Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.เอเซีย พลัส : Market Talk

393

 

ค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ
ประเมินว่าเหตุปัจจัยที่ทำให้FUND FLOW ไหลออกต่อเนื่องในช่วง 11 วันทำการที่ผ่านมาน่าจะกำลังเข้าใกล้จุดอิ่มตัว เริ่มจากมุมมองทิศทางการปรับลดดอกเบี้ยของFED ในการประชุม 7 พ.ย.67 ล่าสุด FED MINIUTEก็ส่งสัญญาณชัดเจนว่าน่าจะปรับลดในอัตรา 0.25% ตามปกติ (ก่อนหน้าที่คาดลง 0.5%) ซึ่งช่วงการเปลี่ยนมุมมองดังกล่าว DOLLARINDEX ได้แข็งค่าขึ้นจากบริเวณ 100 มาสู่ปัจจุบันที่ 102.88 คิดว่าน่าจะดูดซับความคาดหวังดังกล่าวไปแล้ว จึงเป็นไปได้ที่FUND FLOW จะหยุดไหลออกจากบ้านเราหรืออาจเริ่มกลับมา อีกเรื่องหนึ่งคือตลาดหุ้นจีนการที่ราคาหุ้นปรับขึ้นไปแรงก่อนหน้านี้ ขณะที่ทางการไม่ได้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม จึงเป็นไปได้ว่า FUND FLOW อาจถูกเกลี่ยไปที่ตลาดอื่นรวมถึงเรา ภาพรวมเชื่อว่า SET INDEX น่าจะดีขึ้นตามลำดับประเมินจากปัจจัยแวดล้อมทางพื้นฐานเชื่อว่า SET INDEX น่าจะกำลังผ่านช่วงการพักฐาน และค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ วันนี้คาดกรอบ 1450 –1467 จุด หุ้น TOP PICK เลือก BDMS, CPALLและ ERW

ทิศทางดอกเบี้ยปรับสมดุล หนุนเม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยง
วานนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นราว 0.3% - 1% โดยดัชนีDOW JONES ใกล้ขึ้นกลับไปทำ ALL TIME HIGH อีกครั้ง สะท้อนเม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยง จากแรงหนุนทิศทางดอกเบี้ยขาลง ท่ามกลางเงินเฟ้อมีแนวโน้มชะลอตัวลงสู่กรอบเป้าหมาย2% บวกกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังดูดี และตลาดแรงงานไม่ได้อ่อนแอลงอย่างรวดเร็ว


ขณะที่รายงาน FOMC FED MINUTE เผยว่าเจ้าหน้าที่FED หลายรายสนับสนุนการลดดอกบี้ยแค่0.25% ในการประชุมรอบ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา เนื่องจากยังมีความกังวลเรื่องเงินเฟ้อและภาพเศรษฐกิจยังเติบโตได้ ทำให้ระยะถัดไป อาจเห็นการปรับลดดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไปแทนโดย DOT PLOT ประเมินดอกเบี้ยสหรัฐฯ ปลายปี 2567 จะอยู่ที่ 4.5% ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจของ FED WATCH TOOL ที่คาดว่า FED จะลดดอกเบี้ยอีกครั้งละ0.25% ในการประชุมอีก 2 รอบที่เหลือของปีนี้(เดิมคาดลดดอกเบี้ย -0.5% ใน พ.ย.และ -0.25% ใน ธ.ค.) สะท้อนการลดดอกเบี้ยที่ไม่รุนแรง มีมุมมองเป็นไปในทิศทาง
เดียวกันมากขึ้น หนุน DOLLAR ชะลอการแข็งค่า ขณะที่ BOND YIELD พลิกดีดตัว


ส่วนคืนนี้รอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ก.ย.67 โดย CONSENSUS คาดว่าจะปรับตัวลดลงเหลือ +2.3%YOY ซึ่งเชื่อว่าจะสอดคล้องกับราคาน้ำมันที่ชะลอตัวลง

 

สรุป การปรับสมดุลเรื่องทิศทางดอกเบี้ยมีความชัดเจนขึ้น ระว่างคาดการณ์ของDOT PLOT และตลาดการเงิน โดยมองว่า FED จะปรับลดดอกเบี้ยอีก -0.5% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ (เดิมตลาดฯ คาด -0.75%) หนุน DOLLAR ชะลอการแข็งค่า และBOND YIELD พลิกดีดตัว ขณะที่เม็ดเงินมีแนวโน้มไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยง จากความคาดหวังสหรัฐฯ SOFT LANDINGจีนเตรียมอัดมาตรการกระตุ้นต่อเนื่อง ดีต่อเศรษฐกิจไทยที่อิงภาคท่องเที่ยว

