์ฯ

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้