Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : AT THE OPEN

515

 

Market Strategy
SET Index วันนี้คาดแกว่งตามกรอบ 1460-1490 จุด ความผันผวนน่าจะเป็นไปตามผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ โดยคาดตลาดเอเซียและไทยจะตอบรับในเชิงบวกมากกว่าหากคุณ Harris เป็นฝ่ายชนะเนื่องจากความเสี่ยงนโยบายการค้าและภาษีที่ไม่แรงเท่าคุณทรัมป์ สำหรับหุ้นในวันนี้เราเลือกหุ้นแนวโน้มผลประกอบการเติบโตดี ผลกระทบจำกัดไม่ว่าผลการเลือกตั้งสหรัฐฯจะออกมาเป็นอย่างไร เลือก AOT และ CPN
ประเด็นสำคัญที่สุดในวันนี้ จะอยู่ที่ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ปัจจุบันได้เริ่มนับคะแนนแล้วในบางรัฐฯ ซึ่งหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะขาด คาดว่าจะมีการประกาศผลผู้ชนะในวันนี้ แต่หากผลออกมาคะแนนใกล้เคียงกันการประกาศผลอาจจะรอต่อไป (เช่นในปี 2563 การเลือกระหว่างคุณไบเดนและคุณทรัมป์ เลือกตั้ง 3 พ.ย.67 แต่ประกาศผลวันที่ 7 พ.ย.67)

 

ผลต่อทิศทาง SET Index หากคุณ Trump เป็นฝ่ายชนะ เราเชื่อว่าตลาดจะกลับมากังวลต่อความไม่แน่นอนของนโยบายการค้า อาจส่งผลทำให้ทิศทาง Fund Flow ชะลอไหลเข้าเอเซียและไทย แต่เชื่อว่าการพักตัวยังของ SET Index ยังจำกัดในกรอบ 1430-1450 จุด สำหรับหุ้นที่ได้ประโยชน์ เช่น กลุ่มนิคม WHA AMATA กลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ HANA กล่มโลจิสติกส์ WICE RCL เป็นต้น ในทางตรงข้ามหากคุณ Harris ชนะจะเป็นบวกต่อตลาดหุ้นภูมิภาคและ SET Index จากนโยบายการค้าเน้นมุ่งเป้าที่จีน ความเสี่ยงเงินเฟ้อลดลง ส่งผลให้ U.S. Bond Yield ปรับลง สำหรับหุ้นได้ประโยชน์เน้น Yield Sensitive Play อย่างกลุ่มโรงไฟฟ้า GPSC GULF และกลุ่มไฟแนนซ์ MTC SAK เป็นต้น

 

สำหรับประเด็นอื่นๆ ติดตามวันนี้เงินเฟ้อฯไทยเดือน ต.ค. ตลาดคาดเงินเฟ้อทั่วไปขยายตัว 0.94%YoY และเงินเฟ้อพื้นฐานขยายตัว 0.8%YoY

 

Market Summary
SET Index ปรับขึ้น 18.72 จุด โดยแรงหนุนหลักเกือบครึ่งหนึ่งหรือ 9 จุด มากจาก DELTA ที่ปรับขึ้น +6.5% ส่วนแรงหนุนอื่นๆ มาจากกลุ่มพลังงานที่ได้แรงหนุนจากน้ำมันดิบที่ปรับ 2.75% จาก OPEC+ เลื่อนกำลังการผลิตไป ปีหน้า หนุน PTTEP +3% SPRC และ TOP บวกราว+2% กล่มค้าปลีก +1% จากกลุ่มตกแต่งบ้าน HMPRO +3% จากบริษัทฯ ส่งสัญญาณยอดขายภาคเหนือฟื้นตัว ส่วนกลุ่มที่ปรับลงกลุ่มวัสดุฯ -0.6% กลุ่มโรงพยาบาล -0.3%

 

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ AOT CPN
AOT
Momentum การฟื้นตัว
ของนักท่องเที่ยวดีต่อเนื่อง
คาดว่ากำไรใน 4Q67 (ก.ค.- ก.ย. 67) รายงานในวันที่ 21 พ.ย. 67 จะเป็นจุดต่ำสุดของปี ก่อนจะฟื้นตัวแข็งแกร่งในช่วง 1Q68 (ต.ค.-ธ.ค. 67) ที่ได้ประโยชน์จาก High Season การท่องเที่ยว จากข้อมูลสัปดาห์ที่มาโดยกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬาพบว่าจำนวนนักเที่ยวกลับมาที่ 7 แสนรายเพิ่มขึ้น 20%WoW ขณะที่สัปดาห์หน้า คาดนักท่องเที่ยวเร่งต่อ

