Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : AT THE OPEN

482

 

AT THE OPEN (#ATO)
SET Index ขยับกรอบขึ้น
กลยุทธ์เลือกหุ้นกำไร 2H67 เติบโตเด่น

Market Strategy
คาด SET Index แกว่งขึ้น 1460-1470 จุด ตามทิศทางตลาดหุ้นโลก เริ่มจากฝั่งสหรัฐฯที่ตลาดหุ้นขึ้นเฉลี่ย 1.3% หนุนจากเศรษฐกิจยัง Soft landing การลดดอกเบี้ยฯ ค่อยเป็นค่อยไป ฝั่งจีนตัวเลขเศรษฐกิจแย่แต่ตลาดเริ่มมองโอกาสมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม ส่วนบ้านเราเริ่มติดตามรายงานงบ 3Q67 วันนี้เลือก BEM AWC
รมว.คลังจีน เผยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเมื่อวันที่ 12 ต.ค. โดยพร้อมออกมาตรการกระตุ้นทางการคลังและสนับสนุนตลาดอสังหาริมทรัพย์ เช่น ให้รัฐบาลท้องถิ่นสามารถใช้พันธบัตรพิเศษในการซื้อคืนที่ดินและสต๊อคบ้าน การแก้ปัญหาหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่น แต่โดยรวมยังไม่มีการประกาศตัวเลขการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชัดเจน ด้านการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจระหว่างวันที่ 12-14 ต.ค. ทั้งดัชนี PPI/CPI ต่ำกว่าคาด ตัวเลขการนำเข้าส่งออกเดือน ก.ย. ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง แต่การตอบสนองของตลาดหุ้นจีนวานนี้ปรับขึ้นเกือบ 2% จากตลาดให้น้ำหนักไปที่มาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม ซึ่งจะสร้าง Sentiment บวกต่อตลาดหุ้นภูมิภาค ระยะถัดไปแนะนำติดตามการประชุม NPC ในช่วงปลายเดือน ต.ค. นี้
ปัจจัยในประเทศหลังจากน้ำท่วมภาคเหนือสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ลำดับถัดไปจะเข้าสู่ฟื้นฟู ซึ่งล่าสุด ททท. เตรียมออกมาตรการแอ่วเหนือคนละครึ่ง สนับสนุนเงิน 400 บาทจากค่าใช้จ่าย 800 บาทจำนวน 10,000 คน คาดเริ่ม 1 พ.ย.67 เราประเมินวงเงินที่ช่วยเหลือไม่มาก แต่มองเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี หากกระแสตอบรับดีอาจเห็นการขยายผลมาตรการที่วงเงินใหญ่ขึ้น โดยหุ้นท่องเที่ยวยังชอบ CENTEL และ AWC
สำหรับประเด็นอื่นๆ สัปดาห์นี้ตลาดให้น้ำหนักกับการรายงานงบ 3Q67 ของหุ้นในกลุ่มธนาคารซึ่งเราคาดกำไรสุทธิอยู่ที่ 5.34 หมื่นล้านบาท ขยายตัว 6%YoY เนื่องจาก Credit Cost ที่ลดลงแต่กำไรจะทรงตัว QoQ เนื่องจาก NIM และ Credit Cost จะลดลง สำหรับวันนี้เป็นรายงานงบ 3Q67 ของ TISCO เราคาดกำไรสุทธิ 1.7 พันล้านบาทหดตัว -9%YoY จาก Credit Cost ที่สูงขึ้น และหดตัว 3% จากรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยฯที่ลดลง

Market Summary
SET Index แกว่งทรงตัว โดยแรงหนุนหลักจากกลุ่ม GULF +3.2% ฉุด INTUCH +0.5% ADVANC +2% ตามด้วยกลุ่มพลังงานที่ฟื้นตามราคาน้ำมันดิบหนุน PTTEP +0.8% PTT +2.2% กลุ่ม ธ.พ. KTB +2.4% KBANK +1% และ BBL +1% ส่วนกลุ่มที่กดดันกลุ่มปูนซิเมนต์ไทย SCC -6% SCGP -2% จากงบ 3Q67 คาดอ่อนแอ กลุ่มค้าปลีก CPALL -1.1% BJC-2.8% หลังความเชื่อมั่นผู้บริโภค ก.ย.ทำจุดต่ำสุดรอบ 14 เดือน


