วันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหว Sideway Down ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ จากความกังวลสงครามการค้า โดย “ทรัมป์” ปธน.สหรัฐ เตรียมเริ่มใช้มาตรการภาษีตอบโต้ในวันที่ 2 เม.ย.นี้ อย่างไรก็ตามตลาดปิดท าการก่อนก าหนด เนื่องจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว มีแรงขายมากในหุ้นกลุ่ม Big-Cap น าโดยกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ พลังงาน และขนส่ง ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ PCEของสหรัฐ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,175.45 จุด -12.45 จุด -1.05% มูลค่าการซื้อขาย17,293.46 ลบ. (ในสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนี -11.16 จุด -0.94%) Program Trading -2,127.54 ลบ. ต่างชาติ-2,264.15 ลบ. TFEX -1,848 สัญญา ตราสารหนี้ n/a ลบ.
ปัจจัยบวก
+ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจ าส านักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าสถาบันการเงินรัฐเร่งออกมาตรการช่วยเหลือให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แผ่นดินไหว
+ BOI ชูเมดิคัลฮับเผยผลการเยือนอินเดีย รุกดึงการลงทุน อุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เปิดโต๊ะเจรจากลุ่มอุตสาหกรรมยาและอุปกรณ์การแพทย์ชั้นน า
+ บอร์ด รฟท. เตรียมเสนอ ครม.ไฟเขียวหนุนค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย"สายสีแดง-แอร์พอร์ตเรลลิงก์" เริ่ม ก.ย.68 หนุนใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชน
ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 715.80 จุด หรือ -1.69% โดยหุ้นเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่างอะเมซอน, ไมโครซอฟท์ และหุ้นอื่น ๆ ถูกเทขายออกมา หลังจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ท าให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอและเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ขณะที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เดินหน้าเก็บภาษีนำเข้า
- สัญญาน้ ามันดิบ WTI ลดลง 56 เซนต์ หรือ -0.8% ปิดที่ 69.36 ดอลลาร์/บาร์เรลเนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า การท าสงครามภาษีของสหรัฐฯ อาจกระตุ้นให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ราคาน้ ามันยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 3 สัปดาห์ติดต่อกัน หลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มแรงกดดันต่อประเทศผู้ผลิตน้ ามันในกลุ่มโอเปกอย่างเวเนซุเอลาและอิหร่าน
-ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน (Core PCE) ในเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น0.4% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 0.3% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (HeadlinePCE) ปรับตัวขึ้น 0.3% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้
- รัฐบาลเมียนมาเปิดเผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรง 7.7 แมกนิจูดในเมียนมาพุ่งขึ้นแตะระดับ 1,700 รายแล้วในขณะนี้ ผู้บาดเจ็บ 3,400 ราย และสูญหายกว่า 300 ราย
- รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมบังคับใช้มาตรการภาษีน าเข้ากับสินค้าอุปโภคบริโภคหลายรายการในวันที่ 2 เม.ย. นี้ ซึ่งสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากผู้น าต่างประเทศและก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับราคาสินค้าที่อาจสูงขึ้น
- ตลท. สรุปมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตามกลุ่ม นักลงทุนตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม28 มีนาคม 2568 พบว่าสถาบันในประเทศขายสุทธิ 3,718.83 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 8,750.47 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 38,379.82 ล้าน
บาท นักลงทุนในประเทศ ซื้อสุทธิ 50,849.13 ล้านบาท
- ม.หอการค้าไทย เปิดเผยว่า คาดผลกระทบแผ่นดินไหวต่อเศรษฐกิจไตรมาสสองรุนแรง ในเบื้องต้นประเมินว่าอาจท าให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาสสองขยายตัวติดลบเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกที่เศรษฐกิจไทยน่าจะขยายได้สูงเกือบ 4%
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้ปรับตัวลง โดยได้รับผลกระทบเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศ ประกอบกับความวิตกกังวลว่ามาตรการภาษีศุลกากรของรัฐบาลโดนัลด์ทรัมป์จะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวลง มองกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,150-1,180 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากโครงการ TISA : CPALL SCB TISCO EGCO BDMS TU ADVANC
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก ThaiESG Extra : BBL BEM CPALL PTT TISCO
• กรณี ธปท.ผ่อนปรนมาตรการ LTV แนะน า top pick หุ้นที่อยู่อาศัย ได้แก่ AP LH SIRI SC SPALI QH
• ครม.เห็นชอบ. ร่าง พรบ. Entertainment Complex : VGI BTS PLANB
• หุ้นที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว : ANAN ORI NOBLE ITD TIPH TVH
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว : HMPRO GLOBAL DOHOME SCGD TEAMG