 

ประมาณการเรายังมี Upside จาก 4 ปัจจัยบวก ที่คาดจะเริ่มเห็นความชัดเจนขึ้นในเดือน พ.ย. 67 ได้แก่ ผลศึกษาในการเก็บ
ค่าบริการสนามบิน (PSC) สำหรับนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนเครื่อง การเปิดประมูลผู้ให้บริการภาคพื้นดินรายที่ 3 และ ผู้สนใจ
ลงทุนในโครงการ Airport City และ การรับโอนสนามบินใหม่เข้ามาบริหาร ได้แก่ สนามบินกระบี่ อุดรธานี และ บุรีรัมย์

 

CPN
Valuation น่าสนใจ
คาดกำไรสุทธิปี 67 จะเติบโต 5% ขณะที่ราคาหุ้นอยู่ในระดับที่น่าสนใจ โดยซื้อขายที่ P/E ล่วงหน้า 1 ปีที่ 19 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 25 เท่าถึง 25% โดยราคาเป้าหมายของเรา อิงวิธี DCF ที่ 75 บาท (WACC 7.0%, Terminal Growth 2.9%) คิดเป็น P/E ปี 67 ที่ 22 เท่า

 

ทั้งนี้ CPN ตั้งเป้ารายได้ปี 2567 เติบโต 10-15% สูงกว่าประมาณการใหม่ของเราที่คาดว่าจะเติบโต 9% ขณะที่แผนธุรกิจในช่วง 5 ปีข้างหน้าแผนใหม่ (พ.ศ. 2567-2571) สะท้อนว่า CPN หันมามีความระมัดระวังในธุรกิจโรงแรมมากขึ้น

 

ระยะถัดไปเราเชื่อว่า CPN มีโอกาสได้ Sentiment มาจากรัฐฯเตรียมโครงการกระตุ้นภาคบริโภค รวมถึงจำนวนนักเที่ยวต่างชาติที่เริ่มกลับจากเข้าสู่ High Season
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 79.00 บาท

 

KEY FACTOR
กระแสของ Kamala Harris ตีกลับมาแซง Donald Trump ในช่วงก่อนวันเลือกตั้ง
เมื่อวานนี้สินทรัพย์เสี่ยงในเอเชียผ่อนคลายความกังวลลงระยะสั้นตามทิศทางผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ชะลอลงก่อนเข้าสู่วันเลือกตั้งสหรัฐฯ 5 พ.ย. ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากกระแสของ Kamala Harris ที่ตีกลับ และให้น้ำหนักกับความไม่แน่นอนที่ยังมีโอกาสพลิกไปมาได้จนกว่าจะรู้บทสรุปอย่างเป็นทางการ

 

ดังนั้น หากประเมินผลกระทบที่น่าจะเกิดขึ้น จึงยังมุมมองเดิมว่า ถ้าชัยชนะเป็นของ Donald Trump จะส่งผลให้ทิศทางผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ เร่งตัว (ไม่เกิดการ Buy on Fact ในหุ้นเอเชียทันที หรือในช่วงแรกหลังการเลือกตั้ง) จากการให้น้ำหนัก 1) โอกาสการขาดดุลทางการคลังที่มากขึ้น 2) การเลี่ยงความเสี่ยงการเมืองระหว่างประเทศระยะสั้น ซึ่งจะทำให้ตลาดหุ้นไทยกลับมาผันผวน

 

ปัจจัยภายในประเทศ การประชุม ครม. 1) อนุมัติงบกลาง 2,553 ล้านบาทฟื้นฟูเกษตรกรหลังน้ำท่วม 2) แต่งตั้งคณะกรรมการเจรจาพื้นที่ทับซ้อน ไทย - กัมพูชา พร้อมนำกลับเข้าที่ประชุม ครม. ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า

 

EYES ON
ในสัปดาห์ การรายงานงบฯ 3Q67
4 พ.ย. เริ่มต้นประชุม NPC จีน
5 พ.ย. เลือกตั้งสหรัฐฯ, Caixin PMI ภาคบริการ
6 พ.ย. HCOB PMI ภาคบริการของ Eurozone
7 พ.ย. การประชุม FOMC, ส่งออก-นำเข้าของจีน

 

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ

 



 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

อ่อนตัว By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ วันนี้ พรุ่งนี้ ประเทศไทย เข้าสู่ฤดูฝน ตอนนี้แถว รัชดาฯฝนตก อากาศเย็นสบาย นั่งมองหุ้นหลาย....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้