Company Note
Food Moments
กำไรสุทธิ 2Q24 เติบโตแข็งแกร่ง จากการขายธุรกิจการส่งออกไก่แปรรูปปรุงสุก
FM ประกาศกำไรสุทธิ 2Q24 ที่ 240 ล้านบาท (+168% YoY, 97% QoQ) ดีกว่าที่เราและตลาดคาด 11% จากอัตราทำกำไรและค่าใช้จ่ายที่ดีกว่าที่เราคาดไว้ โดยรายได้รวมเติบโต 27% YoY และ 9% QoQ มาจากธุรกิจไก่ส่งออกแปรรูปและธุรกิจไก่ชำแหละที่เพิ่มขึ้น ทั้งยุโรป ญี่ปุ่น และจีน รวมถึงประเทศอื่นๆที่บริษัทส่งออกมากกว่า 10 ประเทศ สัดส่วนรายได้ธุรกิจไก่แปรรูปปรุงสุกเพิ่มขึ้นคาดที่ 39% จาก 36% YoY และ 31% QoQ
อัตรามาร์จิ้นเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 17.3% จาก 11.3%YoY และ 11.9% QoQ จากสัดส่วนธุรกิจไก่แปรรูปที่เพิ่มขึ้นซึ่งมีอัตรามาร์จิ้นมากกว่าไก่สดชำแหละ 3 เท่า สำหรับค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอยู่ที่ 4.2% ทรงตัว YoY แต่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย QoQ จากค่าขนส่งทางเรือในการส่งออกที่เพิ่มขึ้น (บริษัทขายสินค้าเป็น CIF กับ FOB 50:50, ค่าขนส่งคิดเป็น 2.2% ของรายได้รวม หรือ 4.4% ของรายได้ส่งออก) ส่งผลให้อัตราทำกำไรสุทธิอยู่ที่ 12.7% เพิ่มขึ้นจาก 6% YoY และ 7% QoQ
กำไรสุทธิ 1H24 เติบโต 123% YoY คิดเป็น 66% ของกำไรทั้งปี ดีกว่าที่เราคาดไว้ ประมาณการเดิมเราคาดกำไรสุทธิปี 2024F เพิ่มขึ้น 115%YoY และเติบโตต่อเนื่องในปี 2025-26F ที่เฉลี่ย 20% (CAGR2y) จากการขยายกำลังการผลิตธุรกิจไก่แปรรูปปรุงสุกเพิ่มขึ้น 30% ในปี 2026F และขยายไก่สดชำแหละเพิ่มขึ้น 25% ในปี 2026F รองรับการส่งออกเติบโต บริษัทมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง มี D/E ที่ต่ำ และมี ROE ที่สูงมีผลการดำเนินงานที่ทำกำไรต่อเนื่อง
แนวโน้มผลประกอบการ FM เติบโต จากการมุ่งเน้นนวัตกรรมแปรรูปไก่รองรับกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์
เราคาดผลประกอบการ FM จะเติบโตอย่างยั่งยืน จากปัจจัยบวก 1) ภาพรวมอุตสาหกรรมไก่ยังเป็นอันดับ 1 ในการบริโภคมากที่สุด และประเทศไทยติดในกลุ่ม 5 อันดับแรกในการส่งออกของโลก
2) ประเทศไทยเป็นผู้นำอันดับ 1 ในการผู้ส่งออกไก่แปรรูปปรุงสุก (CAV Products) สอดคล้องกับที่บริษัทมุ่งเน้นธุรกิจกลุ่มนี้ 3) แนวโน้มอุตสาหกรรมไก่ไทยเป็นช่วงขาขึ้น 4) บริษัทมีแผนขยายกำลังการผลิตไก่แปรรูป (CAV Products) มุ่งเน้นสินค้าที่มีอัตราทำกำไรสูงสร้างกำไรเติบโตอย่างยั่งยืน
5) ขยายตลาดส่งออกกลุ่มประเทศใหม่ๆ และยังคงรักษาลูกค้าระดับไฮเอนด์พรีเมี่ยมไว้ 6) พัฒนาออกสินค้าใหม่ปลายน้ำ (downstream) อย่างต่อเนื่อง และ 7) ขยายกำลังการผลิตไก่ชำแหละ เพิ่มประสิทธิภาพห่วงโซ่อุปทาน (supply chain optimization) เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 8.3 บาท อ้างอิง PER ที่ 15x สำหรับราคาหุ้นที่ปิดวานนี้เรามองเป็นโอกาสสะสม จากราคาที่ต่ำ คิดเป็น PER24F ที่ 8.1x ค่อนข้างต่ำ เทียบกับ PER24F ของตลาดกลุ่มนี้ที่ 11X, Dividend yield 4.9% และบริษัทมีฐานะการเงินแข็งแกร่งเป็นเงินสดสุทธิ