สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(14 มีนาคม 2568)---- นายศุภทัต จินดาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) META เปิดเผยว่า ตามที่เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2568 บริษัท เมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ได้แจ้งความคืบหน้าโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล กำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์ ในเมืองซะงะ ประเทศญี่ปุ่ น (“SAGA 50MW”) ที่บริษัทวินเทจ โฮลดิ้ง เจแปน จำกัด (“VHJ”) บริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 100 ได้ลงนามสัญญาการลงทุนเบื้องต้น กับNuGen Power Company Limited (“NuGen”) ผู้ขายโครงการ ซึ่ง VHJ ได้วางมัดจำเพื่อเข้าศึกษาการลงทุนในโครงการ
ตามรายละเอียดที่อ้างถึงนั้น

บริษัทฯ ขอเรียนว่า คณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2568ได้รับทราบหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการของ NuGenว่าโครงการ SAGA 50MW จำเป็นต้องเลื่อนกำหนดการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ออกไป จากเดิมที่กำหนดไว้ภายในเดือนมีนาคม 2568เป็นเดือนกันยายน 2568เนื่องจากตรวจสอบพบความบกพร่องของการทำงานระบบหม้อไอน้ำ (Boiler) และกังหันไอน้ำ (Turbine) ที่ต้องใช้เวลาในการปรับปรุง เพื่อให้โรงไฟฟ้าสามารถทำงานได้อย่างประสิทธิภาพและมีความเสถียรในระยะยาว

สำหรับเงินมัดจำแบบเรียกคืนได้ที่บริษัทฯ วางไว้เพื่อการเข้าศึกษาการลงทุนในโครงการจำนวน 1,741.05 ล้านเยน หรือเทียบเท่า 375.21 ล้านบาท (อ้างอิงจากข้อมูลงบการเงินรวมของบริษัทฯ สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567) ซึ่งเป็นเงินมัดจำสำหรับการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล ประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิตรวม 100เมกะวัตต์โดยจากการที่โครงการ SAGA 50MW มีการเลื่อนกำหนดการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ออกไปถึงสองครั้ง จากเดิมที่กำหนดไว้ในเดือนธันวาคม 2567 เป็นเดือนมีนาคม 2568 และต่อมาได้ขยายเป็นเดือนกันยายน 2568 ทำให้บริษัทฯพิจารณาเลื่อนกำหนดการแปลงเงินมัดจำดังกล่าวเป็นเงินลงทุนตามสัดส่วนการลงทุนของโครงการ SAGA 50MW เพื่อพิจารณาทบทวนแผนการลงทุนอย่างรอบคอบ จนกว่าจะได้รับความชัดเจนเกี่ยวกับกำหนดการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์และความคืบหน้าของโครงการที่เป็นไปตามแผนที่กำหนด รวมถึงการเจรจารูปแบบและสัดส่วนการลงทุนเพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัทฯ

ทั้งนี้ เมื่อบริษัทฯ ได้รับความคืบหน้าการก่อสร้างของโครงการ SAGA 50MW รวมถึงข้อสรุปในการลงทุนแล้วบริษัทฯ จะเสนอแก่คณะกรรมการบริษัท เพื่อพิจารณาการเข้าลงทุนตามหลักเกณฑ์การได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์และจะดำเนินการตามหลักเกณฑ์ข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในส่วนที่เกี่ยวข้องและแจ้งความคืบหน้าให้ทราบต่อไป