สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(27 กันยายน 2567)----นายพร้อมพงษ์ ชัยศรีสวัสดิ์สุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พริมา มารีน จํากัด (มหาชน) PRM เปิดเผยว่าด้วยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท พริมา มารีน จํากัด (มหาชน) (“บริษัท”) ครั้งที่10/2567 ประชุมเมื่อวันที่26 กันยายน 2567 มีมติในเรื่องที่สําคัญสรุปได้ดังนี้
1. อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สําหรับผลการประกอบการจากงบเฉพาะกิจการ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน2567 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.24 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 558.51 ล้านบาท โดยบริษัทกําหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการรับเงินปันผล (Record Date) ในวันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม 2567 และกําหนดจ่ายเงินปันผลในวันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม 2567 ทั้งนี้ บริษัทมีหุ้นที่บริษัทซื้อคืนจากโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงินจํานวน 172,889,300 หุ้น ซึ่งจะไม่ได้รับเงินปันผล
2. อนุมัติให้บริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.99 ของจํานวนหุ้นที่ออกจําหน่ายทั้งหมด ลงทุนต่อเรือบรรทุกนํ้ามัน (Oil Tanker)ใหม่ จํานวน 6 ลํา ระวางบรรทุก 2,499 เดทเวทตัน/ลํา เพื่อทดแทนเรือที่มีอายุมากที่มีต้นทุนในการบํารุงรักษาสูง โดยมีมูลค่าลงทุนรวม45,584,688 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,595.46 ล้านบาท (คํานวณจากอัตราแลกเปลี่ยน 35 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ) ขนาดของรายการประมาณร้อยละ 7.30 ของสินทรัพย์รวมของบริษัทตามงบการเงินรวม ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567
ทั้งนี้ บริษัทย่อยจะลงนามในสัญญาจ้างต่อเรือบรรทุกนํ้ามัน (Oil Tanker) จํานวน 6 ลํา กับคู่สัญญาภายในไตรมาส 1 ปี2568 ซึ่งคาดว่าจะได้รับมอบเรือแต่ละลําภายใน 18 เดือน หลังจากดําเนินการลงนามในสัญญาจ้าง
ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดกับบริษัทจดทะเบียน
- สําหรับการต่อเรือใหม่ของบริษัทย่อยช่วยให้กลุ่มบริษัทจะรักษาความได้เปรียบเทียบในการแข่งขันให้เหนือกว่าผู้ให้บริการรายอื่น โดยเน้นการใช้เรือที่มีคุณภาพดี มีความปลอดภัยสูง และมีอายุน้อย
- การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่จะช่วยลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดําเนินงานของบริษัท
สำหรับแหล่งเงินทุน บริษัทหรือบริษัทย่อยจะใช้เงินทุนหมุนเวียนของบริษัทหรือบริษัทย่อย ร่วมกับเงินที่ได้จากการกู้ยืมจากสถาบันการเงินบางส่วน ซึ่งปัจจุบันบริษัทอยู่ในระหว่างการพิจารณาจํานวนเงินกู้และระยะเวลาในการเข้าทําสัญญาเงินกู้ โดยคณะกรรมการบริษัทเห็นควรอนุมัติให้บริษัทหรือบริษัทย่อยจัดสรรแหล่งเงินทุนของการต่อเรือใหม่ โดยใช้สัดส่วนเงินที่กู้ยืมจากสถาบันการเงินไม่เกิน ร้อยละ 80 ของมูลค่าการลงทุน
การเข้าทํารายการดังกล่าวเข้าข่ายรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ตามประกาศคณะกรรมการกํากับตลาดทุน ที่ ทจ. 20/2551 เรื่อง หลักเกณฑ์ในการทํารายการที่มีนัยสําคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจําหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องการเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจําหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ พ.ศ.2547 (“ประกาศได้มาหรือจําหน่ายไปฯ”)โดยมีขนาดรายการสูงสุดเท่ากับร้อยละ 7.30 ตามเกณฑ์มูลค่ารวมของสิ่งตอบแทน ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่คํานวณขนาดรายการจากงบการเงินรวมของบริษัท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567
ทั้งนี้เมื่อพิจารณารายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ระยะเวลา 6เดือนที่ผ่านมา ก่อนวันที่มีการตกลงเข้าทํารายการในครั้งนี้ ซึ่งมีขนาดรายการรวมเท่ากับร้อยละ 12.37 และเมื่อนับรวมกับขนาดรายการในครั้งนี้จะเท่ากับร้อยละ 19.67 จึงเข้าข่ายเป็นรายการประเภทที่ 2 ตามประกาศการได้มาหรือจําหน่ายไปฯ กล่าวคือ เป็นรายการที่มีมูลค่าเท่ากับหรือสูงกว่าร้อยละ 15 แต่ตํ่ากว่าร้อยละ 50 ดังนั้น บริษัทมีหน้าที่จะต้องจัดทํารายงานและเปิดเผยรายการต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและจัดส่งหนังสือแจ้งผู้ถือหุ้นภายใน 21 วันนับแต่วันที่เปิดเผยรายการต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
______________________________________________________________________
การจ่ายปันผล / การงดจ่ายปันผล
เรื่อง : จ่ายปันผลเป็นเงินสด
วันที่คณะกรรมการมีมติ : 26 ก.ย. 2567
ชนิดการปันผล : จ่ายปันผลเป็นเงินสด
วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) : 10 ต.ค. 2567
วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) : 09 ต.ค. 2567
จ่ายให้กับ : ผู้ถือหุ้นสามัญ
อัตราการจ่ายปันผลเป็นเงินสด (บาทต่อหุ้น) : 0.24
มูลค่าที่ตราไว้ (Par)(บาท) : 1.00
วันที่จ่ายปันผล : 25 ต.ค. 2567
จ่ายปันผลจาก :
งวดดำเนินงานวันที่ 01 ม.ค. 2567 ถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2567 และกำไรสะสม
หมายเหตุ :
งวดดำเนินงานวันที่ 01 ม.ค. 2567 ถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2567 และกำไรสะสม
______________________________________________________________________
รายการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์
การได้มาซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทย่อยเกี่ยวกับการลงทุนต่อเรือใหม่
______________________________________________________________________