สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (18 กุมภาพันธ์ 2568)-------กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จัดอบรมหัวข้อ "เสริมกลยุทธ์ธุรกิจ สร้างภูมิคุ้มกันมิจฉาชีพ" ให้กับนิติบุคคล    ผู้ประกอบธุรกิจ และผู้สนใจทั่วไปจำนวน 150 คน วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 ณ DBD Conference Hall   ชั้น 6 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ผู้ประกอบการห่างไกลภัยคุกคามจากมิจฉาชีพ มั่นใจหากภาคธุรกิจมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหน้าที่ของนิติบุคคล และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างถ่องแท้แล้ว มิจฉาชีพจะไม่สามารถหลอกให้หลงเชื่อจนกลายเป็นเหยื่อ สูญเสียทรัพย์สินจำนวนมาก

          นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์  เปิดเผยว่า วันนี้ (18 กุมภาพันธ์ 2568) ได้มอบหมายให้  นางรชนีกร ดำเด่นงาม ผู้อำนวยการกองข้อมูลธุรกิจ       เป็นประธานเปิดการอบรมหัวข้อ "เสริมกลยุทธ์ธุรกิจ สร้างภูมิคุ้มกันมิจฉาชีพ" โดยกระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญเรื่องนี้อย่างจริงจัง เนื่องจากธุรกิจต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่หลากหลาย ทั้งภัยคุกคามจากไซเบอร์ มิจฉาชีพ และความผันผวนของเศรษฐกิจ การมีกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถรับมือกับความท้าทายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

          ปัจจัยสำคัญในการประกอบธุรกิจให้ประสบความสำเร็จและปลอดภัย คือ การอัพเดทข้อมูลข่าวสารอย่างรอบด้าน ทั้งด้านกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มาตรการและมาตรฐานที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เพื่อให้ธุรกิจสามารถปรับตัวและก้าวทันสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับช่วงนี้มิจฉาชีพกำลังรุกหนักโดยเปิดบัญชีม้านิติบุคคล เพื่อหลอกลวงธุรกิจและประชาชน กรมฯ เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการเตือนผู้ประกอบธุรกิจให้เฝ้าระวังภัยจากกลุ่มมิจฉาชีพ   จึงกำหนดจัดอบรมให้ความรู้ หัวข้อ "เสริมกลยุทธ์ธุรกิจ สร้างภูมิคุ้มกันมิจฉาชีพ" ขึ้น โดยมุ่งเน้นให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงการสร้างภูมิคุ้มกัน    ให้รู้เท่าทันกลอุบายของมิจฉาชีพที่เปลี่ยนแปลงรูปแบบไปเรื่อยๆ

          เนื้อหาการอบรมประกอบด้วย หน้าที่ของนิติบุคคลหลังจดทะเบียนจัดตั้ง หน้าที่ของผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีตามพระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543 กฎหมายปรับเป็นพินัย กลยุทธ์การบริหารจัดการธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล การสร้างภูมิคุ้มกันต่อมิจฉาชีพในโลกธุรกิจยุคใหม่ โดยได้คัดเลือกวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้ามาถ่ายทอดความรู้อย่างเข้มข้นตลอด 3 ชั่วโมงเต็ม เพื่อให้ผู้ประกอบการมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับหน้าที่และความรับผิดชอบของตนเอง รวมถึงสามารถนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ในการบริหารจัดการธุรกิจให้เป็นไปตามระเบียบ ข้อบังคับ มาตรการและมาตรฐาน ซึ่งเป็นหนึ่งในมิติที่สำคัญของหลักธรรมาภิบาล นอกจากนี้ ยังเป็นการเสริมสร้างความรู้ให้ภาคธุรกิจสามารถปรับตัวให้เท่าทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจยุคใหม่ และสร้างภูมิคุ้มกันต่อภัยคุกคามจากมิจฉาชีพได้อย่างชาญฉลาด

          การเสริมกลยุทธ์ธุรกิจเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันจากมิจฉาชีพและการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล เป็นกระบวนการที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องและปรับปรุงอยู่เสมอ ธุรกิจควรให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพื่อให้สามารถเติบโตและประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน อธิบดีอรมน กล่าวในท้ายที่สุด