Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

443

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 19 มี.ค.68 ปิด +13.49 จุด อยู่ที่ 1,189.66 จุด มูลค่าการซื้อขาย 42,722 ลบ. สถาบันซื้อ 1,205 ลบ.  พอร์ตโบรกซื้อ 330 ลบ. ต่างชาติขาย 708 ลบ. และรายย่อยขาย 828 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิ 404 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น AOT,BDMS,PTTEP,SCB,OR และยอดขายหุ้น PTT,KBANK,GULF,BH,SCC มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,954 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ TAIWANHD13,TAIWANAI13,INDIA1001 โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 7,336 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 20,800 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 1,320 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.92%, S&P500 +1.08%, Nasdaq +1.41% ได้แรงหนุนจากกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย +1.9%, พลังงาน +1.59%, เทคโนโลยี +1.42% หลังเฟดมีมติคงดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25 – 4.50% และยังคงคาดการณ์ลดดอกเบี้ย 2 ครั้งปีนี้ ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.19% ได้แรงหนุนจากกลุ่มค้าปลีก +1.6% ตอบรับ ม.กระตุ้นเศรษฐกิจของเยอรมัน และการเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหม  

Market View

  • ตลาดหุ้นสหรัฐได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี, สินค้าฟุ่มเฟือย หลังเฟดมีมติคงดอกเบี้ยที่ 4.25 – 4.5% และคาดการณ์ลดดอกเบี้ยปีนี้ 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ตาม Dot Plot ใน ธ.ค. ที่ผ่านมา แต่ปรับลดคาดการณ์ US GDP ปีนี้ลงอยู่ที่ 1.7% & เดิมที่ 2.1%, อัตราเงินเฟ้อปีนี้คาดปรับขึ้นอยู่ที่ 2.8% & เดิมที่ 2.5% และอัตราว่างงานปีนี้คาดที่ 4.4% & เดิมที่ 4.3% โดยคณะกรรมการเฟดชี้ยังมีความไม่แน่นอนจาก ม.ของ ปธน.ทรัมป์ ดังนั้นจึงขอรอดูประเมินสถานการณ์ก่อน ส่วน ปธ.เฟดขี้ ม.ปรับขึ้นภาษีศุลกากร อาจส่งผลให้เงินเฟ้อสหรัฐเข้าสู่เป้าหมายช้ากว่าคาด แต่ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวแรง อย่างไรก็ตามเฟดได้ลดการไถ่ถอนพันธบัตรรายเดือนจาก 2.5 หมื่น ล.ดอลลาร์ เหลือ 5 พัน ล.ดอลลาร์/เดือน และคงการไถ่ถอนตราสาร MBS ที่ 3.5 หมื่น ล.ดอลลาร์/เดือน เพื่อเป็นการเสริมสภาพคล่องในตลาดเงินสหรัฐ
  • ตลาดยุโรปวานนี้ปรับขึ้น หลังสภาผู้แทน ฯ เยอรมันได้อนุมัติแผนการใช้จ่าย ด้วยการเพิ่มงบด้านกลาโหม, ผ่อนปรน ม.จำกัดหนี้ และตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 5 แสน ล.ยูโร โดยรอการอนุมัติจากผ่านวุฒิสภาในวันศุกร์นี้ ขณะที่ CPI ยูโรโซน ก.พ.ลดลงอยู่ที่ 2.3% & ม.ค. 2.5% YoY ส่งผลให้ ECB มีโอกาสลดดอกเบี้ยต่อในปีนี้ ส่วนวันนี้ติดตามการประชุม BOE คาดจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 4.5 % และมีโอกาสลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ -0.10%,ฮั่งเส็ง +0.12% และนิเกอิ -0.25% ทรงตัวระหว่างรอผลการประชุมเฟด ขณะที่ผลการประชุม BOJ มีมติคงดอกเบี้ยที่ 0.50% โดย ปธ.BOJ เผยรอประเมินผลกระทบจาก ม.ปรับขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐ ซึ่งอาจกระทบต่อผลส่งออกของญี่ปุ่น แม้ว่าเงินเฟ้อญี่ปุ่นมีแนวโน้มสูงขึ้น จาก ม.ปรับขึ้นค่าจ้างแรงงาน และราคาอาหารปรับสูงขึ้น โดยตลาดคาด BOJ มีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยใน ก.ค. นี้
  • ดัชนี SET วานนี้ +1.15% ปริมาณการซื้อขาย 4.2 หมื่น ลบ. สถาบันซื้อ 1,205 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 330 ลบ. ต่างชาติขาย 708 ลบ. และรายย่อยขาย 828 ลบ. โดยดัชนีได้แรงหนุนจากกลุ่มขนส่ง, ไฟแนนท์, ปิโตรเคมี และค้าปลีก จากแรงซื้อของกลุ่มสถาบัน & พอร์ตโบรกเกอร์ หลัง SET เทรดที่ระดับ F/PE 12.3 เท่า ซึ่งอยู่ในโซนถูก กอปรกับยังคาดหวังเชิงบวกต่อเม็ดเงินจากกองทุน Thai ESGX ที่เข้าสู่ตลาดในช่วง พ.ค. – มิ.ย. นี้ ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงจากต่างประเทศเริ่มลดลง หลังสหรัฐ, รัสเซีย, ยูเครน บรรลุตกลงหยุดโจมตีโครงสร้างด้านพลังงาน 30 วัน ระหว่างหารือข้อตกสันติภาพ และผลกระทบจาก ม.ปรับภาษีศุลกากรของสหรัฐอาจน้อยกว่าคาด หลัง รมว.คลังสหรัฐเผยประเทศต่าง ๆ สามารถเจรจาต่อรอง ก่อนที่จะถูกสหรัฐเรียกภาษี Reciprocal Tariffs ส่วนปัจจัยในประเทศ ติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายก ฯ วันที่ 24 – 25 มี.ค. และลงมติในวันที่ 26 มี.ค. รวมถีงรายงานข้อมูลส่งออก – นำเข้าไทย ก.พ. ในช่วงสัปดาห์หน้า

