AT THE OPEN (#ATO)
SET Index Sideways (Up)
กลยุทธ์เลือกหุ้นกำไร 2H67 ฟื้นตัว
Market Strategy
ปัจจัยต่างประเทศยังอยู่ไปที่พัฒนาการของ 3 เรื่อง 1) การลดดอกเบี้ยสหรัฐที่ตลาดปิดประตูลดดอกเบี้ยฯ 50 bps ในเดือน พ.ย. 2) ความตึงเครียดในตะวันออกกลางต่อการตอบโต้ของอิสราเอล 3) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน ด้าน Fund Flow แรงหนุนจากกองทุนวายุภักษ์ยังมีน้ำหนักมากกว่าแรงขายต่างชาติทำให้ SET Index วันนี้แกว่ง Sideway (Up) กรอบ 1460-1475 จุด
การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ วานนี้ออกมาแย่กว่าคาด จากรายงานเงินเฟ้อเดือน ก.ย.ขยายตัว 2.4%YoY มากกว่าตลาดคาด 2.3%YoY ขณะที่การรายงาน Initial Jobless Claim เพิ่มขึ้น 2.58 แสนตำแหน่งอ่อนแอกว่าตลาดคาดเพิ่มขึ้น 2.3 แสนตำแหน่ง สถานการณ์ที่เงินเฟ้อเริ่มลงช้า แต่ตัวเลขแรงงานก็เปราะบาง ทำให้ตลาดยังเชื่อว่า FED ลดดอกเบี้ยปีนี้ 50 bps โดยเป็นการปรับลดในเดือน พ.ย. 25 bps ไม่ต่างจากเดิมทำให้สินทรัพย์ต่างๆแกว่งทรงตัวและเชื่อว่าไม่สร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้นไทยในวันนี้
วานนี้ PBOC ประกาศทำ Swap Facility Line วงเงิน 5 แสนล้านหยวน ที่ บริษัทเข้าข่าย เช่น บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทประกัน สามารถนำตราสารหนี้ ETF และหุ้นใน CSI300 มาวางเป็นหลักประกันเพื่อแลกเงินที่จะลงทุนในตลาดหุ้นวงเงิน 5 แสนล้านหยวนคิดเป็น 1% ของ Market Cap ดัชนี SHCOMP ใกล้เคียงกับสัดส่วนของกองทุนวายุภักษ์กับ SET Index ที่ 0.8% ประเมินน่าจะเป็นปัจจัยที่ช่วยจำกัด Downside ของตลาดหุ้นจีน มองบวกต่อตลาดหุ้นภูมิภาคในเชิง Sentiment ส่วนประเด็นที่ติดตามต่อ คือการประกาศมาตรการกระตุ้นทางคลังในวัน 12 ต.ค. โดยหุ้นที่เก็งกำไร ยังน่าจะเป็นกลุ่ม Global Play PTTGC IVL และ CPF
ด้านความตึงเครียดตะวันออกกลาง ล่าสุดกระทรวงกลาโหมอิสราเอลเผยการตอบโต้อิหร่านจะรุนแรงและคาดใม่ถึง ซึ่งหนุนราคาน้ำมันดิบวานนี้ปรับขึ้นกว่า 3% หนุน PTTEP แต่เรายังคงมุมมองเดิมว่าความขัดแย้งจะใม่ได้ขยายวงไปทั่วภูมิภาค ทำให้ตลาดหุ้นจะยังอยู่ในภาวะ Risk On ต่อไป
Market Summary
SET Index ปรับขึ้นแรงกว่า 10 จุด แรงหนุนหลักมาจากกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์จาก DELTA +5% จาก TSMC รายงานยอดขาย 3Q67 ดีกว่าคาด และ CCET +15% เผยยอดคำสั่งซื้อเดือน ก.ย. โตเด่น +23%YoY และ 47%MoM กลุ่มโรงไฟฟ้าบวกต่อ GPSC +2% CKP +4.7% ด้าน GULF +1.6% และส่งดีต่อ INTUCH +1% ADVANC +0.7% ส่วนกลุ่ม Underperform SCGP -1.4% จากงบ 3Q67 อ่อนแอ เชื่อมโยงมา SCC -0.8%
ATO Daily Stock Picks
แนะนำ CPF TRUE
TRUE กำไรดูมี Upside
ต่อประมาณการ Consensus
เราคาดกำไร 3Q67E เติบโต +13% QoQ มาจากการลดค่าใช้จ่าย เช่น การรื้อถอนเสาโทรคมนาคมและการลดร้านค้า และ Turnaround จากขาดทุนเมื่อเทียบ 3Q66
