AT THE OPEN (#ATO)

SET Index ยังน่าจะ Outperform ตลาดหุ้นโลกต่อ
หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว

Market Strategy
คาด SET Index แกว่งตามกรอบ 1420-1440 จุด ปัจจัยภายนอกยังกดดันจากความกังวลของเศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอตัว แต่ปัจจัยภายในยังเป็นบวกจากความชัดเจนของมาตรการกระตุ้นภาครัฐฯที่เตรียมทยอยออกมา ความคืบหน้าของกองทุนวายุภักษ์ที่เตรียมเปิดขายในช่วงกลางเดือน ก.ย. และเม็ดเงินที่คาดจะเริ่มเข้าใน ต.ค. เป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นบ้านเรา Outperform ตลาดหุ้นต่างประเทศ กลยุทธ์วันนี้เลือกหุ้น AWC BCP

การรายตัวเลขภาคแรงงานผสมผสาน โดยการจ้างงานนอกภาคการเกษตรสหรัฐฯเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 1.42 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่าคาด 1.65 แสนตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงาน 4.2% ตามตลาดคาด ทำให้ตลาดยังกังวลต่อเศรษฐกิจชะลอตัว ด้านมุมมองตลาดต่อดอกเบี้ยสหรัฐฯผ่าน FEDWATCH Tool คาดดอกเบี้ยปลายปี 67 จะอยู่ที่ 4.25% จากเดิม 4.5% โดยการปรับลดดอกเบี้ยเดือน ก.ย.คาดจะปรับลง 0.25% มาที่ 5.25% ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับลงช่วง -1% ถึง -2.6% เป็น Sentiment ลบต่อหุ้นกลุ่มอิเล็คฯ แต่มองเป็นบวกต่อกลุ่ม Yield Play และโรงไฟฟ้า

มาตรการกระตุ้นภาครัฐฯน่าจะเริ่มทยอยออกมาหลังจากรัฐบาลเตรียมแถลงนโยบายต่อรัฐสภาวันที่ 12 ก.ย. โดยมาตรการเร่งด่วนที่เราเชื่อว่าจะเห็นออกมาก่อน จะเป็นมาตรการกระตุ้นภาคบริโภค เช่น โครงการ Digital Wallet ที่แจกกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการ ซึ่งมองเป็นบวกต่อกลุ่มDomestic Consumption อย่างค้าปลีก,อาหารและไฟแนนซ์ ด้านความคืบหน้าของกองทุนวายุภักษ์ที่เผยหนังสือชี้ชวน โดยกำหนดผลตอบแทนขั้นต่ำ 3% และขั้นสูง 9% และมีกลไก Waterfall ช่วยคุ้มครองเงินต้น โดยจะเริ่มเปิดขายตั้งแต่ 16 ก.ย.วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท เรามองเป็นบวกต่อทิศทาง Flow ที่เตรียมหนุนตลาดหุ้นในเดือน ต.ค. ต่อไป โดยหุ้นที่ได้ประโยชน๋และราคายัง Laggard BCP CPN HMPRO และ BBL

Market Summary
SET Index ปรับขึ้นต่อ 1.66% ด้วยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 1.08 แสนล้านบาทมากที่สุดรอบปี จากนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1.08 หมื่นล้านบาท หนุนหุ้นกลุ่ม Market Cap ขนาดใหญ่ อย่างกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้น 4.8% กลุ่มอสังหาฯ CPN +8.6% กลุ่มค้าปลีก HMPRO +9.7% CRC 7.3% ส่วนกุล่มที่ Underperform ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่ม Global Play DELTA -5.6% HANA -4% CPF -2%

