สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 25 ตุลาคม 2567)-- บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)BCP เปิดเผยข้อมูลสำคัญรายธุรกิจประจำไตรมาส สำหรับ Q3/2567 ทางบริษัทฯขอนำส่งสรุปข้อมูลสำคัญรายธุรกิจ ดังนี้
ใน Q3/2567 ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยปรับตัวลดลง เนื่องจากแรงกดดันจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจของมหาอำนาจโลกอย่างจีนและสหรัฐฯ ซึ่งส่งสัญญาณชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันโลก ขณะเดียวกันอุปทานจากกลุ่มประเทศผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกยังคงอยู่ในระดับสูง ยิ่งกดดันให้ราคาน้ำมันลดลง ส่วนต่างราคาน้ำมันดีเซล –ดูไบ (GO-DB) และน้ำมันเจ็ท (เคโรซีน)– ดูไบ (IK-DB) ก็ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2567 โดยมีปัจจัยจากความต้องการใช้น้ำมันที่ลดลงตามสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการคงคลังผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่นขั้นกลางในสิงคโปร์ที่ยังคงอยู่ในระดับสูงขณะที่ส่วนต่างราคาน้ำมันเบนซิน 95 – ดูไบ (UNL95-DB) ปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน จากการชะลอตัวของอุปสงค์ตามฤดูกาลการขับขี่ในสหรัฐฯ ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ประกอบกับอุปทานที่ยังคงอยู่ในระดับสูงในเอเชีย ตลอดจนโรงกลั่นในภูมิภาคที่กลับมาดำเนินการหลังการปิดซ่อมบำรุงในไตรมาสก่อน อีกทั้งยังได้รับผลกระทบเพิ่มเติมจากการที่โรงกลั่นขนาดใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซียประกาศเลื่อนการปิดซ่อมบำรุงจากเดือนตุลาคมปีนี้ออกไปเป็นเดือนมกราคมปี 2568 โดยใน Q3/2567 โรงกลั่นบางจากมีกำลังการผลิตเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนมาอยู่ที่ 259.7 พันบาร์เรลต่อวัน และมีอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 88% โดยหลักมาจากการที่โรงกลั่นพระโขนงกลับมาดำเนินการผลิตอย่างเต็มที่ ภายหลังจากการปิดซ่อมบำรุงหน่วยกลั่นตามวาระ (Turnaround Maintenance) ใน Q2/2567แม้ว่าโรงกลั่นศรีราชาชะลอการกลั่น เนื่องจากการปิดซ่อมบำรุงบางหน่วยตามแผนประจำปีในไตรมาสนี้
ด้านปริมาณการจำหน่ายรวมของกลุ่มบางจาก ในQ3/2567 อยู่ที่ 3,328 ล้านลิตร ใน Q3/2567 ปริมาณการจำหน่ายน้ำมันรวมปรับลดลงเพียงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องมาจากตลาดค้าปลีกที่ได้รับผลกระทบจากการเข้าสู่ช่วงฤดูฝนและสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ในบางพื้นที่ทำให้การเดินทางและการท่องเที่ยวชะลอตัวลงอย่างไรก็ตาม ตลาดอุตสาหกรรมยังคงมีปริมาณจำหน่ายที่ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนหน้า
กลุ่มธุรกิจไฟฟ้าพลังงานสะอาด ใน Q3/2567 มีการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น โดยหลักมาจากปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างมากของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในประเทศ สปป. ลาว โดยมีสาเหตุหลักจากปัจจัยด้านฤดูกาลตามปกติ (Seasonal Factor) ประกอบกับปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มขึ้นจากปรากฎการณ์ลานีญาซึ่งสามารถชดเชยปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่ลดลงจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยที่ค่าความเข้มแสงลดลงตามปัจจัยฤดูกาล และปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่ลดลงจากการจำหน่ายกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นเมื่อเดือนมิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา
บริษัทฯ รับรู้ปริมาณการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติในประเทศสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น จากการกลับมาดำเนินงานผลิตครบทุกโรง ภายหลังจากการปิดซ่อมบำรุงไปบางส่วนใน Q2/2567
อีกทั้งใน Q3/2567 ธุรกิจคลังน้ำมันและท่าเทียบเรือ มีปริมาณการใช้ถังเก็บน้ำมันลดลงเมื่อเทียบกับ Q2/2567 ขณะที่มีปริมาณการใช้ท่อเพิ่มขึ้นจากการใช้บริการขนถ่ายน้ำมันของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น
กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ใน Q3/2567 มีปริมาณการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เอทานอลปรับเพิ่มขึ้น ตามปริมาณวัตถุดิบและแผนบริหารการขายของบริษัท ขณะที่ปริมาณการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไบโอดีเซล (B100) ปรับตัวลดลงเล็กน้อย ตามความต้องการในการบริโภคในประเทศที่อ่อนตัวลงตามปัจจัยฤดูกาลสำหรับราคาเฉลี่ยไบโอดีเซลและเอทานอลอ้างอิงไตรมาสนี้อ่อนตัวลงเล็กน้อยเนื่องจากผลผลิตปาล์มน้ำมันออกมาสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง และปริมาณสต๊อกเอทานอลของประเทศอยู่ในระดับสูง ตามลำดับ
กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ ใน Q3/2567 มีปริมาณการผลิตปรับลดลงเล็กน้อย ขณะที่มีปริมาณการจำหน่ายรวมปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน โดยหลักมาจากปริมาณการจำหน่ายมากกว่ากำลังผลิตตามสัญญา (Overlift) ของแหล่ง Brage อย่างไรก็ตามราคาขายเฉลี่ยก๊าซธรรมชาติปรับเพิ่มขึ้นตามราคาในตลาดโลกจากความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น และจากการที่ประเทศในยุโรปเร่งกักตุนสำรองก๊าซธรรมชาติเพื่อรองรับความต้องการในช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง ในขณะที่ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงตามตลาดโลกจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
ทั้งนี้ OKEA (บริษัทย่อยซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 45.58) ได้บรรลุข้อตกลงในการจำหน่ายแหล่งปิโตรเลียม Yme ซึ่งเป็นสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 15 ให้กับ Lime Petroleum AS ("Lime") คิดเป็นมูลค่า 15.65 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นมูลค่าที่สูงกว่ามูลค่าทางบัญชีและ Lime จะเป็นผู้รับผิดชอบต้นทุนการรื้อถอนทั้งหมดของแหล่งปิโตรเลียม Yme โดยมีการลงนามสัญญาซื้อขายแล้วเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2567 และคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในสิ้นปี 2567