ATO Daily Stock Picks
แนะนำ AWC BEM


BEM Earnings Momentum
3Q67E คาดโตเด่น
คาดว่ากำไร 3Q67 มีโอกาสขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ หนุนจากจำนวนผู้โดยสาร MRT และผู้ใช้ทางด่วนฟื้นตัวจากช่วงเปิดเทอมของทั้งโรงเรียนและมหาวิทยาลัย การปรับขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินตั้งแต่ 3 ก.ค.67 รวมถึงประสิทธิภาพในการสร้างกำไรที่สูงขึ้น ช่วยหนุนกำไรปี 67 ขยายตัวได้ 10.4%YoY
ราคาหุ้นยังมี Upside ส่วนเพิ่มอีก 0.8 บาทต่อหุ้นหรือคิดเป็น 7.4% จากราคาเป้าหมายปัจจุบันที่ 10.8 บาท หากได้รับสัมปทานเก็บค่าผ่านทางทางด่วนเพิ่มเติมอีก 22 ปี แลกกับการสร้างทางด่วน 2 ชั้น (Double-deck) มูลค่า 3.5 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้เราคาด BEM ยังเป็นหนึ่งในหุ้นที่เป็นเป้าหมายของกองทุนวายุภักษ์ เนื่องจาก SET ESG Rating ที่ระดับ AA และช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นปรับขึ้น 5% ช้ากว่ากลุ่มขนส่งที่บวกไปราว 13% มากเกินไปจึงมองระดับเป็นปัจจุบันเป็นจุดที่น่าสะสม
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 10.80 บาท


AWC กำไรปกติ 3Q67E
คาดเติบโตเด่นสุดในกลุ่ม
เราคาด AWC จะมีกำไรหลัก 3Q67E ที่ 340 ล้านบาท ขยายตัว 170% YoY และ 67% QoQ (ดีกว่ากลุ่มที่ขยายตัว 18%YoY แต่หดตัว -19%QoQ)
การขยายตัว YoY มาจาก RevPAR คาดเพิ่มขึ้น 21% YoY เป็น 4,087 บาท/คืน หรือสูงกว่า 24% ช่วงก่อนโควิด จากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของโรงแรม MICE โรงแรมในกรุงเทพฯ และรีสอร์ตหรู ชดเชยการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย 13% ส่วนการเพิ่มขึ้น QoQ จากปัจจัยฤดูกาลโดยเฉพาะในกลุ่มสันทนาการ RevPAR คาดเพิ่มขึ้น 15% QoQ แม้ Occ Rate ของพื้นที่ค้าปลีกมีแนวโน้มลดลง แต่ชดเชยได้จากการเพิ่มขึ้นของค่าเช่าพื้นที่สำนักงาน
เราคาดว่ากำไร 4Q67 จะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ จากการเข้าช่วง High Season การปรับลดดอกเบี้ยฯ ของ ธปท. เป็นบวกต่อกำไรของ AWC โดยเราคาดทุก 10 bps ที่ Effective Interest Expense ปรับลงหนุนต่อประมาณการกำไร AWC เพิ่มขึ้น 2.3%
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 4.20 บาท

 

KEY FACTOR
ตลาดหุ้นต่างประเทศในช่วงที่ไทยปิดทำการ 1) สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นในช่วง +0.47% ถึง +0.87% 2) ตลาดหุ้นเอเชีย ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น โดยจีนขึ้นแรงที่สุด +2.07% หลังกระทรวงการคลังเปิดโอกาสการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่เพิ่มเติม (มีเพียงฮ่องกงที่ปิดลบ -0.75%)
จีนเปิดเผยแนวทางการใช้มาตรการด้านการคลังกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยเน้นไปที่ภาคอสังหาฯ 1) อนุญาตให้รัฐบาลท้องถิ่นใช้พันธบัตรพิเศษเพื่อซื้อบ้านที่ยังขายไม่ออก 2) ออกพันธบัตรเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ธนาคารของรัฐขนาดใหญ่ พร้อมกับส่งสัญญาณสร้างความเชื่อมั่นว่าในปัจจุบันจีน มีวงเงินคงเหลือผ่านการออกพันบัตรพิเศษได้อีก 2.3 ล้านล้านหยวน (325 พันล้านดอลลาร์) เพื่อใช้ในช่วงที่เหลือของปี
ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์นี้ 1) การรายงานดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐฯ (ยอดค้าปลีก และ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม) 2) การประชุม ECB (Consensus คาดว่าจะลดดอกเบี้ยต่อเนื่องอีก 25bps) 3) GDP 3Q67 ของจีน (Consensus คาด +4.5% ชะลอลงจาก +4.7% YoY ในไตรมาสก่อน แต่ เร่งตัว +1.1% QoQ จาก +0.7% QoQ)

 

EYES ON

16 ต.ค. ยอดการขอสินเชื่อบ้านสหรัฐฯ, ประชุม กนง.
17 ต.ค. ยอดค้าปลีก และ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ, อัตราเงินเฟ้อ Eurozone, การประชุม ECB
18 ต.ค. GDP จีน

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ปลุกหุ้นใหญ่ By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดหุ้นไทย สูตรเดิม มักใช้ได้เสมอ ใช้หุ้นDELTA นำ ตามด้วย .....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้