Com7 PCL (COM7 TB)
มีดาวน์ไซด์จาก ADVANC และอัพไซด์มาจากแท็กซี่ EV

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายไม่เปลี่ยนแปลงที่ 29.50 บาท
เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” COM7 เพราะ 1) คาดว่ากำไรหลักปี 68 จะเติบโต 14% และ 2) คาดการณ์อัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่ 4-5% ในปี 68-69 โดยในรายงานฉบับนี้ เราวิเคราะห์ผลกระทบจากกลยุทธ์ค้าปลีกเชิงรุกของ ADVANC (ถือเป็นความเสี่ยงต่อ COM7) และโครงการให้เช่าแท็กซี่ EV ของ COM7 (ถือเป็นอัพไซด์ต่อ COM7) แม้ว่าเราคาดว่า ทั้งสองปัจจัยนี้จะไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อ COM7 ในปี 68 เราคงราคาเป้าหมายที่ 29.50บาท อิง P/E ปี 68 ที่ 19 เท่า ปัจจุบัน อัตราส่วน P/E ปี 67/68 ของ COM7 ต่ำกว่าของ SYNEX ถึงแม้จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 3 ปี ของ EPS (CAGR) ที่สูงกว่าที่ 11% (เทียบกับ 7% ของ SYNEX) และมี ROE ปี 68 ที่สูงกว่าที่ 36% (เทียบกับ 15% ของ SYNEX)

กลยุทธ์ค้าปลีกของ ADVANC อาจเป็นความเสี่ยงในปี 69
ในปี 68 หัวหน้าคณะบริหารด้านธุรกิจค้าปลีก ของ ADVANC วางแผนที่จะปรับปรุงพื้นที่ร้านค้าและนำเสนอผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมเพื่อเพิ่มผลกำไรของร้านค้าปลีก ซึ่งอาจเป็นความเสี่ยงต่อ COM7 ในปี 69 อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าจะไม่มีผลกระทบในปี 68 เนื่องจาก 1) คงต้องใช้เวลาในการปรับเปลี่ยนมุมมองของลูกค้าต่อ AIS Shop จากร้านให้บริการ (จ่ายบิล-ซื้อสมาร์ทโฟนพร้อมแพ็กเกจ) เป็นร้านค้าปลีกสินค้าไอที และ 2) ADVANC จะเน้นเพิ่มยอดขายในร้าน AIS Shop 228 แห่ง ซึ่งมีจำนวนไม่มากเมื่อเทียบกับ 1,139 สาขาของ COM7 นอกจากนี้ COM7 อาจหากลยุทธ์ตอบโต้ได้ ตัวอย่างเช่น ในช่วงปี 63-65 ทาง COM7 สามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดได้ แม้ว่าผู้ให้บริการมือถือมีการลดราคาเครื่องเยอะกว่าปัจจุบันมาก

ธุรกิจให้เช่าแท็กซี่ EV คิดเป็นอัพไซด์ 4% ต่อกำไรหลักปี 69
COM7 คาดว่าใบอนุญาตของรถแท็กซี่ส่วนใหญ่ในกรุงเทพฯ จะหมดอายุในปี 68 (30,000 คัน) และ 69 (30,000 คัน) ทำให้ทางบริษัทมีโอกาสทำธุรกิจปล่อยเช่าแท็กซี่ EV โดยหากสามารถปล่อยเช่าได้ 2,500 คันภายในสิ้นปี 68 เราคาดว่าธุรกิจนี้จะสร้างกำไรสุทธิราว 161 ล้านบาท (คิดเป็นอัพไซด์ 4% ต่อประมาณการกำไรหลักปี 69) การเปลี่ยนมาใช้ EV จะช่วยเพิ่มกำไรต่อวันของคนขับแท็กซี่ได้ราว 223-373 บาท จากต้นทุนเชื้อเพลิงที่ลดลง นอกจากนี้ COM7 จะโอนกรรมสิทธิ์รถให้คนขับหลังจากเช่า 6 ปี อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่เริ่มโครงการเมื่อ 10 มีนาคม 68 มีการปล่อยเช่าไปประมาณ 100 คันจากจำนวนรถที่มีอยู่ 200 คัน

คาดการณ์กำไรหลักปี 68 เติบโต 14%
เราคาดว่ากำไรหลักปี 68 จะเติบโต 14% จากการเติบโตของรายได้ 9% และอัตราส่วน SG&A ต่อรายได้ที่ลดลง (จากการปิดร้านที่มีผลการดำเนินงานไม่ดีจำนวนมากในปี 67) ปัจจัยขับเคลื่อนรายได้ในปี 68 ได้แก่ วัฏจักรการซื้ออุปกรณ์ที่มี AI การขยายสาขา และอาจรวมไปถึง iPhone 17 Air

Wasu Mattanapotchanart
wasu.m@maybank.com
(66) 2658 5000 ext 1392