ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

21 ต.ค. 2567 08:53:04 462

Market Wrap-Up

SET วันที่ 18 ต.ค.67 ปิด -5.20 จุด อยู่ที่ 1,489.82 จุด มูลค่าการซื้อขาย 64,650 ลบ.ต่างชาติขาย 263 ลบ.รายย่อยขาย 585 ลบ.พอร์ตโบรกซื้อ 84 ลบ.สถาบันซื้อ 764 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิ 416 ลบ. โดยมียอดซื้อในหุ้น CPALL,ADVANC,KTB,GULF,CPAXT และยอดขายในหุ้น PTTEP,PTTGC,BTS,INTUCH,SAWAD มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 2,100 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ DCC,BSRC,SCC โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 28,838 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 118,652 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 3,863 ลบ.
ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.09%, S&P500 +0.40%, Nasdaq +0.63% ได้แรงหนุนจากกลุ่มบริการสื่อสาร +0.9%, เทคโนโลยี +0.5% หลัง Netflix +11.1% รับกำไรที่ดีกว่าคาด และ Apple +1.2% รับยอดขาย Iphone รุ่นใหม่ในตลาดจีนเพิ่มขึ้น ขณะที่กลุ่มพลังงาน -0.4% ลดลงตามราคาน้ำมันดิบ ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.21% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทค +2% , ทรัพยากร +1.4% ปรับขึ้นตามราคาทองแดง และสินค้าหรูหรา +1.1%

Market View

DJIA +1.0%, S&P500 +0.9%, Nasdaq +0.8% WoW ได้แรงหนุนจากกำไร Q3/67 ของกลุ่มธนาคารสหรัฐที่ดีกว่าคาด กอปรกำไร Q3/67 ของ Netflix ปรับดีขึ้นตามจำนวนสมาชิกใหม่ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจยอดค้าปลีก ก.ย. 0.4% & ส.ค. 0.1% MoM และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลงอยู่ที่ 241,000 ราย บ่งชี้เศรษฐกิจสหรัฐไม่มีความเสี่ยงชะลอตัว และ Consensus คาดเฟดจะลดดอกเบี้ย 25% ในการประชุม 7 พ.ย. สัปดาห์นี้ติดตามยอดขายบ้านมือ, บ้านใหม่, คำสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐ ก.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน และ PMI ภาคการผลิต & บริการสหรัฐ เบื้องต้น ต.ค.
Stoxx600 ยุโรป +0.58% WoW ได้แรงหนุนจาก CPI ยูโรโซน ก.ย. ลดลงอยู่ที่ 7% & ส.ค. 2.2% YoY และผลการประชุม ECB ปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากลง 0.25% อยู่ที่ 3.25% และคาดมีโอกาสลดอีกครั้งในการประชุม ธ.ค. ขณะที่กลุ่มสินค้าหรูหรา, ทรัพยากรพื้นฐานได้ปัจจัยหนุนจาก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจจีน สัปดาห์นี้ติดตามข้อมูล PMI ภาคผลิต & บริการยูโรโซน เบื้องต้น ต.ค.
MSCI Asia Pacific X.Japan -0.42% WoW หลังดัชนีฮั่งเส็ง -2.1% WoW หลังกระทรวงเคหะแห่งชาติจีนแถลงจะเพิ่มรายชื่อโครงการอสังหา ฯ จะได้เงินสนับสนุน แต่ยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้ +1.3% WoW หลังข้อมูล GDP จีน Q3/67 อยู่ที่ 6 % ตามคาดการณ์ และ 9 เดือน GDP จีน +4.8% YoY ซึ่งจำเป็นต้องการ ม.กระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ขณะที่อัตราการว่างงาน, ยอดค้าปลีก, ผลผลิตภาคอุตฯ จีน ก.ย. ดีกว่าคาด วันนี้ติดตามธนาคารกลางจีนจะพิจารณาอัตราดอกเบี้ย LPR 1 ปี, 5 ปี ซึ่ง Consensus คาดจะลดลง 0.20%
SET +1.34% WoW ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย/วัน 67 หมื่น ลบ. +26.3% WoW สถาบันซื้อ 5,764 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 1,918 ลบ. รายย่อยขาย 6,704 ลบ. และต่างชาติขาย 977 ลบ. WoW ได้แรงหนุนจากกลุ่มอิเล็ก ฯ +10.5%, ไอซีที +3.2% นำโดย DELTA,ADVANC,TRUE ที่คาดจะได้ประโยชน์จากการลงทุน Data Center & Cloud Service ของ Google และกลุ่มบริษัทในตะวันออกกลาง ส่วนกลุ่มไฟแนนท์ +1.98%, อสังหา ฯ +1.3% หลัง กนง.มีมติ 5 – 2 ลดดอกเบี้ยลง 0.25% อยู่ที่ 2.25% ส่งผลให้ต้นทุนด้านการเงินปรับลดลง กอปร Consensus ยังคาดมีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยอีกครั้งในช่วง Q1/68 และกลุ่มค้าปลีก +2.5% ได้ปัจจัยหนุนจาก ม.แจกเงินสดเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ กอปรเริ่มเข้าสู่ Q4 ซึ่งเป็นช่วง High Season ขณะที่กลุ่มที่ปรับลดลง คือ พลังงาน, ปิโตรเคมียังถูกกดดันจากอุปสงค์จากจีนที่ชะลอตัว ส่วนกลุ่มธนาคารปรับลดลง จากความกังวล NIM ในระยะถัดมีโอกาสแคบลง หลัง กนง.ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย ประเด็นสำคัญวันนี้รอรายงานกำไร Q3/67 ของกลุ่มธนาคาร, วันศุกร์ งบ DELTA Q3/67 คาดกำไรที่ 5.78 พัน ลบ. -12%QoQ, +7%YoY และติดตามยอดส่งออกไทย ก.ย.คาด 3.5% & ส.ค. 7.0% YoY

