AT THE OPEN (#ATO)

SET Index ดีดไปยืนเหนือ 1100
กลยุทธ์เลือกหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว

Market Strategy
SET Index คาดรีบาวน์กลับตามกรอบ 1080-1120 จุด จากความกังวลต่อกำแพงภาษีสหรัฐฯ จะลดลงชั่วคราวหลังสหรัฐฯลดกำแพงภาษีเหลือ 10% ชั่วคราว (ยกเว้นจีนเก็บเพิ่มเป็น 125%) หุ้นเด่นวันนี้ ชอบ CCET และ BDMS

ตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้ฟื้นแรง นำโดย NASDAQ+12% S&P500 +9.5% Dow Jones +8% ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้น 7% แรงหนุนจากคุณทรัมป์ประกาศลดอัตราภาษีชั่วคราวเหลือ 10% เป็นระยะเวลา 90 วัน เพื่อเจรจากับประเทศต่างๆ ยกเว้นจีนที่ประกาศเก็บภาษีเพิ่มเป็น 125% มีผลทันที สำหรับประเด็นที่ต้องติดตามถัดไปคือ ท่าทีการตอบโต้ของจีนหลังจากนี้ว่าจะกลับมาเจรจาหรือตอบโต้สหรัฐฯเพิ่มเติม ส่วนบ้านเราติดตามพัฒนาการหลังจากรัฐบาลเผย 5 แนวทางเจรจาสหรัฐฯ ที่เรานำเสนอไปแล้ววานนี้

ด้านผลต่อตลาดหุ้น SET Index วันนี้ตอบสนองในเชิงบวกหลังจากระหว่างวันที่ 2-9 เม.ย. 68 ปรับลง 7% โดยกลุ่มที่ปรับลงแรงกว่าตลาดจากความกังวลต่อกำแพงภาษีสหรัฐฯ เช่น กลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ -11% กลุ่มพลังงาน -9% กลุ่มอสังหาฯ -9% หรือหุ้นที่กลุ่ม Domestic ที่ปรับลงตามตลาดทั้ง ๆ ที่ผลกระทบต่อกำแพงภาษีจำกัด (เช่น กลุ่มประกัน กลุ่มค้าปลีก) คาดจะเป็นกลุ่มที่รีบาวน์ได้ดีกว่า SET Index ในวันนี้ โดยหากเพิ่มเงื่อนไขในเชิงปัจจัยพื้นฐานที่เป็นหุ้นที่เราแนะนำซื้อ ราคาปัจจุบันซื้อขายต่ำกว่า PER ย้อนหลังเฉลี่ย 5 ปี ได้ 5 หุ้นรีบาวด์แรงดังนี้ CCET PTTEP SPRC COM7 และ MINT

Market Summary
SET Index ผันผวนติดลบช่วงแรก 12 จุด แต่สุดท้ายยังตีกลับปิดบวก 13.59 จุดหรือเท่ากับ 1.26% กลุ่มที่หนุนตลาดหลักๆ มาจากกลุ่มพลังงานที่ปรับแรงช่วงก่อน นำโดย GULF +5.6% GPSC +5.5% กลุ่มน้ำมันและปิโตรฯ จากความคาดหวังต่อจีนออกมาตรการกระตุ้นเพื่อลดผลกระทบจากกำแพงภาษีสหรัฐฯ หนุน PTTEP +1.3% PTTGC +4.8% SCC +4.6% กลุ่มอาหารจาก CPF +7.2% จากงบ 1Q68 คาดขยายตัว QoQ/YoY สวนทางกลุ่มสื่อ VGI -9.4% หลังรัฐบาลเลื่อนนำร่าง พ.ร.บ. สถานบันเทิงครบวงจรเข้าสภา กลุ่มนิคม WHA -2.4% AMATA -6.9% กดดันจากภาษีสหรัฐฯ

DAILY Stock Pick
CCET
การขึ้นภาษีของทรัมป์ผ่อนคลายกว่าที่คาด
หนุนหุ้นส่งออก
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 9.20 บาท
แนวโน้มการเติบโตของยอดขายแข็งแกร่ง จาก HDDs/SSDs รับรองการเติบโตของ AI และ Data Center รวมถึงลูกค้าใหม่ เราคาดการณ์กำไรปกติปี 68/69 เติบโต 8%YoY/32%YoY ณ ราคาปัจจุบัน ถูกซื้อขาย PE68 ที่ 14.9 เท่า (-0.4SD ของค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง) พร้อมกับอัตราเงินปันผล 68/69 ที่ 4%/5.3% ตามลำดับ
เมื่อคืนที่ผ่านมา Trump มีท่าทีผ่อนคลายการขึ้นภาษีกว่าที่ตลาดคาด ส่งผลความกดดันหุ้นส่งออกคลายตัว โดย CCET มีความเสี่ยงกับประเด็นดังกล่าวในระดับกลาง โดยคิดเป็น 10-15% ของรายได้ หากในระยะถัดไป ทรัมป์กลับมาขึ้นภาษีอีกครั้ง CCET พร้อมขยายโรงงานในสหรัฐ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบภาษี เป็นปัจจัยจำกัด Downside ในอนาคต

KEY FACTOR
แม้ว่าสหรัฐฯ จะส่งสัญญาณยืดหยุ่นให้กับประเทศอื่นๆ แต่สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ยังคงยกระดับความรุนแรงหลังสหรัฐฯ เก็บภาษีนำเข้าจากจีน 104% ซึ่งมีผลแล้วในวันนี้ ในขณะที่จีนเตรียมตอบโต้ โดยการปรับขึ้นภาษีนำเข้า รวมถึงมีความเป็นไปได้ที่จะมีมาตรการอื่นเพิ่มเติม เช่น แบนสินค้าบางรายการ ลดโควต้านำเข้าสินค้าเกษตร หรืออาจรวมไปถึงการลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐฯ ในขณะที่ตลาดการเงินโลกยังมีสัญญาณการเลี่ยงความเสี่ยง อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล อายุ 10 ปีของสหรัฐฯ เร่งตัวแตะระดับ 4.44% สูงสุดในรอบเกือบ 1 เดือน

นอกจากนี้ วันนี้ตลาดน่าจะให้น้ำหนักมาที่ตัวเลขเศรษฐกิจ 1) ดัชนี CPI ของจีน เดือน มี.ค. Consensus คาดทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลง YoY 2) อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ เดือน มี.ค. Consensus คาด CPI +0.1% MoM และ +2.5% YoY ส่วน Core CPI +0.3% MoM และ +3.0% YoY

EYES ON
10 เม.ย. : เงินเฟ้อสหรัฐฯ และจีน เดือน มี.ค.
11 เม.ย. : ดัชนี PPI ของสหรัฐฯ เดือน มี.ค.

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ, ออมทรัพย์ โง้วศิริ