Market Wrap-Up
- SET วันที่ 31 ต.ค.67 ปิด +18.84 จุด อยู่ที่ 1,466.04 จุด มูลค่าการซื้อขาย 42,739 ลบ.ต่างชาติขาย 437 ลบ. รายย่อยขาย 1,804 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 43 ลบ. สถาบันซื้อ 2,198 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิ 1,083 ลบ. โดยมียอดซื้อในหุ้น CPN,CPALL,PTTEP,DELTA,KCE และยอดขายในหุ้น BBL,ADVANC,IVL,GULF,MTC มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,470 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ PSH,CK,GLOBAL โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 16,359 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 71,627 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 33 ลบ.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.90%, S&P500 -1.86%, Nasdaq -2.76% จากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี -3.5%, สินค้าฟุ่มเฟือย -1.8% หลังหุ้น Meta Platform -4.1%, Microsoft -6% แม้ว่ากำไร Q3/67 จะดีกว่า แต่นักลงทุนกังวลค่าใช้จ่าย Capex ด้าน Ai ที่สูงขึ้นจะกระทบต่อกำไรในอนาคต ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -1.20% จากแรงขายกลุ่มสินค้าแบรนด์เนม, รถยนต์ ที่คาดกำไรมีแนวโน้มชะลอตัวตามอุปสงค์จีน และธนาคาร BNP Paribas -4.2% หลังรายงานกำไร Q3/67 ต่ำกว่าคาด
Market View
- ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลงจากแรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี จากความกังวลค่าใช้จ่าย Capex ของ AI ที่เพิ่มขึ้น จะกดดันด้านลบต่อผลประกอบการ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจวานนี้ PCE ก.ย. ลดลงอยู่ที่ 2.1% & ส.ค. 2.3% YoY และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลง 12,000 อยู่ที่ 216,000 ต่ำกว่าคาดที่ 227,000 ราย บ่งชี้ตลาดแรงงานสหรัฐยังเติบโตดี และเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ ซึ่งหนุนให้เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 7 พ.ย. ส่วนค่ำวันนี้ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ต.ค. คาด 110,000 & ก.ย. 254,000 ตำแหน่ง , อัตราว่างงานสหรัฐ ต.ค. คาดทรงตัวที่ 4.1%
- ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี, อสังหา ฯ หลังรายงาน CPI ยูโรโซน ต.ค. ปรับขึ้นอยู่ที่ 2.0% & ก.ย. 1.7% ส่งผลให้นักลงทุนไม่มั่นใจว่า ECB จะลดดอกเบี้ยในการประชุม ธ.ค. หรือไม่ ส่วนดัชนี FTSE อังกฤษวานนี้ -0.6% หลัง ก.คลังจะปรับเพิ่มการเก็บภาษี 4.0 หมื่น ล.ปอนด์ เพื่อชดเชยหนี้สาธารณะ และลงทุนใหม่ในบริการสาธารณะ ซึ่งอาจส่งผลให้เงินเฟ้อสูงขึ้น และมีผลต่อการตัดสินใจลดดอกเบี้ยของ BOE ในการประชุมวันที่ 7 พ.ย.
- ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +0.42% หลังรายงาน PMI ภาคผลิตจีน ต.ค. อยู่ที่ 50.1 & ก.ย. 49.8 ปรับขึ้นอยู่ในโซนขยายตัวครั้งแรกนับตั้งแต่ เม.ย. ที่ผ่านมา เป็นผลจากการ ม.ผ่อนคลายสภาพด้วยการลดดอกเบี้ย โดยนักลงทุนรอผลการประชุม NPC วันที่ 4 – 8 พ.ย. ต่อ ม.กระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ส่วนดัชนีนิเกอิ -0.5% หลัง BOJ มีมติคงดอกเบี้ยที่ 0.25% โดยตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ทรงตัว รอผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
- ดัชนี SET วานนี้ +1.30% ปริมาณการซื้อขาย 4.2 หมื่น ลบ. สถาบันซื้อ 2,198 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 43 ลบ. ต่างชาติขาย 437 ลบ. และรายย่อยขาย 1,804 ลบ. โดยดัชนีได้แรงหนุนจากการซื้อสุทธิของสถาบัน หลัง Valuation ของดัชนีได้ลดลงจากระดับ F/PE สูงสุดที่ 16.4X ลงมาอยู่ที่ 15.7x หลังต่างชาติชะลอการลงทุนระหว่างรอผลการเลือกตั้งสหรัฐ กอปรกับ Dollar Index แข็งค่าขึ้น โดยเม็ดเงินส่วนใหญ่ยังเลือกเข้าลงทุนในกลุ่ม DELTA,GULF,ADVANC ที่ได้ประโยชน์จากการลงทุนด้าน Data Center & AI ส่วนกลุ่มพลังงาน PTTEP ก็ได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้น และกลุ่มค้าปลีกนำโดย CPAXT ได้ประโยชน์จาก ม.กระตุ้นกำลังซื้อ กอปรกำไรปีหน้าคาดปรับดีขึ้น จากคาดการณ์ต้นทุนการดำเนินจะลดลง เป็นผลจาก Synergy ของการควบรวมกิจการ โดยภาพรวมนักลงทุนยังรอผลการเลือกตั้งสหรัฐ, การประชุมเฟด และรายงานกำไร บจ. ซึ่งวันนี้ ADVANC จะรายงานกำไร Q3/67 คาดที่ 8.43 พัน ลบ. -2% QoQ, +4% YoY
Daily Strategy
- ประเมินดัชนี SET ทรงตัวในกรอบแนวรับ 1,455 – 1,460 แนวต้าน 1,470 – 1,475 อยู่ระหว่างรอผลการเลือกตั้งสหรัฐวันที่ 5 พ.ย., ผลการประชุมเฟดวันที่ 7 พ.ย. รวมถึงรายงานกำไร บจ.Q3/67 แนะนำทยอยซื้อดัชนีอ่อนตัว เช่น CPALL,CPAXT,AOT,AAV,BA,ERW ได้ประโยชน์ในช่วง High Season ของการท่องเที่ยว และเก็งกำไรกลุ่มที่คาดกำไร Q3/67 เติบโตดี เช่น BH, BDMS, SPALI, IVL, TU, CK, BEM, PLANB, SISB