Daily Strategy

วาง Filter แนวรับดัชนี SET ที่ 1,480 กรณียืนได้ถือพอร์ตต่อ โดยมีแนวต้าน 1,500 – 1,505 คาดดัชนีทรงตัวรอก่อนเข้าช่วงรายงานกำไร Q3/67 ของกลุ่ม Real Sector แนะนำทยอยซื้อเมื่อดัชนี่อ่อนตัว กลุ่มค้าปลีก CPALL,CPAXT ได้ประโยชน์จากการเตรียมพิจารณาดิจิทัล วอลเล็ตเฟส 2/ HMPRO,GLOBAL จาก ม.ซ่อมแซมบ้าน/ ส่งออกอาหาร CPF,TU,ITC,AAI คาดได้แรงหนุนจากอุปสงค์ตลาดโลก & เงินบาทเริ่มอ่อนค่า
CPN* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 81.50 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 2H67 เติบโต YoY หนุนจากรายได้ศูนย์การค้าเดิมและสาขาที่เปิดใหม่ 2 แห่งในช่วง 1Q67 ประกอบกับธุรกิจโรงแรมที่ฟื้นตัวตามภาคการท่องเที่ยว ส่วนธุรกิจอสังหาฯ ยังมี backlog ที่รอโอนอยู่ในช่วงครึ่งปีหลังต่อเนื่อง ด้านแผนการลงทุนวาง capex 1.5 หมื่นล้านบาท ในโครงการ central กระบี่ และรีโนเวทศูนย์การค้า Central ปิ่นเกล้า แจ้งวัฒนะ บางนา และเชียงใหม่แอร์พอร์ต คาดทยอยดำเนินการเสร็จในปี 68-69 ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตเฉลี่ย 10% ต่อปี อิง Consensus ตลาดคาดกำไรปี 67 ตลาดคาดกำไรอยู่ที่ 64 หมื่นล้านบาท +9%YoY และปี 68 อยู่ที่ 1.77 หมื่นล้านบาท +8%YoY
HMPRO* (ซื้อสะสม / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 12.45 บาท) กำไรสุทธิ 1H67 อยู่ที่ 3,335 ลบ. +3.20%YoY ส่วนการดำเนินงานครี่งปีหลัง แม้ 3Q67 คาดอ่อนตัวตามฤดูกาลแต่จะกลับมาดีใน 4Q67 นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มสินค้า Hardline ยังมี Sentiment บวกจากโอกาสซ่อมแซมสิ่งก่อสร้างหลังน้ำท่วม ด้าน HMPRO* มีแผนจะเปิดสาขาเพิ่มในครึ่งปีหลังอีก 5 สาขา(จาก 1H67 เปิดเพิ่ม 2 สาขา) เป็น Home Pro 4 แห่ง และ Mega Home 1 แห่ง โดยจะเน้นไปที่ Format Hybrid (มี Home Pro+Mega home ในที่เดียวกัน)มากขึ้น ทั้งนี้ ตลาดคาดกำไร HMPRO* ปี67 และ 68 ที่ 6,677 ลบ.(+4%YoY) และ 7,202 ลบ.(+8%YoY)

