Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

304

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 8 เม.ย.68 ปิด -50.62 จุด อยู่ที่ 1,074.59 จุด มูลค่าการซื้อขาย 66,714 ลบ. ต่างชาติขาย 2,475 ลบ.    สถาบันขาย 4,768 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 96 ลบ. และรายย่อยซื้อ 7,341 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิ 410 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น ADVANC,AOT,BBL,WHA,TRUE และยอดขายหุ้น KBANK,GULF,CPALL,SCB,TOP มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 99 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ TDEX,TAIWANAI13,SCC โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 16,331 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 23,773 สัญญา ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 4,099 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.84%, S&P500 -1.57%, Nasdaq -2.15% จากแรงขายกลุ่มวัสดุ -2.96%, สินค้าฟุ่มเฟือย -2.54% ขณะที่กลุ่มประกัน +5.4% ตลาดสหรัฐยังถูกกดดันจากภาวะสงครามการค้า หลังวันนี้เตรียมเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพิ่มอีก 50% ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +2.72% ได้แรงหนุนจากกลุ่มป้องกันประเทศ +5.1%, ธนาคาร +2.3% และประกัน +4.1% เป็นการฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในรอบ 14 เดือน  

Market View

  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลง หลัง ปธน.ทรัมป์ยืนยันเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ตามหมายกำหนดเดิมวันที่ 9 เม.ย. ส่งผลให้นักลงทุนผิดหวัง และจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพิ่มอีก 50% อยู่ที่ 104% ซึ่งจะมีผลวันนี้ หลังจีนตอบโต้สหรัฐด้วยการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐที่อัตรา 34% จากปัจจัยดังกล่าวบ่งชี้ภาวะสงครามการค้ามีแนมโน้มรุนแรงด้วย โดย JPMorgan ชี้มีโอกาส 60% ที่เศรษฐกิจสหรัฐอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย ทางด้านข้อมูลเศรษฐกิจค่ำวันนี้ติดตาม Fed Minutes, วันพฤห้ส US CPI มี.ค. คาด 2.5% & ก.พ. 2.8% YoY และวันศุกร์ ม.มิชิแกนรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ เม.ย. คาด 54.0 & มี.ค. 57.0 , คาดการณ์เงินเฟ้อสหรัฐ 1 ปีข้างหน้า มี.ค. คาดที่ 5.1% และรายงานกำไร Q1/68 ของ JPMorgan, Morgan Stanly, Wells Fargo
  • ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในรอบ 14 เดือน หลังคณะกรรมการ EC กำลังจะพิจารณาตอบโต้สหรัฐด้วยการเก็บภาษีนำเข้าที่ 25% กับสินค้าหลายรายการของสหรัฐ หรือทำข้อเสนอเจรจาให้ยกเลิกภาษีทั้ง 2 ฝ่าย โดยตลาดหุ้นยุโรปยังได้ปัจจัยหนุน จากคาดการณ์การประชุม ECB วันที่ 17 เม.ย. จะลดดอกเบี้ยลง 25% และปีนี้คาดจะลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง และกอปรกับได้ปัจจัยหนุนจาก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจของเยอรมัน
  • ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่วานนี้ฟื้นตัว โดยดัชนีเซี่ยงไฮ้ +1.58%, ฮั่งเส็ง +1.51% หลังจีนเตรียมให้กองทุนความมั่งจีน Central Huijin เพิ่มการลงทุนในตลาดหุ้นจีน เพื่อเป็นการรักษาเสถียรภาพของตลาด ส่วนดัชนีนิเกอิวานนี้ +6.03%, Kospi เกาหลีใต้ +0.26% อยู่ระหว่างการเจรจาข้อตกลงการค้ากับสหรัฐ
  • SET วานนี้ -4.50% ปริมาณการซื้อขาย 6.6 หมื่น ลบ. ต่างชาติขาย 2,475 ลบ. สถาบันขาย 4,768 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 96 ลบ. และรายย่อยซื้อ 7,341 ลบ. จากแรงชายกลุ่มปิโตรเคมี -7.1%, ท่องเที่ยว -6.9%, พลังงาน -6.8% และอสังหา -6.5% เป็นผลจากสหรัฐเรียกเก็บภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากไทยที่อัตรา 37% ส่งผลกระทบลบต่อมูลค่าออกไทย ซึ่งสหรัฐเป็นตลาดส่งออกไทยใหญ่สุดอันดับ 1 ของไทยในปีที่ผ่านมามีสัดส่วน 18% ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวอาจส่งผลให้ GDP ไทยปีนี้ขยายตัวต่ำกว่าระดับ 2% และหากสงครามาการค้าสหรัฐ – จีน ยีดเยื้ออาจส่งลบไปยังการลงทุน & การจ้างงานในประเทศด้วย โดยนักลงทุนอยู่ระหว่างผลการเจรจากับสหรัฐ เพื่อนำเข้าสินค้าสหรัฐมากขึ้น เช่น สินค้าเกษตร, พลังงาน และเครื่องบินพาณิชย์ รวมถึงการปรับยุทธศาสตร์ลดการพึ่งพาตลาดสหรัฐ และเน้นการค้าระหว่างกลุ่มอาเซียนเพิ่มมากขึ้น    

