ราคาทองคำวันนี้ (8 เม.ย.) มีการฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 สัปดาห์ แต่ช่วงการฟื้นตัวขึ้นต่อยังคงจำกัด
ทั้งนี้ ราคาทองคำ ยังได้รับแรงกดดัน จากการถูกขายทำกำไรของนักลงทุน เพื่อเพิ่มระดับเงินสด และสำรองการจ่ายเพื่อรักษาหลักประกัน (Maintenance Margin) ในการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งพันธบัตรสหรัฐถูกขายทำกำไรเช่นเดียวกัน
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐจึงดีดตัวขึ้น หนุนการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ราคาทองคำ จึงถูกกดดันมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ดี ค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่ออย่างจำกัด ตามมุมมองเชิงลบของเศรษฐกิจสหรัฐ ที่เพิ่มสูงขึ้น จากประเด็นสงครามการค้าที่ส่อแววรุนแรงมากขึ้น เนื่องด้วยทางการจีนยังคงยืนยันที่จะต่อสู้อย่างถึงที่สุดในการตอบโต้มาตรการด้านภาษีศุลกากรของสหรัฐ แม้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ขู่ว่าจะปรับขึ้นอัตราภาษีนำ เข้าสินค้าจากจีนอีก 50.0% หากจีนไม่ถอนมาตรการตอบโต้ดังกล่าวก่อนวันพรุ่งนี้ (9 เม.ย.) ซึ่งมุมมองเชิงลบดังกล่าว ชี้นำ ให้สถาบันการเงินรายใหญ่เพิ่มความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐ อาจเผชิญกับภาวะถดถอยในปีนี้ สอดคล้องกับการเพิ่มความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากกว่า 1.00%ในปีนี้ อันเป็นปัจจัยกดดันของค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ
อนึ่ง ด้วยมุมมองเชิงบวกด้านราคาของทองคำ ที่ลดลง และแนวโน้มการขายทองคำ เมื่อราคาปรับตัวขึ้น ราคาทองคำ จึงยังอาจปรับตัวขึ้นต่อได้เพียงจำกัด
คำแนะนำ
รอเปิดสถานะซื้อ หากราคาปรับย่อตัวลงไม่หลุดแนวรับบริเวณ 2,956 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แบ่งปิดสถานะซื้อทำ กำ ไร หากราคาปรับตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้านที่ 3,016 ดอลลาร์ต่อออนซ์
หากราคาผ่านแนวต้านดังกล่าว ชะลอการปิดสถานะซื้อไปที่แนวต้านโซน 3,054-3,087 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สถานะซื้อควรตัดขาดทุน หากราคาหลุดแนวรับระดับ 2,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์