สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (25 กุมภาพันธ์ 2568)-------บมจ.ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ (DTCENT) เปิดงบปี 67 กำไรสุทธิ 114.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.88% อานิสงส์รับรู้รายได้จากการให้บริการระบบติดตามยานพาหนะ (GPS Tracking) ต่อเนื่อง บอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.06 บาท/หุ้น ขึ้น XD 11 มีนาคม 2568 ฟากบิ๊กบอส "ทศพล คุณะเพิ่มศิริ" เดินหน้านำ AI มาพัฒนาในผลิตภัณฑ์ใหม่ ทั้ง GPS Tracking-IoT Solutions รับงานภาครัฐ-เอกชนเพิ่ม ผลักดันรายได้ปีนี้โต 15-20%

 

นายทศพล คุณะเพิ่มศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) (DTCENT) ผู้นำในการให้บริการระบบ GPS Tracking อันดับ 1 ในประเทศไทย (อ้างอิงจากข้อมูลกรมการขนส่งทางบกในเดือนมกราคม 2568)  เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2567 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567) มีกำไรสุทธิ 114.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.88% เทียบกับปีก่อน มีกำไรสุทธิ 99.62 ล้านบาท และมีรายได้รวม 740.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.49% เทียบกับปีก่อน มีรายได้รวม 729.46 ล้านบาท



 

ปัจจัยหลักที่สนับสนุนให้มีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นมาจากรายได้จากการขายและให้บริการ ทั้งการใช้ระบบติดตามยานพาหนะ (GPS Tracking)  และงานโครงการของภาครัฐ

 

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 มีมติอนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.06 บาท/หุ้น จากผลการดำเนินงานประจำปี 2567 วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าร่วมประชุม (Record date)        12 มีนาคม 2568 ซึ่งวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) ในวันที่ 11 มีนาคม 2568 และกำหนดจ่ายปันผลวันที่ 20 พฤษภาคม 2568



 

"ปี 2567 บริษัทฯ สามารถทำผลงานออกมาได้เป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากมีรายได้จากการให้เช่าอุปกรณ์สำหรับติดตามยานพาหนะ (GPS Tracking) และ Mobile DVR เพิ่มขึ้น ซึ่งมีการพัฒนาและออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น และทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในปัจจุบัน รวมทั้ง สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ในอัตราที่มากกว่า นโยบายจ่ายเงินปันผลในแต่ละปีในอัตราไม่น้อยกว่า 30% ของกำไรสุทธิ" นายทศพล กล่าว



 

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจปี 2568  ตั้งงบลงทุนไว้ประมาณ 300 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ในรูปแบบ M&A การลงทุนในโปรเจคของรัฐบาล การพัฒนา Control Room และการนำ AI มาพัฒนาในการทำวิจัยออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง และเดินหน้าเปิดศูนย์ DTC SHOP ให้ครบ 20 สาขา ภายในปีนี้ โดยปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว 15 สาขา

 

ส่วนงานด้าน IoT Solutions และระบบ AI ปัจจุบันได้รับงานพัฒนาโครงการเทศบาลนครรังสิตสู่เมืองอัจฉริยะ โดยใช้แอปพลิเคชันสำหรับเมืองอัจฉริยะ (Rangsit City App) และบริษัทฯ วางแผนจัดทำโครงการ Smart City Solution, Smart AI Solution ให้บริการกับโครงการหน่วยงานภาครัฐและเอกชนอีกหลายโครงการ

 

ขณะที่ งานด้านระบบ BAMS (Business Activity Management System) ได้เปิดให้บริการบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนเรียบร้อยแล้ว มีจำนวนลูกค้าที่ใช้บริการ 42 บริษัท

 

ส่วนศูนย์บริหารจัดการและบริการข้อมูลยานพาหนะ Vehicle Monitoring and Support Center ได้เปิดให้บริการงานมอนิเตอร์ให้กับลูกค้าเรียบร้อยแล้ว และส่วนงานด้านการอบรมความปลอดภัยอย่างครบวงจร เช่น การใช้รถใช้ถนน การขับขี่อย่างปลอดภัย และ Simulator ได้เปิดให้บริการกับกลุ่มลูกค้าเดิม และขยายไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่

 

ในส่วนของความร่วมมือกับ 2 พันธมิตรทางธุรกิจ ประกอบด้วย บริษัท บุญรอด ซัพพลายเชน จำกัด (BRS) ปัจจุบันมีการรับงานโครงการร่วมกัน ในส่วนของ บริษัท ยาซากิ เอ็นเนอร์จี ซิสเท็ม คอร์ปอเรชั่น (YES) ร่วมกันศึกษาการทำตลาดด้าน OEM สำหรับอุปกรณ์ GPS Tracking และ Telematics และบริษัทฯ ได้รับใบ Certificate  IATF 16949 ระบบมาตรฐานการจัดการติดตั้งอุปกรณ์สำหรับผู้ผลิตยานยนต์เรียบร้อยแล้ว สามารถเริ่มงาน OEM สำหรับอุปกรณ์ GPS Tracking และ Telematics ได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