Daily Strategy

  • วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,060 – 1,065 แนวต้าน 1,080 – 1,090 คาดยังถูกกดดันจากภาวะสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ & จีน และรอผลการเจรจาการค้าของคณะทำงานไทย & USTR แนะนำพักเงินในกลุ่มปลอดภัย เช่น ADVANC,TRUE, BCH / กลุ่มไฟแนนท์ MTC, TIDLOR คาดได้ประโยชน์หาก กนง.ลดดอกเบี้ย
  • TIDLOR* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 20.20 บาท) บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 4Q67 ที่ 1 พันล้านบาท เติบโต QoQ, YoY แม้ว่า NIM จะปรับลดลงต่อจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น และมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่สูงกว่าไตรมาสอื่น แต่ได้รับการชดเชยจากการตั้งสำรองที่ลดลงสอดคล้องกับคุณภาพสินเชื่อที่ดีขึ้น โดย NPL ratio ลดลงเหลือ 8% เป็นผลจากความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อและอานิสงส์มาตรการแจกเงินของรัฐบาล ส่วนรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยดีขึ้นจากธุรกิจนายหน้าขายประกัน รวมปี 67 มีกำไรสุทธิ 4.2 พันล้านบาท +12%YoY สำหรับแนวโน้มปี 68 ตลาดคาดกำไรราว 4.8 พันล้านบาท +13%YoY หนุนจาก NIM ที่เริ่มทรงตัวต้นทุนดอกเบี้ยน่าจะใกล้ถึงจุดสูงสุด ขณะที่สินเชื่อรวมปรับเพิ่มขึ้นใกล้ปีก่อนราว +7% เน้นจำนำทะเบียนและยังเข้มงวดกับสินเชื่อรถบรรทุกมือสองที่มีความเสี่ยงสูง ส่วนคุณภาพสินเชื่อจะดีขึ้นการตั้งสำรองจะปรับลดลง และผลขาดทุนรถยึดจะชะลอลง
  • BDMS (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย00 บาท) กำไรสุทธิ 4Q67 อยู่ที่ 4,333ลบ. (+9.64%YoY, +2.04%QoQ) หนุนจากรายได้ผู้ป่วยต่างชาติ(รวม +10% นำโดยการ์ตา +56%YoY/ จีน +34%YoY/USA +29%YoY) ด้านต้นทุนค่าใช้จ่ายได้ดี ประจวบกับรายได้อื่นที่สูงขึ้นจาก Mövenpick BDMS Wellness Resort และมี Tax Credit ส่งผลให้ GPM และNPM สูงขึ้น YoY QoQ ส่วน 1Q68 แม้มีปัจจัยกดดันจาก 1.ประกันรูปแบบ Co-pay ตั้งแต่ 20 มี.ค.68 และ 2.รอมฎอนในช่วง 28ก.พ.-29มี.ค.68 อย่างไรก็ตาม คาดว่าการดำเนินงานจะยังสามารถอยู่ในเกณฑ์ดีได้จากร.พ.ในต่างจังหวัดที่ทำได้ดีในช่วงปี67 ที่ผ่านมา ส่วนภาพรวมรายได้ ม.ค.-ก.พ.68 ยังเห็นการบวกต่อเนื่องได้ดี YoY โดย ผู้บริหารวางเป้าการเติบโตของรายได้ในช่วง 1H68 ราว +7 ถึง 8%YoY