 Daily Strategy

  • ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,170 – 1,180 แนวต้าน 1,200 คาดดัชนีได้แรงหนุน หลังเฟดส่งสัญญาณเชิง Dovish และคงคาดการณ์ลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ แนะนำทยอยซื้อ KBANK,KTB,KKP,LH,AP,SPALI ที่จ่ายเงินปันผลสูง/ พักเงินในกลุ่มปลอดภัย เช่น BLA, BH, MC, DIF และเก็งกำไรหุ้นมีสัญญาณบวกทางเทคนิค เช่น WHA,PIN,MEDEZE
  • BTG* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 23.50 บาท) กำไร 4Q67 อยู่ที่ 983 ล้านบาท เติบโตขึ้น QoQ, YoY มีปัจจัยหนุนจากยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น ปริมาณขายและราคาสัตว์บกปรับตัวดีขึ้น ส่วนต้นทุนอาหารสัตว์ปรับตัวลดลง รวมถึงกลยุทธ์ของบริษัทที่เน้นการขายในช่องทางที่มีอัตรากำไรสูง เช่น ร้านอาหาร กลุ่ม food service บริษัทตั้งเป้าปี 68 ยอดขายโต 3-7%YoY จากปริมาณขายที่เพิ่มตามการขยายกำลังการผลิต ขณะที่ GPM คาดสูงกว่าปี 67 ที่ 5% แนวโน้ม 1Q68 น่าจะดีต่อเนื่องได้อานิสงส์จากราคาสุกรในประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ต้นทุนอาหารสัตว์ยังต่ำจากราคากากถั่วเหลือง นอกจากนี้การซื้อ Eggriculture ที่เป็นธุรกิจไข่ในสิงคโปร์จะเสร็จใน 1Q68 หนุนรายได้ในระยะถัดไป ทั้งนี้อิงจาก Consensus ตลาดคาดปี 68 มีกำไรสุทธิ 2.9 พันล้านบาท +20%YoY และปี 69 ที่ 3.4 พันล้านบาท +16%YoY
  • KLINIQ (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย75 บาท) กำไรสุทธิ 4Q67 อยู่ที่ 99 ลบ. (+26.69%YoY, +33.38%QoQ) เติบโตได้เด่นตามรายได้ที่อยู่ที่ 844 ลบ.(+31%YoY, +13%QoQ) หนุนจาก SSSG+13.1%YoY รวมถึงจำนวนสาขาที่สูงขึ้น 17 สาขา ทั้งนี้ เห็นสัญญาณที่ดีจากแรงกดดันจากค่าใช้จ่ายสาขาใหม่ๆที่เปิดอย่าง aggressive ในช่วง 9M67(ราว14สาขา) มีน้ำหนักน้อยลงแล้ว รายได้สามารถโตทันต้นทุนค้าใช้จ่ายที่สูงขึ้นได้ ทั้งนีในปี68 คาด KLINIQ จะเปิดสาขาใหม่อีก 10 สาขา ปัจจุบัน เราประมาณการกำไรสุทธิ ปี68 และ ปี69 ของ KLINIQ อยู่ที่ระดับ 383  ลบ.( +18.79%YoY)  และ 455 ลบ.(+18.93%YoY) ตามลำดับ

