สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(26 กุมภาพันธ์ 2568)---------บมจ.เพเนเล่ส์มาติก โซลูชั่นส์ (PANEL)ปี 67 โชว์รายได้ 150 ล้านบาท เพิ่ม 12 % กำไรสุทธิ 20 ล้านบาท พุ่ง 10 % บอร์ดไฟเขียวจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.02 บาท กำหนดขึ้น XD วันที่ 20 มีนาคม 2568 รับทรัพย์วันที่ 22 พฤษภาคม 68 ฟากซีอีโอหญิงแกร่ง “จูเลีย เพ็ชญไพศิษฎ์” เดินหน้าลุยขยายธุรกิจ เพิ่มรายได้งานรับเหมา ตกแต่งภายใน เจรจาพันธมิตรใหม่ สร้างโอกาสทางธุรกิจ ควบคู่แผนเปิดโรงงานใหม่ มั่นใจดันรายได้ปีนี้เติบโตกว่า 40%

นางจูเลีย เพ็ชญไพศิษฎ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพเนเล่ส์มาติก โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) PANEL ผู้นำระบบประตูห้องผ่าตัด ระบบประตูอัตโนมัติ ผนังบานเลื่อนกันเสียง และห้องเก็บเสียงเคลื่อนที่ เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานงวดปี 2567 (สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2567) บริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 150 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12 % จากปีก่อนมีรายได้ 132 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10 % จากปีก่อนมีกำไรสุทธิ 18 ล้านบาท

ทั้งนี้ ปัจจัยที่สนับสนุนให้ผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้นมาจากการรับรู้รายได้จากการขายและให้บริการสำหรับผลิตภัณฑ์ประตูและผนังมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่า 40 % สำหรับปี 2567 สะท้อนถึงการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงธุรกิจใหม่สร้างรายได้จากการรับเหมาตกแต่งภายในช่วยหนุนผลประกอบการปี 2567 และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2568 นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายในการบริหารลดลงจากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 ได้มีมติอนุมัติเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นจ่ายเงินปันผลงวดประจำปี 2567 เป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.02 บาท โดยขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 20 มีนาคม 2568 กำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 และกำหนดวันประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติในวันที่ 23 เมษายน 2568

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2568 บริษัทฯ มีแผนขยายธุรกิจด้วยการเพิ่มส่วนแบ่งรายได้จากงานรับเหมาระบบห้องผ่าตัดและรับเหมาตกแต่งภายใน รวมถึงมองหาโอกาสและพันธมิตรใหม่ๆ เพื่อต่อยอดธุรกิจและกระจายความเสี่ยง รวมถึงเร่งก่อสร้างอาคารโรงงานแห่งใหม่รองรับคำสั่งซื้อที่มีเข้ามาจำนวนมากจากกลุ่มลูกค้าธุรกิจโรงพยาบาลและโรงแรม

“ในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มียอดคำสั่งซื้อจำนวนมากจากกลุ่มลูกค้าโรงพยาบาลและโรงแรม และเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาถึงปี 2568 ดังนั้น การตั้งโรงงานแห่งใหม่ที่มีกำหนดแล้วเสร็จกลางปีนี้ จะสนับสนุนการเติบโตได้เพิ่มขึ้น สร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน โดยเชื่อมั่นว่ารายได้รวมจะเติบโตไม่น้อยกว่า 40% ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังคงมองหาโอกาสและพันธมิตรใหม่ๆ ช่วยผลักดันผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหุ้น” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าว