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ AWC BCP

BCP กำไรปีหน้าโตแรง
ผสานได้ประโยชน์จากเม็ดเงินวายุภักษ์
ธุรกิจเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน (SAF) จะสร้างกำไรให้กับ BCP ประมาณ 2.6-4.1 พันลบ. ต่อปี หรือคิดเป็น 20-30% ของกำไรหลักในปี 2568-2570 จากที่แต่ละประเทศผลักดันการใช้ SAF ในการลดการปล่อยคาร์บอนจะทำให้ความต้องการ SAF เพิ่มขึ้น 1.9 พันล้านลิตรในปี 67 เทียบกับ 0.6 พันล้านล้านลิตรในปี 66 หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นสามเท่าตัวหนุนกำไรปกติปี 68 เติบโต 48.6%YoY
กำไร 2H67 คาดว่าฟื้นตัวตาม GRM ที่ปรับตัวดีขึ้นตามผลของฤดูกาล ขณะที่ราคา Crude Premium ลดลงจะช่วยหนุนต่ออัตราทำกำไรดีขึ้น
Valuation ที่ถูกอย่างมากบน PER68F ต่ำเพียง 5.9 เท่า เงินปันผลสูงระดับ 5-8 % ต่อปี และคาดว่า BCP จะได้หนุนจากเม็ดเงินของกองทุนวายุภักษ์ใหม่ราว 8.6 พันล้านบาท หนุนราคาหุ้นต่อไป
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 62.00 บาท

AWC ธุรกิจท่องเที่ยวของไทยที่มีศักยภาพ
ในการทำกำไรสูง
เราเริ่มต้นการวิเคราะห์ AWC อีกครั้งด้วยคำแนะนำ ซื้อ และราคาเป้าหมายที่ 4.20 บาท คาด AWC จะมีอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปีของกำไรหลักในปีงบ 2567-70 ที่ 21% CAGR ซึ่งคาดจะสูงที่สุดในภาคธุรกิจโรงแรม
ปัจจัยหนุนการเติบโตจากจำนวนห้องพักโรงแรมในปี 75 ที่เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากปี66 นอกจากนี้ AWC เป็นเจ้าของสินทรัพย์แบบกรรมสิทธิ์ มีรายได้จากกลุ่มไมซ์ (MICE) ที่สูงกว่า และมีการประหยัดต่อขนาดที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้จะได้ประโยชน์จากแผนการพัฒนาสถานบันเทิงครบวงจรของรัฐบาลในแหล่งท่องเที่ยวหลัก ในจุดท่องเที่ยวสำคัญ เช่น เชียงใหม่และพัทยา คาดว่าจะทำให้ RevPAR ของ AWCเพิ่มขึ้นเมื่อโครงการบันเทิงขนาดใหญ่เหล่านี้เสร็จสิ้น
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 4.20 บาท

KEY FACTOR
ปัจจัยภายในประเทศในระยะสั้น ยังคาดว่าจะมีแรงหนุนจากความคาดหวังก่อนการแถลงนโยบาย 12 ก.ย. ซึ่งทยอยมีรายละเอียดที่ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ หนุนกระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้ามาต่อเนื่อง +1.07 หมื่นล้านบาท สะสม MTD +1.55 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตามตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐฯ ที่รายงานปลายสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงสะท้อนภาพเชิงลบต่อเศรษฐกิจ 1) การจ้างงานนอกภาคเกษตร +1.42 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่าที่ Consensus คาดไว้+1.65 แสนตำแหน่ง 2) อัตราการว่างงานอยู่ที่ระดับ 4.2% เป็นไปตามที่ Consensus คาด
สัปดาห์นี้ตลาดน่าจะให้น้ำหนักมากขึ้นต่อตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน ส.ค. ในวันที่ 11 ก.ย. ซึ่งถือเป็นชุดข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญชุดสุดท้ายก่อนที่จะเข้าสู่การประชุม FOMC ครั้งสำคัญ 18 ก.ย. ซึ่งจากข้อมูลล่าสุด Fed Watch Tool ให้น้ำหนัก 63% และ 37% ที่ Fed จะลดดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรก 0.25% และ 0.5% ตามลำดับ

Eyes On
9 ก.ย. CPI และ PPI จีน เดือน ส.ค.
10 ก.ย. ส่งออกและนำเข้า ของจีนเดือน ส.ค.
11 ก.ย. CPI สหรัฐฯ เดือน ส.ค.
12 ก.ย. PPI สหรัฐฯ เดือน ส.ค., ประชุม ECB

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