Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : AT THE OPEN

485


AT THE OPEN (#ATO)
SET Index ขยับขึ้นทดสอบ 1500
เลือกหุ้นพื้นฐานแกร่ง ราคาอยู่ในจุดน่าสนใจ

Market Strategy
SET Index คาดขยับกรอบขึ้นเพื่อเตรียมทดสอบ 1500 จุด ตามทิศทางตลาดหุ้นโลกที่มีน้ำหนักทางบวก หนุนจากการรายงานงบ 3Q67 ของสหรัฐฯ ที่ปัจจุบันมีโทนดีกว่า Consensus คาดราว 6.6% ลดความกังวลเรื่องเศรษฐกิจชะลอตัว ด้านจีนวันนี้ติดตาม มาตราการกระตุ้นเพิ่มเติมโดยวันนี้ Housing Minister เตรียมแถลงพบสื่อ ฝั่งยุโรปวันนี้การประชุม ECB ซึ่งถูกคาดหมายว่าจะปรับลดดอกเบี้ยฯ 0.25% และบ้านเรายังน่าจะมีกระแสบวกจากการลดดอกเบี้ยฯ กนง. กลยุทธ์วันนี้เลือก AWC ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยปรับลง และ BEM ที่กำไร 3Q67 คาดเติบโตเด่นและราคาอยู่ในจุดน่าสนใจ
การประชุม กนง. วานนี้สร้าง Positive Surprise มีมติ 5:2 ลดอัตราดอกเบี้ยฯ 0.25% มาที่ 2.25% สวนทางเราและตลาดคาดว่าคงดอกเบี้ยฯ โดยเหตุผลในการปรับลงให้น้ำหนักไปที่เสถียรภาพทางการเงินที่ต้องการลดภาระดอกเบี้ยฯ ซึ่งจะไม่เป็นอุปสรรคต่อกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ ด้านมุมมองเศรษฐกิจยังขยายตัวใกล้เคียงกับ ธปท.เคยประเมิน ซึ่งได้มีการปรับ GDP 67/68 ให้สะท้อนความเป็นจริงยิ่งขึ้น โดยคาด GDP 67 ขยายตัว 2.7% (จากเดิม 2.6%) และ GDP 68 ขยายตัว 2.9% (จากเดิม 3%) ด้านเงินเฟ้อมีแนวโน้มเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงปลายปี 2567 ส่วนการดำเนินนโยบายต่อไปขึ้นกับข้อมูลในอนาคต เรามองบวกต่อการปรับลดดอกเบี้ยฯของ กนง. ที่เป็นสัญญาณที่ดีต่อนโยบายการเงินที่เริ่มไปในทางเดียวกับนโยบายการคลัง สำหรับหุ้นได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยฯ ขาลงกลุ่มไฟแนนซ์ MTC SAK กลุ่มอสังหาฯ AP SPALI SIRI กลุ่ม High Dividend Yield KTB ADVANC 3BBIF กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากต้นทุนดอกเบี้ยลด AWC ERW TRUE
ทิศทาง Fund Flow ต่างชาติมีสัญญาณบวกจากการกลับมาซื้อสุทธิที่ 4.2 พันล้านบาท ครั้งแรกในรอบ 15 วันทำการ หากประเมินการซื้อสุทธิผ่าน NVDR สัดส่วนราว 50% มาจากกลุ่มไฟแนนซ์ (JMT) กลุ่มอสังหาฯ (LH) และกลุ่ม ICT (TRUE INTUCH) ซึ่งได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยฯ ขาลงทั้งสิ้น ขณะที่นักลงทุนสถาบันในประเทศยังซื้อสุทธิ 2.24 พันล้านบาท เป็นการซื้อสุทธิติดต่อกันตลอดเดือน ต.ค. รวม 3.14 หมื่นล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าแรงหนุนยังต่อเนื่องจากเม็ดเงินของกองทุนวายุภักษ์

 

Market Summary
SET Index ปรับขึ้นแรงเกือบ 20 จุด จากการปรับลดดอกเบี้ยฯ 0.25% ของ กนง. สวนกับที่เราและตลาดคาดว่า จะคงดอกเบี้ยฯ โดยกลุ่มที่ Outperform คือกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลงอย่างกลุ่มไฟแนนซ์ SAK และ JMT +13% MTC +4.4% กลุ่มอสังหาฯ SPALI +4% AP +6.7% SIRI +5.5% กลุ่ม ICT อย่าง ADVANC +2.5% TRUE +4.5% ส่วนกลุ่มที่ Underperform คือกลุ่มธนาคาร -0.34% กลุ่มโรงพยาบาล -0.02%