- IVL* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 25.50 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 3Q67 จะออกมาดีกว่าตัวอื่นในกลุ่มปิโตรเคมีเนื่องจากไม่มีรายการด้อยค่าสินทรัพย์กดดันเหมือนไตรมาสก่อน ขณะที่กำไรปกติมีแรงหนุนจากปริมาณขายและ spread ที่ทยอยฟื้นตัว บวกกับค่าใช้จ่ายหลังปรับโครงสร้างธุรกิจลดลง ส่วน 4Q67 น่าจะประคองตัวได้แม้เป็น low season ด้วยผลจากการลดต้นทุน และในปี 68 ถึงจะเผชิญกับภาวะอุสาหกรรมที่ oversupply แต่น่าจะกลับมากำไรได้เพราะผ่านช่วง asset optimization ไปแล้ว ทั้งนี้ตลาดประเมินปี 67 ขาดทุนสุทธิ 71 หมื่นล้านบาท และปี 68 พลิกมีกำไรสุทธิ 1.09 หมื่นล้านบาท
- ITC* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 29.07 บาท) Consensus คาดกำไรสุทธิ 3Q67 อยู่ที่ 986 ลบ. -2%QoQ, +53%YoY ยังอยู่ในเกณฑ์ดีจาก GPM ที่คาดว่าจะอยู่ในระดับสูง จาก สัดส่วนสินค้า Premium ที่สูงขึ้น และ ต้นทุนโดยเฉพาะปลาทูน่าที่ยังอยู่ในระดับไม่สูง ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออกของไทย 3Q67 อาหารสุนัขและแมว +7%QoQ, +34%YoY ส่วนการดำเนินงาน 4Q67 มีโอกาส +YoY +QoQ ต่อจากแรงหนุนเพิ่มเติม คำสั่งซื้อใน 3Q67 ส่งไม่ทันมารับรู้รายได้ใน 4Q67 แทน ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี67 และ68 กำไรสุทธิของ ITC* จะอยู่ที่ระดับ 3,768 ลบ.(+65%YoY) และ 4,132 ลบ.(+10%YoY)
Daily Key Factors
Oil Update(+) WTI ธ.ค. +$0.65 อยู่ที่ $69.26 / บาร์เรล, Brent ธ.ค. +$0.61 อยู่ที่ $73.16/บาร์เรล หลังแหล่งข่าวเผยอิหร่านเตรียมโจมตีอิสราเอลจากดินแดนอิรักในอีกไม่กี่วันข้างหน้า กอปรราคาน้ำมันได้ปัจจัยหนุนจากกลุ่มโอเปกเลื่อนการเพิ่มกำลังการผลิตจาก ธ.ค. ออกไปอีก 1 เดือน หรือมากกว่านั้น
Gold Update(-) Comex Gold ธ.ค.-$51.50 อยู่ที่ $2,749.30 /ออนซ์ ถูกแรงขายทำกำไร ก่อนทราบผลการเลือกตั้งสหรัฐในสัปดาห์หน้า
Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -57.02 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -12.92 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -21.71 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -22.39 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านีทรงตัวอยู่ที่ 33.77 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัวอยู่ที่ 4.29 %
(-) ดัชนี BDI วานนี้ -7 จุด อยู่ที่ 1,388
(-) BitCoinเช้านี้ -2.94% อยู่ที่ 70,035 ดอลลาร์สหรัฐ
Economic Calendar
ในประเทศ
30 ต.ค. รายงานผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ฉบับย่อ
31 ต.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
สัปดาห์ที5 สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนี
ความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
ต่างประเทศ
29 ต.ค. US รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี ( ต.ค.)
US ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTS (ก.ย.)
30 ต.ค. US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
US การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรม(ADP)(ต.ค.)
US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 3)
31 ต.ค. CN ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน ( ต.ค.)
EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) ( ต.ค.)
US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index (ก.ย.)
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
01 พ.ย. US รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง (เดือนต่อเดือน) ( ต.ค.)
US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ( ต.ค.)
US อัตราการว่างงาน ( ต.ค.)
Theme Strategy
Theme หุ้นเด่น 2H67 คาดหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย ลุ้นมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อเพิ่มเติม, การอนุมัติงบประมาณปี68, กลุ่มที่มี High Season ใน 3Q เช่น กลุ่มส่งออก, กลุ่มร.พ., กลุ่มที่มี High Season ใน 4Q เช่น กลุ่มท่องเที่ยว, คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย
(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, NSL* CBG*, AU*, KCG*,
(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*,
(3) กลุ่มท่องเที่ยว สายการบิน ขนส่ง สื่อนอกบ้าน ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa, traffic การเดินทางฟื้นตัว AOT*, ERW*, SPA*, BA, AAV, BEM*, PLANB*
(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, SAWAD*
(5) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, WPH*
(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA
(7) กลุ่มธนาคาร KBANK, SCB, BBL, KTB
(8) กลุ่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆช่วงปลายปี/ การใช้งบที่เหลือของปี67 SYNEX*, ADVICE*, COM7*
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 55% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio October 2024: CPALL, WHA, CPF, THCOM, BDMS
Analysts
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th