Thai Consumer Finance
คาดผลประกอบการ 3Q67 ของ MTC และ SAK ออกมาดี
ระยะสั้น ชอบ MTC และ SAK เลือก TIDLOR หุ้นเด่นปี 68
เราได้ปรับมูลค่าประเมิน (Roll forward valuations) ไปที่ปี 68 และคงมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มการเงินผู้บริโภคไทย โดยคาดว่ากำไรของกลุ่มในปี 68 จะเติบโตในอัตราที่เร็วขึ้นที่ 12% เทียบกับ 0-3% ในปี 66-67 เนื่องจาก NIM เพิ่มขึ้นจากการลดอัตราดอกเบี้ย เราคาดว่าผลประกอบการ 3Q67 ของ MTC และ SAK จะออกมาดี เนื่องจากสินเชื่อขนาดเล็กของทั้งสองบริษัทจะได้ประโยชน์จากโครงการแจกเงินของรัฐบาล สำหรับปี 68 เราชอบ TIDLOR เนื่องจากการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมที่แข็งแกร่ง NIM ที่สูงขึ้น และคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้น ขณะเดียวกัน เราปรับลดคำแนะนำ SAWAD และ KTC จาก "ซื้อ" เป็น "ถือ" เพราะเชื่อว่าราคาหุ้นที่สูงสะท้อนข่าวดีเรื่องคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้นแล้ว และมี Upside จำกัด สำหรับ ASK เราปรับลดคาดการณ์กำไรปี 67-69 ลง 6-31% เพื่อสะท้อนการเติบโตของสินเชื่อและรายได้ที่ลดลง.
คาดกำไร MTC และ SAK เติบโต YoY และ QoQ
คาดกำไรสุทธิของ MTC ที่ 1.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% YoY และ 4% QoQ เนื่องจากรายได้ที่เติบโตดีและ ต้นทุนความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อ (credit cost) ที่ลดลง อัตราส่วน NPL ของ MTC คาดว่าจะลดลง QoQ จากการจัดเก็บหนี้ที่ดีขึ้นและโครงการแจกเงินของจากรัฐบาล สำหรับ SAK คาดว่ากำไรจะเติบโต 18% YoY และ 10% QoQ จากการเติบโตของรายได้ที่แข็งแกร่งและการควบคุมต้นทุนที่ดี โดยสินเชื่อคาดว่าจะเติบโต 16% YoY และ 3% QoQ ขณะที่ NIM คาดว่าจะทรงตัว QoQ เนื่องจากต้นทุนเงินทุนลดลง อัตราส่วน NPL คาดว่าจะทรงตัว QoQ ที่ 2.50% และ credit cost ลดลง 10bps QoQ มาอยู่ที่ 1.30% คาดว่าต้นทุนเงินทุนของ SAK จะลดลงเร็วขึ้นใน 4Q67 เนื่องจาก 95% ของแหล่งเงินทุนเป็นเงินกู้ดอกเบี้ยลอยตัวจากธนาคาร
คาด SAWAD ชะลอการปล่อยสินเชื่อ เพื่อปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์
เราคาดกำไรของ SAWAD ที่ 1.34 พันล้านบาท ลดลง 3% YoY (จาก credit cost ที่สูงขึ้น) แต่เพิ่มขึ้น 6% QoQ (จากการเติบโตของรายได้ที่ดี) โดยคาดว่าสินเชื่อจะเติบโต 10% YoY และ 2% QoQ ขณะที่ NIM คาดว่าจะทรงตัว QoQ ที่ 15.6% ค่าใช้จ่ายดำเนินงานคาดว่าจะลดลง YoY จากการลดลงของการขาดทุนจากการขายรถจักรยานยนต์ที่ยึดมา ส่วนการตั้งสำรองคาดว่าจะอยู่ที่ 549 ล้านบาท หรือคิดเป็น credit cost 2.2% ใน 3Q67 เทียบกับ 2.1% ใน 1H67 อัตราส่วน NPL คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 10bps QoQ มาอยู่ที่ 3.50% ขณะที่ NPL coverage คาดว่าจะยังต่ำที่ 69% เราประเมินว่าสินเชื่อจะเติบโตในอัตราที่ช้าลงเนื่องจาก SAWAD มีวงเงินกู้จากธนาคารน้อยกว่าคู่แข่ง
TIDLOR, ASK กำไรลดลง QoQ จากคุณภาพสินเชื่อเช่าซื้อที่อ่อนแอ
เราคาดว่ากำไรของ TIDLOR จะเติบโต 3% YoY (จากการเติบโตของรายได้ที่แข็งแกร่ง) แต่ลดลง 5% QoQ เหลือ 1.04 พันล้านบาท จาก credit cost และค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่สูงขึ้น โดยอัตราส่วน NPL และ credit cost ของ TIDLOR คาดว่าจะเพิ่มขึ้น QoQ จากการเสื่อมคุณภาพสินทรัพย์ในสินเชื่อจำนำทะเบียนรถบรรทุกใน 3Q67 แต่ในเชิงบวก คาดว่า NIM จะค่อยๆ เพิ่มขึ้นจากอัตราผลตอบแทนสินเชื่อที่สูงขึ้นและการก่อตัวของNPL ลดลง QoQ สำหรับ ASK คาดว่ากำไร 3Q67 อยู่ที่ 53 ล้านบาท ลดลง 83% YoY และ 35% QoQ จาก NIM ที่ลดลงและ credit cost ที่สูงขึ้น โดยสินเชื่อคาดว่าจะหดตัว 3% YoY และ QoQ ขณะที่รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยลดลงจากรายได้ค่าประกันที่ลดลง อัตราส่วน NPL คาดว่าจะสูงขึ้นเป็น 6.5% ใน 3Q67 จาก 6.1% ใน 2Q67