มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
SET คาดเดินหน้าขึ้นต่อ ด้วยแรงหนุนหลักจากการลดดอกเบี้ยของ กนง. ระหว่างที่รอจับตาการประชุม ECB โดยปัจจัยบวกนำโดย 1) กนง. ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายไทยลง 0.25% สู่ 2.25% ด้วยมติ 5 ต่อ 2 เสียง คณะกรรมการส่วนใหญ่มองว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะช่วยบรรเทาภาระหนี้ได้บ้าง และประเมินว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะไม่ได้สร้างหนี้ใหม่เพิ่มขึ้นมากนัก เนื่องจากสินเชื่อครัวเรือนมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง จึงจะไม่เป็นอุปสรรคต่อกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ ( Debt deleveraging) ส่วนคณะกรรมการอีก 2 เสียงมองว่าอัตราดอกเบี้ยที่ 2.5% เป็นระดับที่เหมาะสมต่อภาวะเศรษฐกิจและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในวันข้างหน้า โดยรวม กนง. มองตัวแปรทางเศรษฐกิจในปัจจุบันยังเป็นไปตามที่คาดการณ์ คาด กนง. จึงอาจยังไม่เร่งรีบปรับเปลี่ยนดอกเบี้ยนโยบาย จึงมองปลายปีดอกเบี้ยนโยบายจะยังคงตัวที่ 2.25% ในระยะสั้นมองหุ้นในกลุ่มการเงิน ค้าปลีก อสังหาฯ นิคมฯ โรงไฟฟ้า และ REIT จะได้รับ Sentiment เชิงบวก 2) นักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทยวานนี้กว่า 4.2 พันล้านบาท เป็นการพลิกมาซื้อสุทธิครั้งแรกในรอบ 15 วันทำการ พร้อมกับค่าเงินบาทที่ชะลอการอ่อนค่า สนับสนุนภาพ Fundflow ไหลเข้า ขณะที่นักลงทุนสถาบันยังคงซื้อสุทธิอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 12 มองเป็นบวกต่อหุ้นขนาดกลาง-ใหญ่ 3) แรงเข้าซื้อเก็งกำไรในหุ้นที่เตรียมประกาศงบ 3Q67 โดยมองหุ้นในกลุ่ม โรงพยาบาล ที่เป็นช่วงไฮซีซัน กลุ่มอสังหาที่มียูนิตครบกำหนดโอนเข้ามาช่วยหนุนผลประกอบการใน 3Q67 อาจเป็นเป้าหมายสำหรับนักลงทุน

ด้านปัจจัยอื่น นักลงทุนรอจับตา 1) การประชุม ECB เบื้องต้นตลาดคาดจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% 2) ตัวเลขยอดค้าปลีกสหรัฐประจำเดือน ก.ย. 67 คาดขยายตัว 0.3%m-m เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่ 0.1%m-m สะท้อนกำลังซื้อภายในที่ฟื้นตัว

 กลยุทธ์การลงทุน : 1) กนง.ลดดอกเบี้ย : CPAXT, CPN, CPALL, TRUE, ADVANC, MTC, SAWAD, KTC, SIRI, SC,AP, SPALI, BGRIM, GPSC, GULF, WHAIR 2)เก็งงบ 3Q67 : BDMS, BH, CPF, KBANK, KKP, KTB, WHA และ 3)Selective: INTUCH, ICHI

แนวรับ-ต้าน
1,475 – 1,495

ปัจจัยบวก
+ KKP Research ปรับประมาณการศก.สำหรับปี 67 ขึ้นจาก 2.6% เป็น 2.8% และปี 68 ขึ้นจาก 2.8% เป็น 3.0% เพื่อสะท้อนแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะสั้น จากสองปัจจัยบวกที่สำคัญ คือ มาตรการ/งบประมาณภาครัฐ และการปรับตัวดีขึ้นของการส่งออกบางกลุ่ม
+ นายกคิกออฟ โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ จับมือรายใหญ่ช่วยรายเล็ก เพื่อช่วยลดต้นทุนค่าเช่า ค่าแผง สนับสนุนพื้นที่ขายของ และลดราคาสินค้า คาดจะกระตุ้นเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 1 แสนล้านบาท
+ ฮ่องกง เตรียมผ่อนคลายกฎหมายหนี้อสังหา และเตรียมตัดลดภาษีสุรา อันเป็นหนึ่งในชุดมาตรการสนับสนุนภาคอสังหา และการใช้จ่าย หลังการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีนกดดันภาพรวมเศรษฐกิจในเขตเมือง
+ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยอยากเห็นการลดดอกเบี้ยนโยบายลงโดยอยากให้มีการปรับลดดอกเบี้ยลงในการประชุม กนง. ที่เหลืออีก 2 ครั้งรวม 0.5% เชื่อว่าจะมีการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหากมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง

ปัจจัยลบ
- ส.อ.ท. เผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตฯเดือนก.ย.67 อยู่ที่ระดับ 87.1 ปรับตัวลดลงจาก 87.7 ในเดือนส.ค.67 โดยมีปัจจัยด้านลบจากสถานการณ์อุทกภัยสร้างความเสียหายต่ออาคารบ้านเรือนของประชาชน พื้นที่การเกษตร และอุตฯ รวมถึงพื้นที่การท่องเที่ยว และส่งผลกระทบต่อศก.ในภาพรวม มูลค่าสูงถึง 3-5 หมื่นลบ.
- รัฐบาลจีน ประกาศว่าจีน “ไม่มีวัน” ตัดทางเลือกใช้กำลังทหารเพื่อนำไต้หวันมาอยู่ภายใต้การปกครอง
- ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ประเมินความเสียหายที่เกิดกับภาคการท่องเที่ยวและภาคบริการในช่วงสถานการณ์น้ำท่วมทั้งสองระลอกเป็นตัวเลขกว่า 2,280 ล้านบาท
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เผยมีความเป็นไปได้ที่อาจนำกฎหมายการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการจราจรคับคั่ง (Congestion charge) มาใช้ ซึ่งอาจเริ่มเก็บในถนนเส้นที่มีรถไฟฟ้าพาดผ่าน และมีจำนวนรถบนถนน 7 แสนคันต่อวัน โดยจะเก็บคันละ 50 บาท

ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ - นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์