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI พ.ค. -$1.12 อยู่ที่ $59.58 / บาร์เรล, Brent มิ.ย. -$1.39 อยู่ที่ $62.82/บาร์เรล หลังสหรัฐเตรียมเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพิ่มอีก 50% อยู่ที่ 104% ซึ่งจะมีผลวันนี้ บ่งชี้แนวโน้มสงครามการค้ารุนแรงขึ้น และเป็นผลลบต่ออุปสงค์ความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลก ขณะที่กลุ่มโอเปกพลัสเตรียมจะเพิ่มกำลังการผลิต 411,000 บาร์เรล/วัน ใน พ.ค. นี้

 

Gold Update(+) Comex Gold มิ.ย.+$16.60 อยู่ที่ $2,990.20 /ออนซ์ ได้แรงหนุนจาก Dollar Index อ่อนค่า -0.3% อยู่ที่ 102.955 กอปรกับทองคำยังเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ขายสุทธิรวม -306.52  ล.ดอลลาร์สหรัฐ โดยขายหุ้นไทย -71.12 ล.ดอลลาร์สหรัฐ , ขายหุ้นอินโด ฯ -227.95 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -7.45 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าอยู่ที่ 34.87 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.348 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -59 จุด อยู่ที่ 1,342

(-) BitCoinเช้านี้ -3.13% อยู่ที่ 76,542 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

สัปดาห์ที2  ม.หอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค, ดัชนีความเชื่อมั่น

หอการค้าไทย

สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและ

อัพเดตสถานการณ์ลงทุน

ตลท. แถลงสรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์ 

 

ต่างประเทศ

09 เม.ย.    US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

10 เม.ย.    US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

                US รายงานการประชุมของ FOMC

                US ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)(มี.ค.) 

11 เม.ย.    US ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) (มี.ค.)

 

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่น 1H68 เน้น หุ้นในธุรกิจใหม่ที่เป็น Trend ในอนาคต อย่าง Data Center รวมถึงหุ้นที่มีแนวโน้มกำไรปกติ 4Q67-1Q68 คาดออกมาดี และ หุ้นที่รับความผันผวนได้ดีจากความเสี่ยง Trade War/ธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย  

 

(1) กลุ่มธนาคารที่มี Sentiment บวกจากธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย/มี Yield สูง BBL, KTB, KBANK, TISCO*, TTB*

 

(2) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CRC, NSL*, TNP*, OSP*

 

(3) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, SKR

 

(4) กลุ่มมีโอกาสเกี่ยวข้องกับการลงทุน Data Center/ธุรกิจ Trend อนาคต ADVANC,INTUCH*,TRUE,GULF*,AMATA

 

(5) กลุ่มสินค้า IT ที่ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี(เช่น AI function/ 4G to 5G) SYNEX*, ADVICE*, SIS*

 

(6) กลุ่มที่มี Sentiment บวกจาก Entertainment Complex BTS*, VGI*, MBK*, BA

 

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 55% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio April 2025: CPALL, SYNEX*, KLINIQ, DOHOME*, BDMS

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ปลุกหุ้นใหญ่ By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดหุ้นไทย สูตรเดิม มักใช้ได้เสมอ ใช้หุ้นDELTA นำ ตามด้วย .....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้