วันพฤหัสบดีที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวขึ้นแรง ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยได้แรงหนุนจาก “ทรัมป์”ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศระงับการเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้เป็นระยะเวลา 90 วัน ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลสงครามการค้า มีแรงซื้อกลับเข้ามาในทุก Sector โดยหลักมาจากหุ้นกลุ่มพลังงานอิเล็กทรอนิกส์ ธนาคาร และไอซีที ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,133.95 จุด +45.77 จุด +4.21% มูลค่าการซื้อขาย 50,222 ลบ.Program Trading +1,500.66 ลบ. ต่างชาติ +957.82 ลบ. TFEX +13,167 สัญญา ตราสารหนี้ +1,008.59ลบ.
ปัจจัยบวก
+/- FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 82.5%ที่ FED จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมเดือนพ.ค. ทั้งนี้นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้โดยจะเกิดขึ้นในเดือนมิ.ย., ก.ค., ก.ย. และธ.ค. หลังการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ ากว่าคาด
+ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศกลับลำด้านภาษีศุลกากร โดยระงับการเก็บอัตราภาษีตอบโต้ใหม่จากประเทศส่วนใหญ่เป็นเวลา 90 วัน
+ จีนเรียกร้องให้สหรัฐกลับสู่โต๊ะเจรจาเพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการค้า ซึ่งจะต้องมีความเป็นธรรม ไม่ใช่การข่มขู่
ปัจจัยลบ
-ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 1,014.79 จุด หรือ -2.50% สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนมีแนวโน้มทวีความรุนแรงและทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยล่าสุดปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ประกาศเพิ่มการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนสู่ระดับ 125%
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 2.28 ดอลลาร์ หรือ -3.66% ปิดที่ 60.07ดอลลาร์/บาร์เรล โดยตลาดถูกกดดันจากความวิตกกังวลว่าสงครามการค้าที่ทวี
ความรุนแรงมากขึ้นระหว่างจีนและสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมัน
- จีนประกาศขึ้นภาษีตอบโต้สินค้าสหรัฐฯ ทุกรายการ สูงถึง 84% หลังจากปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ สั่งขึ้นภาษีสินค้าจีนทั้งหมดเป็น 125% ยิ่งทำให้
สงครามการค้าดุเดือดยิ่งขึ้น
- โกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของ GDP จีนลงอย่างมากโดยคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะโตเพียง 4% ในปี 2568 และ 3.5% ในปี 2569ลดลงจากคาดการณ์เดิมที่ 4.5% และ 4.0% ตามล าดับ ซึ่งเป็นผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการที่สหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอย่างหนักหน่วง
- สหรัฐฯ เปิดเผย ดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.4%YoY ในเดือนมี.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.5% จากระดับ 2.8% ในเดือนก.พ.
- สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 4,000 ราย สู่ระดับ 223,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ ากว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 225,000 ราย
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวลงตามทิศทางตลาดโลก โดยยังมีแรงกดดันจากความกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนมีแนวโน้มทวีความรุนแรง ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบดัชนีในวันนี้ 1,100-1,140 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากโครงการ TISA : CPALL SCB TISCO EGCO BDMS TU ADVANC
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก ThaiESG Extra : BBL BEM CPALL PTT TISCO
• หุ้นที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว : ANAN ORI NOBLE ITD TIPH TVH
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว : HMPRO GLOBAL DOHOME SCGD TEAMG