 

Daily Key Factors

Oil Update(+) WTI เม.ย. +$0.26 อยู่ที่ $67.16 / บาร์เรล, Brent พ.ค. +$0.22 อยู่ที่ $70.78/บาร์เรล หลังอิสราเอลได้โจมตีกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา และสหรัฐขู่จะโจมตีกลุ่มฮูตีในเยเมน ที่ลอบโจมตีเรือเดินสมุทร ขณะที่ EIA รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 1.7 ล.บาร์เรล สูงกว่าคาดจะเพิ่ม 512,000 บาร์เรล

 

Gold Update(+) Comex Gold เม.ย.+$0.40 อยู่ที่ $3,041.20 /ออนซ์ ได้แรงจากการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย และรอผลการประชุมเฟด ซึ่งยังคงดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25 – 4.5%

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -69.30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -21.05 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -55.10 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +6.85 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านีแข็งค่าอยู่ที่ 33.56 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.227 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -21 จุด อยู่ที่ 1,637

(+) BitCoinเช้านี้ +4.50% อยู่ที่ 86,330 ดอลลาร์สหรัฐ

(0)ธ.กลางจีนคงดอกเบี้ย LPR 1 ปีที่ 3.1%, 5 ปีที่ 3.6% ตามคาดการณ์

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

31 มี.ค.     ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย

สัปดาห์ที3  ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วน

ยานยนต์

สัปดาห์ที4  กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ

สศอ.แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนี

ความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

 

ต่างประเทศ

17 มี.ค.     US ดัชนียอดขายปลีก (ก.พ.)

19 มี.ค.     EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ก.พ.)

20 มี.ค.     US การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย           

                US การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของ FOMC

                US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

                US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

                US ดัชนีภาคการผลิตจากธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย (มี.ค.)

                US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) (ก.พ.)

 

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่น 1H68 เน้น หุ้นในธุรกิจใหม่ที่เป็น Trend ในอนาคต อย่าง Data Center รวมถึงหุ้นที่มีแนวโน้มกำไรปกติ 4Q67-1Q68 คาดออกมาดี และ หุ้นที่รับความผันผวนได้ดีจากความเสี่ยง Trade War/ธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย  

 

(1) กลุ่มธนาคารที่มี Sentiment บวกจากธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย/มี Yield สูง BBL, KTB, KBANK, TISCO*, TTB*

 

(2) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CRC, NSL*, TNP*, OSP*

 

(3) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, SKR

 

(4) กลุ่มมีโอกาสเกี่ยวข้องกับการลงทุน Data Center/ธุรกิจ Trend อนาคต ADVANC,INTUCH*,TRUE,GULF*,AMATA

 

(5) กลุ่มสินค้า IT ที่ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี(เช่น AI function/ 4G to 5G) SYNEX*, ADVICE*, SIS*

 

(6) กลุ่มที่มี Sentiment บวกจาก Entertainment Complex BTS*, VGI*, MBK*, BA

 

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 55% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio February 2025: CPALL, SYNEX*, KLINIQ, SHR*, TEGH*

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ยืน 1200 จุด By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ในท้องทุ่งสีเขียว หุ้นไทยบวกยืน 1200 จุดได้อีกครั้ง ...

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้