AT THE OPEN (#ATO)
SET Index พักฐาน
Selective Buy หุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว

Market Strategy
SET Index คาดวันนี้แกว่งพักตัว 1445-1465 จุด ปัจจัยแวดล้อมยังขาดแรงหนุน โดยประเด็นในประเทศอยู่ในช่วงการเก็งกำไรผลประกอบการ 3Q67 ด้านประเด็นการเมืองกลับมาอยู่ในจุดสนใจหลังศาลรัฐธรรมนูญเตรียมพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับคำร้องพิจารณาคดีคุณทักษิณและพรรคเพื่อไทยในวันที่ 22 พ.ย. ส่วนปัจจัยต่างประเทศวันนี้ติดตามการให้ความเห็นของกรรมการ FED ต่อมุมมองเงินเฟ้อ ดอกเบี้ยสหรัฐฯ หลังผลการเลือกตั้งในสหรัฐฯ กลยุทธ์เลือกหุ้นที่แนวโน้มกำไร 4Q67 และ 2568 เติบโต ปลอดความเสี่ยงจากการถูกปรับลดประมาณการกำไร โดยวันนี้เลือก MOSHI และ BBIK

ประเด็นการเมืองกลับมาอยู่ในจุดติดตามอย่างใกล้ชิด หลังคำร้องของคุณธีรยุทธต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ล่าสุดอัยการสูงสุดส่งหนังสือถึงศาลฯแล้ว ซึ่งลำดับถัดไปศาลฯจะมีการพิจารณาในวันที่ 22 พ.ย. โดยผลแบ่งได้ 2 กรณี 1) ศาลฯรับคำร้อง มองเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อสถานะรัฐบาลและบรรยากาศการลงทุน หากอิงรอบที่ศาลฯวินิจฉัยพรรคก้าวไกลและคุณพิธาใช้เวลาพิจารณาราว 6 เดือน 2) ศาลฯไม่รับคำร้องเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้น ส่วนช่วงระหว่างที่รอความชัดเจนเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ทิศทาง Fund Flow ยังไม่ไหลกลับ

สำหรับอีกข้อร้องเรียนที่คาดจะเห็นความคืบหน้าใน 1-2 สัปดาห์นี้ คือ คำร้องต่อ กกต.ยุบพรรคเพื่อไทยและ 6 พรรคร่วมรัฐบาลจากคุณทักษิณครอบงำต่อไป ซึ่งเมื่อวันที่ 18 ต.ค. 67 กกต.เห็นว่าคำร้องมีมูลและสั่งตั้งกรรมการสอบ โดยต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน (หรือคาดว่าภายใน 17 พ.ย.67) แต่ทั้งนี้ กกต. ยังสามารถขอขยายระยะเวลาได้อีกไม่เกินครั้งละ 30 วัน

Market Summary
SET Index ติดลบ 8 จุดหรือ -0.6% กลุ่มที่ Underperform วันนี้คือกลุ่มที่รายงานผลประกอบการ 3Q67 แย่กว่าตลาด STGT -5% พลิกขาดทุนส่งผลต่องบ STA ต่ำคาดกดดันราคา -9.4% กลุ่ม China Play จาก Sell on Fact หลังมาตรการกระตุ้นจีนไม่ได้สร้าง Positive Surprise PTTGC -4.6% SCGP -3% ส่วนกลุ่มที่หนุนตลาดคือกลุ่ม ICT หนุนจาก ADVANC +0.7% และกลุ่มอิเล็คฯจากการดีดกลับของ DELTA +1.3%