 

"ในปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตที่ 15-20% จากธุรกิจ GPS Tracking โดยเฉพาะค่าบริการการเช่าอุปกรณ์ ที่มีรายได้เข้ามาสม่ำเสมอ ส่วนงาน IoT Solutions และระบบ AI ยังเดินหน้าเข้าประมูลงานโครงการภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการเปิดศูนย์ DTC SHOP จะช่วยลดต้นทุนและควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี" นายทศพล กล่าวในที่สุด







ด้าน  บริษัท เด็กซ์ซอน เทคโนโลยี จำกัด(มหาชน) หรือ DEXON ผู้นำด้านการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีการตรวจสอบโครงสร้างทางวิศวกรรมและระบบท่อด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงรายงานผลประกอบการปี 2567 เติบโตอย่างแข็งแกร่งมีรายได้รวม 757 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% จากปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิ 57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากปีก่อน





ดร.มัลลิกา แก่กล้าประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เด็กซ์ซอน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ DEXON เปิดเผยว่า "การเติบโตของรายได้ในปี 2567 มาจากธุรกิจให้บริการตรวจสอบระบบท่อนำส่งด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงซึ่งเติบโตอย่างโดดเด่นที่ 335 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 37% จากปีก่อนหน้าอันเป็นผลจากการขยายธุรกิจในต่างประเทศอย่างต่อเนื่องทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรปและลาตินอเมริกา นอกจากนี้DEXONยังมีรายได้จากการให้บริการด้านการวิจัยและพัฒนาที่88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 104% ส่วนหนึ่งมาจากความร่วมมือในการวิจัยและพัฒนาอุปกรณ์ตรวจสอบท่อร่วมกับผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซรายใหญ่ในอเมริกาและตะวันออกกลาง"


ความสำเร็จด้านนวัตกรรมของ DEXONได้รับการยอมรับในระดับประเทศโดยในปี 2567 บริษัทฯ ได้รับรางวัล BestInnovative Company Awards อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ในงาน SET Awards 2024 จากผลงานตัวแปลงสัญญาณคลื่นความถี่เหนือเสียงที่มีความละเอียดสูง (HighResolution Ultrasonic Transducer) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ต้นน้ำสำคัญในการตรวจสอบแบบไม่ทำลายสะท้อนถึงความพร้อมทั้งในด้านวิศวกรรมวัสดุศาสตร์ อิเล็กทรอนิกส์และความเชี่ยวชาญของการตรวจสอบภายในท่อและการตรวจสอบแบบไม่ทำลาย


"สำหรับแผนธุรกิจปี 2568 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้ที่ 900 ล้านบาท คาดว่าการเติบโตของรายได้จะมาจากธุรกิจให้บริการตรวจสอบระบบท่อด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงทั้งในและต่างประเทศซึ่งถือเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักที่จะช่วยสร้างการเติบโตของรายได้ในอนาคตของบริษัทขณะที่ บริษัทฯ ประเมินว่าในปี 2568 จะเป็นช่วงที่โรงงานหลายแห่งอาทิเช่น โรงกลั่นน้ำมัน และโรงปิโตรเคมีมีการหยุดโรงงานหรือการหยุดการเดินเครื่องของเครื่องจักรเพื่อทำการดูแล ตรวจสอบและซ่อมแซมซึ่งจะทำให้งานให้บริการตรวจสอบระบบท่อด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงและงานการตรวจสอบแบบไม่ทำลายมีความต้องการจากลูกค้าเพิ่มขึ้น "ดร.มัลลิกากล่าว


ความเชื่อมั่นในการเติบโตดังกล่าวยังได้รับการสนับสนุนจากการที่DEXONได้รับงานตรวจสอบแบบไม่ทำลายระยะเวลา 3 ปี 3 เดือนจากบริษัทพลังงานรายใหญ่ในประเทศ มูลค่าตามสัญญา 324 ล้านบาท นอกจากนี้ DEXONยังมุ่งเน้นการกระจายแหล่งที่มาของรายได้และลดผลกระทบตามฤดูกาลผ่านการขยายธุรกิจหลักที่สร้างรายได้ประจำและการขยายฐานลูกค้าในตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง


ด้านฐานะการเงิน ณ สิ้นปี 2567บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 1,089ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากปีก่อน มีหนี้สินรวม 206 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 883 ล้านบาทโดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นที่ 0.2 เท่า สะท้อนถึงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งพร้อมรองรับการเติบโตในอนาคต


DEXONมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(EEC) จังหวัดระยองซึ่งสามารถให้บริการด้านการวิจัยและพัฒนาและระบบการทดสอบระบบท่อที่หลากหลายด้วยเทคโนโลยี Inline Inspection (ILI) และการตรวจสอบแบบไม่ทำลาย (NDT) ให้กับบริษัทชั้นนำระดับโลกในอุตสาหกรรมปิโตรเลียมปิโตรเคมี อุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้า กลุ่มพลังงานหมุนเวียนและที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐาน




///จบ///