คาด SET Index ปรับตัวลง : หลังวานนี้บวกชดเชยปัจจัยในช่วงวันหยุดไปแล้ว และกลับสู่การเผชิญแรงกดดันจากความกังวลนโยบายการค้าของปธน.ทรัมป์ ทั้งจากการให้มุมมองของปธ.เฟด และ WTO รวมถึงแรงกดดันจากการขึ้น XD ของหุ้นขนาดใหญ่ หากแต่ยังพอมีแรงพยุงจากราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัว
แนวรับ-ต้าน
1,125 –1,145
กลยุทธ์การลงทุน
1) Virtual Bank : ADVANC, GULF, KTB, OR, PTT, SCB, TRUE
2) เก็งงบ 1Q68 : AP, BDMS, CPF
3) Domestic play : AEONTS, BEM, BJC, CK, MTC, STECON, UNIQ
4) Defensive : BCH, CHG, PR9, TTW
5) พลังงาน : BCP, PTTEP
6) Selective : GFPT, ICHI, KLINIQ, TFG, SISB
กลับมากังวล วิ่งเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัย
มุมมองเชิงลบต่อเศรษฐกิจและการค้าโลก : คาดแรงกดดันมาจากโหมด Risk-off ของนักลงทุน สะท้อนจาก Dow Jones, S&P500 และ Nasdaq ที่ปรับตัวลง 1.73%, 2.24% และ 3.07% เมื่อคืนที่ผ่านมา สวนทางกับการเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัย สะท้อนจากราคาทองคำ COMEX ที่ปรับตัวขึ้น 3.27% ปิดที่ $3,346.4 ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และ USbondyield2และ 10 ปี ที่ปรับตัวลงสู่ระดับ 3.8% และ 4.3% ตามลำดับ ท่ามกลางความกังวลนโยบายการค้าของสหรัฐฯ หลัง 1)คุณพาวเวล ปธ.เฟดเผยการที่สหรัฐฯเรียกเก็บภาษีศุลกากรในอัตราที่สูงเกินคาด อาจทำให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นและจะส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง และมาตรการดังกล่าวของปธน.ทรัมป์อาจส่งผลกระทบต่อภารกิจเฟดในการทำให้การจ้างงานขยายตัวอย่างเต็มศักยภาพและอัตราเงินเฟ้อเข้าสู่เป้าหมายที่ 2% พร้อมระบุว่าเฟดจะรอดูข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประเมินทิศทางเศรษฐกิจ ก่อนจะตัดสินใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย 2) WTO คาดว่าการค้าโลกจะหดตัว 0.2% ในปีนี้ ลดลงอย่างมากจากในเดือนต.ค.67 ที่คาดกว่าการค้าโลกจะเติบโต 3.0%เนื่องจากมาตรการภาษีศุลกากรของปธน.ทรัมป์ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงด้านลบร้ายแรง และ 3) FactSheet ของทำเนียบขาวในวันที่ 15 เม.ย.68 เผยจีนเผชิญภาษีศุลกากรจากสหรัฐฯสูงถึง 245% แม้ภาษีศุลกากรตอบโต้และที่เชื่อมโยงกับเฟนทานิลยังรวมกันเท่าเดิมที่ 145%แต่การที่ทำเนียบขาวรวมตัวภาษีเฉพาะสำหรับสินค้า 7.5-100%เข้าไป และแสดงตัวเลขรวมข้างต้นได้สร้างความตกใจให้แก่นักลงทุนและลดทอนความหวังในการเจรจาระหว่าง 2 เศรษฐกิจขนาดใหญ่
ราคาน้ำมันดิบฟื้น : คาดแรงพยุงมาจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน ตามราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้น 1.86% ปิดที่ $62.47 หลังสหรัฐฯออกมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่โดยมุ่งเป้าไปที่การส่งออกน้ำมันของอิหร่าน ซึ่งการคว่ำบาตรครั้งนี้รวมถึงโรงกลั่นน้ำมันขนาดเล็กในจีน
คาด ECB หั่นดอกเบี้ยคืนนี้ : คืนนี้ติดตามผลการประชุม ECB ตลาดคาดปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ซึ่งจะส่งผลให้ Deposit Facility Rate ปรับตัวลง 2.25% นอกจากนี้ ติดตามการเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯได้แก่ ผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกประจำสัปดาห์ และจำนวนใบขออนุญาตก่อสร้างและที่อยู่อาศัยเริ่มสร้างเดือนมี.ค.68
ปัจจัยเพิ่มเติม
(+)รองนายกฯและรมว.คลัง เผยจากการหารือกับ PTTในเบื้องต้นถึงแผนการนำเข้า LNG จากสหรัฐฯเพิ่มอีก 1 ล้านตันเศษภายใน 5 ปี มูลค่าราว 600 ล้านดอลลาร์ โดยเป็นส่วนที่ใกล้จะหมดสัญญาซื้อขายจากแหล่งอื่นๆ ซึ่งในส่วนนี้จะพิจารณานำเข้าจากสหรัฐฯแทน ส่งผลให้ทางฝ่ายคาดจะช่วยลดการขาดดุลของสหรัฐฯต่อไทยและช่วยหนุนความหวังว่าการเจรจาภาษีศุลกากรกับสหรัฐฯเป็นไปในเชิงบวก
(+) รองนายกฯและรมว.คลัง เผย ธปท. ได้ส่งรายชื่อผู้ได้ใบอนุญาต (ไลเซนส์ ) Virtual Bank มาให้แล้วจำนวน 3 ราย ซึ่งเป็นไปตามที่กำหนด
(-) หุ้นขนาดใหญ่อย่าง KBANK และ KTC จะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันนี้จำนวน 8 และ 1.32 บาท ตามลำดับ คาดกระทบ SET Index รวมกันประมาณ -1.8 จุด
(-) สำนักงานไปรษณีย์ฮ่องกงจะระงับพัสดุที่จ่าหน้าไปรษณีย์ส่งไปยังสหรัฐฯตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย.68 เป็นต้นไป ส่วนการส่งไปรษณีย์อากาศจะเริ่มระงับวันที่ 27 เม.ย.68 เพื่อตอบโต้มาตรการภาษี ของปธน.ทรัมป์
ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ -นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ชนพัฒน์ สุวิยานนท์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์