โดยถ้าเปิดครบทุกสาขาตามเป้า แบรนด์ตี๋น้อย ก็จะอยู่กับ JAS ทั้งหมด 11 ร้าน ใช้พื้นที่รวมกว่า 6,600 ตรม
นอกจากนี้เราก็มีพันธมิตรใหม่ๆที่เป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตเข้ามาตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว อย่างแม็คโครที่ไปเปิดที่แจส วิลเลจ อมตะ ชลบุรี ช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2024 โลตัส มาเปิดที่สาขาประเวศ และล่าสุดปลายปี 2024 เราได้กลุ่ม Big C ที่เอาพรีเมี่ยมแบรนด์อย่าง Big C Food Place มาเปิดที่เดอะ แจส รามอินทรา
ปี 2025 เราตั้งใจเปิดพื้นที่โซนให้เช่าเป็นสำนักงานเพิ่มขึ้น สำหรับบริษัทที่จะเปิดใหม่ หรือมีสำนักงานสาขาที่ต้องการออกมาโซนรอบเมือง กับการจอดรถที่สะดวก มีร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม Food Court ซุปเปอร์มาร์เก็ตที่สะดวกกับพนักงาน เพราะโควิดทำให้หลายบริษัทใช้พื้นที่สำนักงานขนาดเล็กลง มีการทำงานแบบ Work From Anywhere ได้ การมาเช่าพื้นที่ในศูนย์การค้าชุมชนก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือก
"ส่วนการซัพพอร์ตผู้ประกอบการที่อยู่ในห้างของเรา เรามีกิจกรรม JAS Live Mall โดยมีทีมที่จะช่วยผู้ประกอบการทำธุรกิจขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ โดยใช้ Tiktok เพื่อให้ผู้ประกอบการขนาดกลาง และเล็กได้เพิ่มช่องทางการขายออนไลน์โดยไม่ต้องลงทุน ในมุม Customer Journey เรามี JAS Family ที่เป็นระบบ CRM ให้สิทธิประโยชน์แก่ลูกค้า และแน่นอนมีระบบสะสมคะแนนผ่าน Jpoint ที่เป็น Ecosystem ของ Jaymart เพื่อให้ทางลูกค้าสามารถ Earn/Burn คะแนนได้" คุณสุพจน์ กล่าว
นอกจากธุรกิจหลักในการพัฒนาพื้นที่เช่า และการสร้างและบริหารศูนย์การค้าชุมชน เราต้องการที่จะนำเอา ความเป็นตัวตนของเราตาม Slogan ของ JAS คือ "Synergetic Wellbeing Community Builder" มาสร้างให้เกิดเป็นรูปธรรมมากขึ้น ด้วยเราอยู่กับชุมชน เราจึงอยากให้การพัฒนาพื้นที่ของเรา มีการดูแลและการเข้าถึงบริการสุขภาพ จากการมองเห็นโอกาสทางธุรกิจที่ปัจจุบันโลกและประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบแล้ว สังคมไทยแม้จะมีเรื่องความกตัญญู แต่วิถีการใช้ชีวิตในปัจจุบันที่ครอบครัวมีขนาดเล็กลง คนวัยทำงานมีเงิน แต่ไม่มีเวลา ก็เกิดเป็น Pain และ ธุรกิจการดูแลผู้สูงอายุ และ ผู้มีภาวะพึ่งพิงจึงเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ JAS มองเห็น และตั้งใจที่จะพัฒนาโครงการที่เป็น Mixed Use ที่เป็น Lifestyle Nursing Home อยู่ติดห้างชุมชนเพื่อความสะดวกของผู้อยู่และญาติ ที่สำคัญยังให้ความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ไม่ได้รู้สึกเหมือนถูก Left Out