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ BBIK MOSHI

MOSHI
Earnings Momentum
เด่น
กำไร 3Q67 อยู่ที่ 108 ล้านบาท ขยายตัว 33%QoQ และ 30%YoY (ดีกว่า Bloomberg Consensus คาด 2%) หนุนจากยอดขายที่ขยายตัวตามการเพิ่มจำนวนสาขาใน 3Q67 จำนวน 8 สาขา การเพิ่มสินค้าใหม่และปรับปรุงประสิทธิภาพบริหารสินค้าคงคลัง
แนวโน้มกำไร 4Q67 จะเป็นช่วงฤดูกาล Festive Season ช่วยหนุนยอดขายและกำไรเร่งตัวขึ้น QoQ และ YoY และทำให้กำไรทั้งปี 67E Consensus คาดขยายตัว 23%YoY และจะเร่งตัวขึ้นในปี 68 อีก 26%YoY เด่นกว่ากลุ่มค้าปลีกที่ตลาดคาดจะขยายตัว 12%YoY
ด้านปัจจัยเสี่ยงคือสภาวะการแข่งขันของผู้ประกอบการรายใหม่จากจีน อย่าง KKV ขณะที่ระดับ Valuation ซื้อขายบน PER67/68 ที่ 31.67 และ 25.08 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลังที่ 37 และ 28 เท่า
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 53.00 บาท

BBIK
กำไรโตดีกว่าคาด
และยังน่าจะมี Momentum บวก
BBIK รายงานกำไรหลัก 3Q24 ที่ 88 ล้านบาท (+16% YoY, +95% QoQ) สูงกว่าที่เราและตลาดคาด 11% และ 7% จาก i) Gross Margin สูงกว่าคาดที่ 46.9% (เทียบกับคาดที่ 45.8%) และ ii) SG&A-to-revenue ที่ 27.6% (ต่ำกว่าที่ 29.1%)
กำไรขยายตัวเด่นหนุนจากโครงการที่ BBIK ชนะการประมูลฟื้นตัวขึ้นอย่างมากในเดือนมิ.ย.-ต.ค. ทำให้มีรายได้และกำไรหลักทำสถิติสูงสุดใน 3Q24 แม้ว่าจะมีภาระงานเพิ่มขึ้น (สะท้อนจากรายได้ QoQ ที่เพิ่มขึ้น 15%) แต่ BBIK ไม่ได้จ้างพนักงานเพิ่มในไตรมาสนี้ ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิดีเร่งตัวมาที่ 23.5% (ดีกว่าคาดที่ 20.9%)
BBIK จะจัดประชุมกับนักวิเคราะห์ในวันที่ 12 พ.ย. เวลา 10.00 น. โดยประมาณการล่าสุดของเราคาดกำไรหลัก 4Q67E ขยายตัวดี ปี 68 คาดขยายตัว
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 46.00 บาท

KEY FACTOR
เงินบาทกลับมาอ่อนค่าทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 2 เดือนครึ่ง ทะลุ 34.5 บาท/ดอลลาร์ โดยรอบการอ่อนค่าครั้งใหม่ต่อเนื่องมาตั้งแต่วันเลือกตั้งสหรัฐฯ 5 พ.ย. ประมาณ +2.28% ในขณะที่กระแสเงินทุนต่างชาติก็ไหลออกจากตลาดเอเชีย รวมถึงไทย ที่ขายสุทธิสะสมมาตั้งแต่ 25 ก.ย. รวมทั้งสิ้น –3.97 หมื่นล้านบาท สะท้อนการเคลื่อนย้ายของเงินลงทุนที่ให้น้ำหนักไปที่ตลาดประเทศพัฒนาแล้วมากกว่าเอเชีย ที่อาจโดนผลเชิงลบจากการเมืองระหว่างประเทศสหรัฐฯ-จีน ผสานกับบทสรุปการประชุมสภาประชาชนจีน ที่ยังไม่มีมาตรการกระตุ้นด้านการคลังชุดใหญ่ตามที่ตลาดคาดหวัง
อย่างไรก็ตามประเด็นกดดันดังกล่าวน่าจะผ่อนคลายลง หลังจากที่ตลาดหุ้นไทยรับรู้ไปพอสมควร และกลับมาให้น้ำหนักปัจจัยเฉพาะตัวในช่วงการรายงานงบฯ 3Q67 โค้งสุดท้าย ผสานกับมีแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจที่เข้าสู่ช่วงเร่งตัว และจากเม็ดเงินวายุภักษ์ที่ทยอยเข้าพยุง

EYES ON
ในสัปดาห์ การรายงานงบฯ 3Q67
13 พ.ย. CPI สหรัฐฯ
14 พ.ย. การ PPI สหรัฐฯ, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทย, GDP3Q67 ของ Eurozone
15 พ.ย. ยอดค้าปลีกและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ และจีน

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