หลังจากที่รัฐบาลจีนประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ตลอดช่วงปลายเดือน ก.ย.67 โดยเน้นใช้นโยบายการเงินผ่อนคลาย เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับธ.พ. และเร่งแก้ปัญหาภาคอสังหาฯ รวมทั้งใช้นโยบายการคลังแจกเงินให้กับผู้ยากไร้กระตุ้นการบริโภค ซึ่งล่าสุด รัฐบาลจีนเตรียมจัดแถลงข่าวเกี่ยวกับนโยบายการคลังเพิ่มเติมในวันเสาร์นี้ (12 ต.ค.67)

ซึ่งน่าจะหนุนให้ GDP GROWTH รายไตรมาสของจีนเติบโตได้เกิน 5%YOY และทำให้ประมาณการ GDP ปีนี้โตแตะระดับ +5%YOY ดังที่รัฐบาลจีนหวังไว้ได้ไม่ยาก ประเด็นดังกล่าวหนุนให้ตลาดหุ้นจีนทั้ง CSI300 และ HANG SENG ปรับตัวขึ้นแรงในช่วงเวลานั้น และกดดันตลาดหุ้นประเทศอื่นในเอเชียช่วงสั้น

อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจไทยยังได้ประโยชน์จากประเด็นดังกล่าว เนื่องด้วยภาคการท่องเที่ยวไทย มีสัดส่วนนักท่องเที่ยวจีนสูงเป็นอันดับ 1 (อิงปี 2023) ราว 3.5 ล้านคนหรือ 13% จากจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด โดยทาง สทท. คาดจำนวนนักท่องเที่ยวในปีนี้ 36.3 ล้านคน(3Q67 8.6 ล้านคน/ 4Q67 9.4 ล้านคน) เติบโต 29%YOY อีกทั้งได้ขอเสนอให้รัฐบาลจัดทำโครงการ “เที่ยวคนละครึ่ง” ในทันที โดยไม่ต้องรอปี2568โดยเสนอให้สนับสนุนเงินให้นักท่องเที่ยวคนละ 2,000 บาทต่อวัน ประมาณคนละ 3-4คืน ซึ่งรัฐบาลใช้เงินสนับสนุนไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ปรเด็นดังกล่าวน่าจะสร้างSENTIMENT เชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มการบิน-โรงแรม อาทิ AOT AAV CENTEL ERWMINT


สรุป เศรษฐกิจจีนดูดีขึ้นหลังรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นมากมาย หนุน FLOW ไหลออกจากประเทศอื่นในเอเชียช่วงสั้น สังเกตได้จาก FUND FLOW ต่างชาติ และค่าเงินของแต่ละประเทศ อย่างไรก็ตามไทยน่าจะได้รับ SENTIMENT เชิงบวกมากกว่า เนื่องด้วยภาคการท่องเที่ยวไทย มีสัดส่วนนักท่องเที่ยวจีนสูงเป็นอันดับ 1 ขณะที่ สทท. ชงรัฐงัด‘เที่ยวคนละครึ่ง’ ฟื้นทันที ดีต่อหุ้นกลุ่มการบิน-โรงแรม อาทิ AOT AAVCENTEL ERW MINT

แนวโน้มกำไร 3Q67 ดูดี คอยหนุน SET INDEX อีกแรง
ใกล้เข้าสู่ฤดูกาลรายงานงบ 3Q67 โดยเริ่มรายงานบริษัทแรก TISCO ณ วันอังคารหน้าที่ 15 ต.ค. 67
ดังนั้นฝ่ายวิจัยฯ ทำการรวบรวมข้อมูลจาก BLOOMBERG CONSENSUS ณ 9ต.ค. 67 มีการทำ EARNING PREVIEW 113 บริษัท (คิดเป็นสัดส่วน MARKET CAP74%) พบว่า กำไร 3Q67 มีโอกาสเติบโต 4%QOQ และลดลงเล็กน้อย -3.8%YOYเปรียบเทียบได้กับกำไร 3Q67 บริเวณ 2.6 –2.8 แสนล้านบาท


นอกจากนี้ฝ่ายวิจัยฯ ยังคัดกรอง 20 หุ้นที่มีโอกาสกำไรเติบโตทั้ง QOQ และ YOYในช่วงไตรมาสที่ 3 คือ IVL, CKP, TASCO, BGRIM, BCH, AMATA, CK, TTW,GPSC, PR9, BDMS, CENTEL, SPALI, BH, TU, CBG, MTC, SCCC, SCB,BEM เป็นต้น

สรุป แนวโน้มกำไร 3Q67 ดูดี น่าจะเป็นอีกแรงคอยหนุน SET INDEX อีกทั้งฐานกำไร4Q66 ที่ต่ำเพียง 1.73 แสนล้านบาท ยังเป็นตัวช่วยเร่งให้เห็นแนวโน้มกำไร 4Q67เติบโตเด่นต่อเนื่อง โดยในรายชื่อหุ้นแนวโน้มกำไร 3Q67 เด่น ชื่นชอบ TASCO, CK,GPSC, BDMS, CENTEL, CBG, MTC, BEM

 

Research Division
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส

ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้