Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) : KKP แนะนำ ถือ ราคาพื้นฐาน ที่ 45.00 บ.

738


Kiatnakin Phatra Bank (KKP TB)
การฟื้นตัวต้องใช้เวลา

ลดคำแนะนำเป็น “ถือ” ลดราคาเป้าหมายลง 22% เหลือ 45 บาท
เราปรับลดคำแนะนำจาก “ซื้อ” เป็น “ถือ” และลดราคาเป้าหมายเหลือ 45 บาท (อิง P/BV ปี 67 ที่ 0.6 เท่า ROE 8.7%) จาก 58 บาท หลังจากปรับลดประมาณการกำไรปี 67- 68 ลง 28% เพื่อสะท้อนถึงผลประกอบการ 2Q67 ที่อ่อนแอและการปรับเป้าหมายทางการเงินปี 67 ใหม่ แม้เราคาดว่าผลขาดทุนจากยอดขายรถยนต์จะลดลงใน 2H67 แต่ต้นทุนความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อ (Credit cost) และ NPL ratio น่าจะยังอยู่ในระดับสูงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ช้า โดยหุ้น KKP ซื้อขายที่ PER ปี 67 ที่ 8 เท่า แต่เราไม่เห็นปัจจัยบวกในระยะสั้น เราชอบ TTB มากกว่า (ซื้อ, ราคาเป้าหมาย 2.10 บาท) เนื่องจากคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีกว่า พร้อมเงินปันผลและแนวโน้ม ROE ที่เพิ่มขึ้น
Credit cost สูง ผลประกอบการ 2Q67 อ่อนแอ
ในการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา CEO อธิบายว่ากำไรไตรมาส 2/67 ที่อ่อนแอ (ลดลง 45% YoY เป็น 769 ล้านบาท) มีสาเหตุหลักมาจาก credit cost ที่สูงขึ้น NIM ที่ลดลง และค่าธรรมเนียมจากตลาดทุนที่อ่อนแอ ขณะที่อัตราส่วน NPL เพิ่มขึ้น 17bps QoQ เป็น 3.96% นำโดยสินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อ SME ส่วน NPL coverage ทรงตัว QoQ ที่ 136% โดยธนาคารได้ตั้งสำรองเพิ่มเติม 300 ล้านบาท เนื่องจากคุณภาพสินทรัพย์สินเชื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อ SME ที่แย่ลง ส่วนในแง่บวก ผลขาดทุนจากยอดขายรถยนต์ยึดลดลงเหลือ 47% ในไตรมาส 2/67 จาก 52% ในไตรมาส 1/67 ซึ่งเราคาดว่าผลขาดทุนจากการขายรถยนต์จะลดลงใน 2H67 และปี 68 เนื่องจากการอนุมัติสินเชื่อที่เข้มงวดขึ้น
KKP ปรับเป้าหมายทางการเงินปี 67 ใหม่
CEO ได้ปรับเป้าหมายทางการเงินปี 67 ใหม่ โดยให้สินเชื่อเติบโต -3% (จาก +3%) ส่วนต่างสินเชื่อ 4.8% (จาก 5.0%) อัตราส่วน NPL 3.9-4.1% (จาก 3.5-3.7%) และ RoE 8-9% (จาก 10 -11%) ขณะที่ยังคงเป้าหมาย credit cost (รวมผลขาดทุนจากการขายรถยนต์ยึด) ไว้ที่ 2.5-2.7% สำหรับปีนี้ เทียบกับ 2.5% ใน 1H67 ทั้งนี้ KKP ไม่มีความเสี่ยงในการให้สินเชื่อ EA (ไม่มีคำแนะนำ) และไม่มีผลกระทบด้านลบต่อธุรกิจหลักทรัพย์ เช่น บัญชีมาร์จิ้นและบล็อกเทรด ส่วนแนวโน้มในอนาคต ปริมาณสินเชื่อมีแนวโน้มลดลงเนื่องจากธนาคารได้ปรับมาตรฐานการอนุมัติสินเชื่อให้เข้มงวดขึ้นเพื่อปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์
ลดประมาณการกำไรปี 67-68 ลง เนื่องจาก credit cost ที่สูงขึ้น
เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 67-68 ลง 28% หลังจากลดคาดการณ์การเติบโตของสินเชื่อ การเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมและเพิ่มสมมติฐาน credit cost เพื่อสะท้อนถึงผลประกอบการ 2Q67 และเป้าหมายทางการเงินใหม่ของปี 67 (ดูรูปที่ 2) โดยเราคาดว่ากำไรจะลดลง 20% YoY เนื่องจาก NIM ที่ลดลงและการเติบโตของรายได้สินเชื่อและค่าธรรมเนียมที่อ่อนแอในปี 67 นอกจากนี้ เรายังคาดว่าค่าธรรมเนียมการประกันผ่านธนาคารและค่านายหน้าจะอ่อนแอ เนื่องจากสินเชื่อเช่าซื้อใหม่ชะลอตัวและสภาวะตลาดทุนที่อ่อนแอ เราประเมิน ROE น่าจะลดลงเหลือ 7.1-7.6% ในปี 67-68 จาก 9.2% ในปี 66

Jesada Techahusdin, CFA
jesada.t@maybank.com
(66) 2658 5000 ext 1395

 

ณภัค ภัทรสุปรีดิ์

: เรียบเรียง โทร : 02-276-5976 อีเมล์ : reporter@hooninside.com ที่มา : สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ความหวัง By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดหุ้นไทย เขียวสดใส แรงซื้อหุ้นบิ๊ก แคป หนุนนำ ท่ามกลางนักลงทุน ลุ้นผลเจรจาภาษีระหว่าง..

ATLAS โชว์ศักยภาพผู้นำตลาด LPG ร่วมเวทีเสวนาสร้างธุรกิจยั่งยืนก่อนเข้า SET

ATLAS โชว์ศักยภาพผู้นำตลาด LPG ร่วมเวทีเสวนาสร้างธุรกิจยั่งยืนก่อนเข้า SET

มัลติมีเดีย

TMILL วางกลยุทธ์ ขยายตลาดควบคู่เน้นบริหารต้นทุน ดันมาร์จิ้นสดใส

TMILL วางกลยุทธ์ ขยายตลาดควบคู่เน้นบริหารต้นทุน ดันมาร์จิ้นสดใส

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้