ATO Daily Stock Picks
แนะนำ AWC BEM

BEM ราคาเริ่มขยับตามกำไร
แต่ยังไปไม่มากจึงสะสมได้
คาดว่ากำไร 3Q67 มีโอกาสขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ หนุนจากจำนวนผู้โดยสาร MRT และผู้ใช้ทางด่วนฟื้นตัวจากช่วงเปิดเทอมของทั้งโรงเรียนและมหาวิทยาลัย การปรับขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินตั้งแต่ 3 ก.ค.67 รวมถึงประสิทธิภาพในการสร้างกำไรที่สูงขึ้น ช่วยหนุนกำไรปี 67 ขยายตัวได้ 10.4%YoY
ราคาหุ้นยังมี Upside ส่วนเพิ่มอีก 0.8 บาทต่อหุ้นหรือคิดเป็น 7.4% จากราคาเป้าหมายปัจจุบันที่ 10.8 บาท หากได้รับสัมปทานเก็บค่าผ่านทางทางด่วนเพิ่มเติมอีก 22 ปี แลกกับการสร้างทางด่วน 2 ชั้น (Double-deck) มูลค่า 3.5 หมื่นล้านบาท
ขณะที่ประเด็นรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายที่รัฐบาลตั้งเป้าภายใน ก.ย.68 ในมุมองของเรามองเป็นกลาง เนื่องจากการซื้อสัมปทานจำเป็นต้องใช้เวลาสำหรับเจรจาทั้งสองฝ่าย แต่หากเกิดได้เร็ว คาดใช้แนวทาง รฟม. ชดเชยส่วนต่างค่าโดยสาร ซึ่งจะไม่กระทบต่อผลประกอบการของ BEM
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 10.80 บาท


AWC ได้ประโยชน์
จากดอกเบี้ยฯ ปรับลง
การปรับลดดอกเบี้ยฯ ของ ธปท. วานนี้ 25 bps มองจะส่งบวกต่อที่ Effective Interest Expense ที่มีแนวโน้มปรับลงช่วยลดภาระดอกเบี้ยฯ จ่าย เนื่องจาก AWC มีหนี้เป็นสกุลเงินบาท โดยทุกๆ 10 bps ที่ Effective Interest Expense ปรับลงหนุนต่อประมาณการกำไรเพิ่มขึ้น 2.3%
ด้านแนวโน้มกำไรอยู่ในจุดฟื้นตัว โดยเราคาดจะมีกำไรหลัก 3Q67E ที่ 340 ล้านบาท ขยายตัว 170% YoY จาก RevPAR คาดเพิ่มขึ้น 21% YoY การดำเนินงานที่แข็งแกร่งของโรงแรม MICE โรงแรมในกรุงเทพฯ และรีสอร์ตหรู และขยายตัว 67% QoQ จากปัจจัยฤดูกาลโดยเฉพาะในกลุ่มสันทนาการ RevPAR ด้านกำไร 4Q67 คาดโตทั้ง YoY และ QoQ เมื่อเข้าสู่ High Season
คาดกำไรในปี 67-73 เติบโตแข็งแกร่งเฉลี่ย 21% ต่อปี ขณะที่ยังมี Upside ต่อประมาณการในระยะยาวหากลงทุนใน Entertainment Complex
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 4.20 บาท


KEY FACTOR
กนง. มีมติ 5 ต่อ 2 ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 25 bps สู่ระดับ 2.25% ถือเป็น Positive Surprise สวนทางกับที่ตลาดประเมินว่าจะคงดอกเบี้ย พร้อมกับเปิดเผยประมาณการณ์เศรษฐกิจรอบใหม่ โดยคาดว่า 1.) GDP ปี 2567 และ 2568 ขยายตัว +2.7% และ +2.9% (จากเดิมคาด +2.6% และ +3.0% ตามลำดับ) โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักจากภาคการท่องเที่ยว (ปรับคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวขึ้นจากเดิม 35.5 เป็น 36.0 ล้านคน ในปีนี้) การบริโภคภาคเอกชน (คงประมาณการณ์ที่ +4.2%) และการส่งออกสินค้าและบริการ (ปรับเพิ่มคาดการณ์จาก 3.9% เป็น +4.8%) 2.) คาดอัตราเงินเฟ้อทั่วไป +0.6% และ +1.3% ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน +0.5% และ +0.9% ในปี 2567 และ 2568 ตามลำดับ ใกล้เคียงกับประมาณการณ์เดิมคาด


EYES ON
17 ต.ค. ยอดค้าปลีก และ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ, อัตราเงินเฟ้อ Eurozone, การประชุม ECB
18 ต.ค. GDP 3Q67 ของจีน


นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้