Company Note
i-Tail Corporation

แนวโน้มกำไรสุทธิ 1Q25F ลดลง YoY และ QoQ ต่ำกว่าที่เราคาด แม้ว่า demand อาหารสัตว์เลี้ยงยังเติบโตมีปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น และ product mix premium ที่ลดลง ส่งผลให้ราคาขายเฉลี่ยลดลง ในขณะที่ต้นทุนราคาปลาทูน่าที่เพิ่มขึ้นเดือนก.พ.25 อยู่ที่เฉลี่ยที่ 1,700 US$/tons เพิ่มขึ้นจากราคาเฉลี่ยปี 2024 อยู่ที่ 1,438 US$/tons และค่าใช้จ่ายในการทำการตลาดโปรเจคเทลวินด์ที่เพิ่มขึ้น แนวโน้ม 2Q25F คาดเติบโตจากผ่านจุดต่ำสุดใน 1Q25F ของปี

คาดกำไรสุทธิ 1Q25F ลดลง YoY และ QoQ ต่ำกว่าที่คาดไว้เดิม

เราคาด ITC จะมีกำไรสุทธิ 1Q25F ที่ 683 ล้านบาท (-17%YoY, -14%QoQ) จากคาดรายได้ที่ +4%YoY และ -11%QoQ โดยในไตรมาสนี้ยังมีปัญหาเรือขนส่ง แม้จะมีออเดอร์ที่เลื่อนมาจาก 4Q24 ประมาณ 10% แต่มีออเดอร์ที่เลื่อนออกไปใน 2Q25F อีก 10% เช่นกัน ในขณะที่ demand ความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงยังเพิ่มขึ้น จากปริมาณการขายเพิ่มขึ้น แต่สัดส่วน product mix premium ลดลง ทำให้ราคาขายเฉลี่ยลดลง QoQ คาดอัตราทำกำไรขั้นต้นลดลง YoY และ QoQ จากต้นทุนปลาทูน่าที่เพิ่มขึ้น และค่าเสื่อมที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดโรงงานใหม่ใน 4Q24 และคาดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายเพิ่มขึ้นจากโปรเจกต์เทลวินด์ (Tailwind) ซึ่งมุ่งเน้นที่การเร่งการเติบโตในกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์ คาดอัตราภาษีจ่ายอยู่ที่ 8.5% และคาดไตรมาสนี้บันทึกขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 5 ล้านบาท

ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2025-26F

คาดกำไร 1Q25F เป็นไตรมาสที่ต่ำสุดของปี คิดเป็น 18% ของกำไรที่เราคาดทั้งปี แนวโน้มผลประกอบการ 2Q25F รายได้จะเพิ่มขึ้นได้จาก demand ที่ยังคงเพิ่มขึ้น และคาดค่าใช้จ่าย consultant fee จะค่อยๆลดลงในไตรมาสถัดไป ในส่วนของรายได้เราคาดจะเพิ่มขึ้นได้จากการเลื่อนส่งสินค้ามาประมาณ 10% ที่ยังไม่ได้ส่งมอบและบริษัทมีออเดอร์ backlog 50% แล้วจากเป้าหมาย บริษัท เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2025-26F เติบโต 4% และ 15% ตามลำดับ สะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว แม้ demand อาหารสัตว์เลี้ยงโลกเติบโตคาดเฉลี่ยปีละ 6% (CAGR5Y) จากความต้องการของลูกค้าที่เน้นราคาสินค้าถูกลงแต่ยังคงความพรีเมี่ยม คาดอัตรากำไรขั้นต้นลดลงจากปี 2024F จากแนวโน้มราคาปลาทูน่าที่คาดเพิ่มขึ้นกลับสู่ระดับปกติที่ 1,500-1,700$/tons จากการทำ sensitivity การเปลี่ยนแปลงทุกๆ +1% ของต้นทุนปลากระทบกำไรสุทธิ +/- 0.6% (ต้นทุนปลาทูน่าคิดเป็น 18% ของต้นทุนรวม) คาดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้นประมาณปีละ 12.5% จากโปรเจกต์เทลวินด์ (Tailwind) ซึ่งมุ่งเน้นที่การเร่งการเติบโตในกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าเหมาะสม 22 บาท

เราเปลี่ยนคำแนะนำเป็น “ซื้อ” จาก ITC ยังเป็นผู้นำธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงแบบพรีเมี่ยมและมีส่วนแบ่งการตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงส่งออกอันดับต้นในประเทศ มูลค่าที่เหมาะสมที่ 22 บาท อ้างอิง PER Forward ของอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงต่างประเทศเฉลี่ยที่ 17.5X โดยเทียบกับราคาหุ้นปัจจุบันที่ซื้อขาย PER25F ที่ 12.8X และคาด Dividend Yield 3.9% สำหรับ สถาณะการเงินแข็งแกร่งเป็นเงินสดสุทธิ (net cash)