ผลประกอบการมีความมั่นคง
>คาดยอดขายใน 4Q24 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่...กำไรสุทธิอ่อนตัวทั้ง YoY และ QoQ โดยคาดว่า PTTEP จะรายงานกำไรสุทธิ 4Q24 ที่ 16.87 พันล้านบาท (-8%YoY และ -6%QoQ) เป็นผลจาก 1) ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงร่วมกับราคาขายเฉลี่ยของก๊าซที่อ่อนตัวลง; 2) ค่าใช้จ่าย SG&A ที่สูงตามฤดูกาล; และ 3) คาดว่าจะมีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ 680 ล้านบาท ทั้งนี้คาดว่า EBITDA หลักจะอยู่ที่ 54.27 พันล้านบาท (-7%YoY, -1%QoQ)

>ปริมาณการผลิตใน 4Q24 คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 510,000 บาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 7%YoY, และเพิ่ม 7%QoQ โดยหลักมาจากการกลับมาดำเนินงานของโครงการหลักในอ่าวไทยหลังจากซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ใน 3Q24 แต่การผลิตที่ประเมินต่ำกว่าที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้ เนื่องจากโครงการเอราวัณปิดซ่อมบำรุงราว 50 วัน ทำให้ปริมาณการผลิตก๊าซเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 670 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน (mmscfd)

>คาดราคาขายเฉลี่ย (ASP) ใน 3Q24 ลดลง 5%YoY, ลดลง 2%QoQ เป็น 45.9 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

>ต้นทุนหน่วย (Unit Cost) คาดว่าจะอยู่ที่ 29 ดอลลาร์/บาร์เรล ทรงตัว YoY แต่ลดลง 9%QoQ ส่วนค่าใช้จ่าย SG&A คาดการณ์ไว้ที่ 3.5 ดอลลาร์/บาร์เรล

>รายการพิเศษหลักใน 4Q24 คือ ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 680 ล้านบาท เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินริงกิตมาเลเซีย (MYR) เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

>เดือนธ.ค.2024 บริษัทประกาศแผนการลงทุนระยะยาวซึ่งมีมูลค่ารวม 21.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าปริมาณการผลิตจะอยู่ระหว่าง 507,000-581,000 บาร์เรลต่อวันสำหรับช่วงปี 2025-2029 สา หรับปี 2025 มีเป้าหมายลงทุน 3.67 พันล้านดอลลาร์ เพื่อรักษาปริมาณการผลิตในโครงการสำคัญ สำหรับความมั่นคงด้านพลังงานในระยะยาว ได้แก่ โครงการเอราวัณ (G1/61), บางกอก (G2/61), S1, สัญญา 4 และโครงการ MTJDA, จะลงทุน 1.46 พันล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับโครงการที่อยู่ในขั้นตอนการพัฒนา เพื่อให้สามารถเริ่มดำเนินการได้ทันตามกำหนดการ เช่น โครงการอาบูดาบี, โมซัมบิก พื้นที่ 1, SK405B, SK417, SK438 และจะลงทุน 127 ล้านดอลลาร์ สหรัฐสำหรับกิจกรรมการสำรวจในประเทศไทย พม่า และมาเลเซียเพ่อื การเติบโตในระยะยาว

>คงคำแนะนำ "ซื้อ" ให้ราคาพื้นฐาน 169 บาท (DCF, WACC 11.69%, TG 1%) ทั้งนี้แม้ว่าราคาน้ำมันจะอ่อนตัวลง แต่เรายังคงแนะนำ ซื้อ PTTEP เนื่องจากมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบและการกำกับดูแลจำกัด แม้รัฐบาลจะมีแผนลดราคาพลังงานในประเทศโดยการบังคับใช้ 1) ราคา single pooled gas, 2) การกำหนดเพดานราคาน้ำมัน (ทั้งดีเซลและเบนซิน), และ 3) การลดอัตรา Ft ที่อาจเกิดขึ้นประกอบกับแนวโน้มธุรกิจของ PTTEP ยังคงมั่นคง จากการเติบโตของปริมาณการผลิตที่แข็งแกร่ง และราคาขายก๊าซที่มีความยืดหยุ่น

นักวิเคราะห์ : ดุลเดช บิค : duladethb@th.dbs.com : Tel. 02 857 7833