เมื่อเทียบกับกำไรปกติปี 67/68 ของเราสูงกว่า BB Consensus 50%/46% โดยคาดกำไรรายไตรมาสจะเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่องจนถึง 3Q68 เป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนราคา
สำหรับการประมูลคลื่นใบอนุญาต 850 MHz 2100 MHz และ 2300 MHz ใน 1Q68 เราเชื่อว่า NT จะไม่เข้าร่วมประมูลทำให้การแข่งขันลดลงเหลือ TRUE กับ ADVANC เราคาดว่า TRUE จะประมูลเฉพาะคลื่น 2300 MHz เท่านั้น (จากปัจจุบันมีคลื่น2300 MHz และ 850 MHz) ดีต่อการประหยัดต้นทุน 3,900 ล้านบาทต่อปีสำหรับ 2300MHz และ 2,000 ล้านบาทต่อปีสำหรับ 850 MHz หนุนกำไรหลัก 68/69 เติบโต 96.5/17.2%
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 12.80 บาท
CPF กำไร 3Q67 เติบโตดี
ลุ้นจีนออกมาตรการกระตุ้นหนุนราคา
คาดกำไร 3Q67E จะเติบโตเล็กน้อย QoQ เนื่องจาก 2Q67 ที่ฐานสูง ขณะที่ YoY จะ Turnaround ทั้งนี้ใน 3Q67 เป็นช่วง Peak Season และได้ผลบวกจากราคาหมูไทยและจีนที่ปรับขึ้น (ส่วนราคาหมูเวียดนามอ่อนตัวลงบ้างจาก ASF แต่ยังยืนสูง YoY) ขณะที่ต้นทุนอาหารสัตว์ยังอยู่ในระดับต่ำ สำหรับกำไร 4Q67 คาดขยายตัว YoY ได้ต่อ หนุนกำไรปกติ 67E กลับมาแตะ 1 หมื่นล้านบาท พลิกจากขาดทุนปีก่อน -5.2 พันล้านบาท
ระยะสั้นเราคาดได้ Sentiment บวกจากเงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่า และยังได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนที่คาดจะช่วยต่อภาคการบริโภค นอกจากนี้วันนี้ติดตามรัฐบาลจีนเตรียมออกมาแถลงมาตรการเพิ่มเติม โดยจีนธุรกิจหลักของ CPF คือธุรกิจหมูที่ลงทุนผ่าน CTI
ราคาปัจจุบันซื้อขายบน PER67 ที่ 20.8 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี -0.24 S.D. และ PBV67 ต่ำเพียง 0.8 เท่า
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 28.10 บาท
KEY FACTOR
เงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน ก.ย. สูงกว่าที่คาด 1) CPI ปรับตัวขึ้น +2.4% YoY และ +0.2% MoM (Consensus คาด +2.3% YoY และ +0.1% MoM) 2) Core CPI +3.3 YoY และ +0.3% MoM (Consensus คาด +3.2% YoY และ +0.2% MoM) เป็นผลมาจากเงินเฟ้อภาคบริการที่ยังสูง
ตลาดการเงินโลกตอบรับเป็นลบเล็กน้อย 1) หุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงในช่วง -0.05% ถึง -0.21% 2) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ทรงตัวบริเวณ 4.65% 3) Dollar index แกว่งในกรอบแคบๆบริเวณ 102.9 4) มุมมองตลาดเพิ่มโอกาสที่ Fed จะคงดอกเบี้ยในการประชุม 7 พ.ย. เป็น 17% หรือ หากประเมินค่าเฉลี่ยจำนวนครั้งการลดดอกเบี้ยในปีนี้ พบว่าลดลงเหลือ 1.8 ครั้ง ซึ่งเป็นการปรับตัวลงต่ำกว่า 2 ครั้ง (มุมมองของ Dot Plot) เป็นครั้งแรก หลังการประชุมครั้งล่าสุด เมื่อ 17-18 ก.ย. ที่ผ่านมา
EYES ON
11 ต.ค. PPI เดือน ก.ย. ของสหรัฐฯ
นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