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI พ.ย. -$1.45 อยู่ที่ $69.22 / บาร์เรล, Brent ธ.ค. -$1.39 อยู่ที่ $73.06/บาร์เรล สัปดาห์ก่อน WTI -8.0%, Brent -7.0% WoW หลังโอเปกปรับลดความต้องใช้น้ำมันทั่วโลกปี 67 – 68 ลง กอปรกับจีนนำเข้าน้ำมันในช่วง Q3/67 ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 66 ส่วนสงครามในตะวันออกกลางนั้น อิสราเอลอาจไม่โจมตีแหล่งพลังงาน, นิวเคลียร์ของอิหร่าน

Gold Update(+) Comex Gold ธ.ค.+$22.50 อยู่ที่ $2,730 /ออนซ์ ได้แรงหนุนจาก ECB ลดดอกเบี้ยลง 0.25% และคาด Fed มีโอกาสลดดอกเบี้ยใน พ.ย., ธ.ค. นี้ โดยทองคำยังเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย

Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP สัปดาห์ที่ผ่านมา ซื้อสุทธิ +67.91 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -29.28 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +78.46 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +18.74 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ค่าเงินบาทเช้านีแข็งค่าอยู่ที่ 33.11 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.093 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -18 จุด อยู่ที่ 1,576

(+) BitCoinเช้านี้ +1.35% อยู่ที่ 69,155 ดอลลาร์สหรัฐ

(0) เช้านี้ติดตาม ธ.กลางจีนพิจารณา LPR 1 ปี, 5 ปี คาดลดลง 0.20% อยู่ที่ 3.15%, 3.65% ตามลำดับ

Economic Calendar

ในประเทศ

30 ต.ค. รายงานผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ฉบับย่อ

31 ต.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

สัปดาห์ที4 ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์

กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย

สัปดาห์ที5 สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนี

ความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

ต่างประเทศ

23 ต.ค. US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) (ก.ย.)

24 ต.ค. US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ( ต.ค.)

US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ ( ต.ค.)

US ยอดขายบ้านใหม่ (ก.ย.)

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่น 2H67 คาดหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย ลุ้นมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อเพิ่มเติม, การอนุมัติงบประมาณปี68, กลุ่มที่มี High Season ใน 3Q เช่น กลุ่มส่งออก, กลุ่มร.พ., กลุ่มที่มี High Season ใน 4Q เช่น กลุ่มท่องเที่ยว, คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย

(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, NSL* CBG*, AU*, KCG*,

(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*,

(3) กลุ่มท่องเที่ยว สายการบิน ขนส่ง สื่อนอกบ้าน ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa, traffic การเดินทางฟื้นตัว AOT*, ERW*, SPA*, BA, AAV, BEM*, PLANB*

(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, SAWAD*

(5) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, WPH*

(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA

(7) กลุ่มธนาคาร KBANK, SCB, BBL, KTB

(8) กลุ่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆช่วงปลายปี/ การใช้งบที่เหลือของปี67 SYNEX*, ADVICE*, COM7*

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

Asset Allocation: Equity 55% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

Today Fundamental Research: -

Monthly Portfolio October 2024: CPALL, WHA, CPF, THCOM, BDMS