Company Note
Neo Corporate
กำไรสุทธิต่ำกว่าคาดเล็กน้อยเพราะรายได้ยังเติบโตต่ำกว่าเป้า
NEO รายงานกำไรสุทธิ 269 ล้านบาท (+73% YoY, Flat QoQ) ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาดราว 4% หลักๆจากรายได้ที่เติบโตต่ำกว่าที่คาด แต่ได้อัตรากำไรขั้นต้นที่ดีกว่าคาดรวมถึงรายได้อื่นที่เพิ่มขึ้นจากดอกเบี้ยรับช่วยชดเชย รายได้ยังเติบโตได้ดีจากในประเทศเป็นหลัก ในขณะที่ยอดขายกลุ่ม Household ยังไม่เติบโตจากการแข่งขันที่สูงในสินค้าน้ำยาปรับผ้านุ่ม ทำให้การเติบในต่างประเทศยังไม่ตื่นเต้น เบื้องต้นประเมินผลประกอบการ 3Q24F ชะลอตัวลง YoY จากฐานสูงขณะที่ผลประกอบการ 1H24 คิดเป็น 50% ของประมาณการ เราจึงคงประมาณการกำไรสุทธิที่ 1,081 ล้านบาท (+30% YoY) และคงคำแนะนำ “ซื้อ” คาดหวังการเติบโตในต่างประเทศที่จะกลับมาในช่วง 2H24 จากลูกค้าใหม่ๆ 4 ประเทศในกลุ่มประเทศตะวันออกกลางและการเจรจาเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ของกลุ่มสินค้า Household
GPM แข็งแกร่งกว่าคาดจาก Product mix ช่วยชดเชยรายได้ที่เติบโตต่ำกว่าคาด
รายได้รวมเติบโต 8.7% (vs. 11.1% TISCOe) เป็น 2,494 ล้านบาทหลักๆจากกลุ่ม Personal Care และ Baby&Kids ที่เพิ่มขึ้น 18% YoY และ 13% YoY เป็น 643 ล้านบาทและ 847 ล้านบาทตามลำดับ จากการปรับปรุงสินค้าเดิมรวมถึงพัฒณาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆโดยเฉพาะ D-nee Deluxe เจาะกลุ่ม Silver age ซึ่งเป็นฐานลูกค้าใหม่ ในขณะที่ยอดขายกลุ่ม Household ซึ่งมีสัดส่วนสูงสุดคิดเป็น 40% ของรายได้ทำได้เพียงทรงตัว YoY ซึ่งเป็นผลของการแข่งขันที่รุนแรงในกลุ่มน้ำยาปรับผ้านุ่ม ขณะที่ยอดส่งออกยังชะลอตัว 9% YoY เหลือ 288 ล้านบาท (รูปที่ 2) ส่วน GPM ทำได้ดีกว่าคาดที่ 46.8% (vs. 45.8% TISCOe) เพิ่มขึ้นจาก 42.5% ใน 2Q23 เพราะราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวลดลงรวมถึงสัดส่วนรายได้จาก Baby&Kids ที่สูงขึ้น ด้านสัดส่วน SG&A to sales ลดลงเล็กน้อยเป็น 33.2% จาก 33.7%
ประเมินมูลค่า
เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยมูลค่าเหมาะสมใหม่กลางปี 2025F ที่ 64.75 บาท บน EPS โดยใช้ P/E ที่ 17.4x ความเสี่ยงได้แก่ การแข่งขันด้านราคารุนแรง, สินค้าบางส่วนถูกควบคุมด้านราคา, ต้นทุนมีความผันผวนสูงและความสำเร็จของการออกผลิตภัณฑ์ใหม่