AT THE OPEN (#ATO)
SET Index คาดพักตัว
กลยุทธ์เลือกหุ้น Domestic Play
Market Strategy
SET Index คาดพักตามกรอบ 1150-1165 จุด แรงกดดันวันนี้จะมาจากกลุ่มพลังงานหลังกลุ่ม OPEC+ เพิ่มกำลังการผลิตเดือน พ.ค. มากกว่าคาด ส่วนปัจจัยในประเทศมี Sentiment ลบ หลายสำนักเศรษฐกิจส่งสัญญาณปรับลด GDP หุ้นเด่นวันนี้เลือก KKP SCCC
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ปรับลงแรงตอบรับมาตรการภาษีตอบโต้ที่มากกว่าคาด ประกอบกับการรายงาน ISM ภาคบริการเดือน มี.ค. ที่ 50.8 ต่ำกว่าคาดที่ 52.9 เพิ่มความกังวลต่อการเกิด Recession ในสหรัฐฯ กดดันตลาดหุ้นปรับลงทุกดัชนี นำโดย NASDAQ -6% S%P500 -5% และ Dow Jones ปรับลง -4% สำหรับวันนี้ติดตามรรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ เดือน มี.ค. ซึ่งตลาดคาดเพิ่มขึ้น 1.4 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่าเดือนก่อนที่ 1.51 แสนตำแหน่ง และอัตราการว่างงานที่ 4.1% เท่าเดือนก่อน หากออกมาต่ำกว่าคาดอาจเป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้ต่อ นอกจากนี้ติดตามมุมมองเศรษฐกิจของประธาน FED ในการประชุมประจำปีที่รัฐเวอร์จิเนีย
ด้านราคาน้ำมันดิบ Brent วานนี้ปรับลงแรง -6.4% จากความไม่แน่นอนจากฝั่ง Supply จาก OPEC+ เห็นพ้องที่จะเพิ่มกำลังการผลิตในเดือน พ.ค. 4.11 แสนบาร์เรลต่อวัน สูงกว่าแผนเดิมที่จะเพิ่มขึ้น 1.4 แสนบาร์เรล ผสานกับความเสี่ยงต่อการเติบโตเศรษฐกิจโลกจากกำแพงภาษี ซึ่งเชื่อว่าจะสร้างแรงกดดันต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน PTTEP TOP SPRC วันนี้
สำหรับในประเทศ จากนี้จะอยู่ในช่วงประเมินความเสี่ยงจากภาษีตอบโต้สหรัฐฯที่ปรับขึ้นไทย 36% คาดว่าจะเห็นหลายสำนักเศรษฐกิจปรับลด GDP ไทยในปีนี้ (ล่าสุด Consensus คาดที่ 2.5%YoY) แต่อีกด้านหนึ่งต้องติดตามแนวทางการเจรจาขอลดภาษีสหรัฐฯ มาตรการกระตุ้นการคลังและการเงินต่อไป
Market Summary
SET Index ติดลบ -11 จุดหรือ -0.9% จากภาษีตอบโต้สหรัฐฯ กดดันต่อกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ DELTA -10% CCET -8% กลุ่มอาหาร TU -3.6% ITC -2.2% กลุ่มยาง STA -2.1% กลุ่มนิคม WHA -10% AMATA -15.5% ด้านกลุ่มที่ปรับขึ้นเด่นกลุ่มรายได้อิงในประเทศ นำโดยกลุ่มรับเหมาฯ STECON +13.7% CK +2.9% กลุ่มไฟแนนซ์บนการเก็งต่อการปรับลดดอกเบี้ยฯ ได้ง่ายขึ้นหนุน MTC +3.8% SAWAD +6.2% กลุ่ม Defensive อย่างโรงพยาบาล BDMS 0.9% PR9 +1.5% กลุ่ม ICT TRUE +1.7% ADVANC +0.4%
DAILY Stock Pick
KKP
ปันผลค้ำ กำไรโตเด่นสุดในกลุ่ม
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 65.00 บาท
คาดการณ์กำไรหลักในปี 2568 จะเติบโต 13% (สูงสุดในกลุ่มธนาคาร) เนื่องจาก 1) ผลขาดทุนจากการขายลดลง 2) ต้นทุนทางการเงินลดลง 3) แผนบริหาร จัดการเงินลงทุนที่แข็งแกร่ง โดย ณ ราคาปัจจุบัน ซื้อขาย PE68 ที่ 8.3 เท่า (-0.1SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) PBV68 ที่ 0.7 เท่า (+0.7SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) พร้อมกับอัตราเงินปันผลปี 68 ที่ 7.7%
เชิงกลยุทธ์ กลุ่มธนาคาร มักปรับตัวขึ้นก่อน 2 สัปดาห์ ก่อนขึ้น XD โดย KKP ขึ้น XD วันที่ 2 พ.ค. 68 จ่ายเงินปันผล 2.75 บาทต่อหุ้น (คิดเป็นอัตราเงินปันผลที่ 4.9%) และปัจจุบัน (2 เม.ย.) KKP มีโอกาสถูกนำเข้า SET50 ในการคำนวณรอบ 2H68 เนื่องจากมีมูลค่าหลักทรัพย์เฉลี่ยอยู่ในลำดับที่ 48 จาก 2 ปัจจัยดังกล่าวเป็นปัจจัยหนุนการปรับตัวขึ้น
KEY FACTOR
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญในวันนี้ Consensus คาดการณ์ 1) ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือน มี.ค. ของสหรัฐฯ +1.4 แสนตำแหน่ง ชะลอลงเล็กน้อยจาก +1.5 แสนตำแหน่ง ในเดือนก่อนหน้า 2) อัตราการว่างงาน เดือน มี.ค. ของสหรัฐฯ ทรงตัวที่ 4.1%
ส่วนในประเทศติดตามการรายงานเงินเฟ้อไทย เดือน มี.ค. +1.0% YoY และ +0.11% MoM ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) คาด +1.0% เช่นกัน ซึ่งเพิ่มขึ้นในอัตราเร่งเท่ากับเดือนก่อนหน้าที่ +0.99% YoY ซึ่งถือเป็นระดับที่สะท้อนภาพ เชิงบวกต่อเศรษฐกิจ ทั้งนี้ คาดว่าจะมาจากภาคการท่องเที่ยวที่ยังดีต่อเนื่อง รวมทั้งราคาสินค้าเกษตรบางชนิดที่ยังสูง ในทางกลับกันปัจจัยที่ทำให้เงินเฟ้อไม่เร่งตัวสูงเกินไปยังคงมาจากมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของรัฐบาล
EYES ON
4 เม.ย. : การจ้างงานนอกภาคเกษตร, อัตราการว่างงาน, อัตราเงินเฟ้อไทย เดือน มี.ค.
นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ, ออมทรัพย์ โง้วศิริ