สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(24มิถุนายน 2567)--------ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) AOT พบว่าปรับตัวลดลงในช่วงบ่ายวันนี้ หลังแจ้งขอคืนพื้นที่ประกอบกิจการของผู้ประกอบการ และพื้นที่ปฏิบัติงานของส่วนราชการบางส่วนภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานภูเก็ต เพื่อจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานต่าง ๆ เพิ่มเติมตามมาตรฐานการดำเนินกิจการท่าอากาศยานสมัยใหม่ มีผล 1 ก.ค.67
ทั้งนี้ การขอคืนพื้นที่ประกอบกิจการฯ และพื้นที่ปฏิบัติงานฯดังกล่าวข้างต้น จะทำให้ ทอท.มีรายได้จากค่าเช่าพื้นที่ ณ ทสภ. และ ทภก.ลดลงเป็นจำนวนเงินเดือนละประมาณ1,015,000.- บาท และอาจทำให้ได้รับค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายเดือนในช่วงปีสัญญา 2567 – 2568 ณ ทสภ.ลดลงเป็นจำนวนเงินเดือนละประมาณ 74ล้านบาท และ ณ ทภก. ลดลงเป็นจำนวนเงินเดือนละประมาณ 19 ล้านบาทแต่อย่างไรก็ตาม ทอท.มีโครงการที่จะเพิ่มรายได้จากกิจกรรมเชิงพาณิชย์อื่น ๆ ซึ่งจะเป็นการชดเชยรายได้ส่วนที่ลดลงต่อไป
ด้านบล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ว่า การขอคืนพื้นที่เช่าและดิวตี้ฟรีบางส่วน คาดรายได้ที่ลดลงกระทบกำไร AOT ปี 2024 (ต.ค 2023 - ก.ย.2024) ประมาณ 1% และกำไรปี 2025 (ต.ค 2024-ก.ย.2025) ประมาณ 4%
เรายังรอข้อมูลเพิ่มเติม เรื่องการเปลี่ยนแปลงสัญญาของ Duty Free จะมีหรือไม่ ค่าใช้จ่ายในการ รื้อถอน และอื่นๆ นอกจากนี้ ทาง AOT แจ้งในข่าวประกาศต่อ SET ว่าจะมีการเพิ่มรายได้อื่นๆ มาชดเชยรายได้ส่วนที่ลดลง
บล.ทิสโก้ ออกบทวิเคราห์ว่า เมื่อวันศุกร์ AOT ได้ประกาศในการยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยถึงแผนการเรียกคืนพื้นที่เชิงพาณิชย์ และสำนักงานที่สนามบินสุวรรณภูมิและภูเก็ต ตามคำแนะนำของ Skytrax ซึ่งการเรียกคืนนี้จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2024 เป็นต้นไป AOT คำนวณว่าจะมีการลดลงของรายได้ค่าสัมปทาน และค่าเช่าทรัพย์สินของรัฐจาก King Power (KP) เป็นจำนวน 94 ล้านบาทต่อเดือน จนกว่าสัญญาจะสิ้นสุด เพื่อสะท้อนผลกระทบนี้ เราได้ปรับลดประมาณการกำไรสำหรับปี 2024-2026 ลง 3%, 5% และ 4% ตามลำดับ ส่งผลให้มูลค่าที่เหมาะสมของเราลดลงเหลือ 77.00 บาท จาก 81.00 บาท โดยคาดการณ์ว่า AOT จะไม่มีมาตรการเพิ่มเติมที่อาจส่งผลเชิงลบต่อรายได้ ทั้งนี้ เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ AOT โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 77.00 บาท จากประโยชน์โดยตรงจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว
ณ เวลา 14.05 น. ราคาหุ้น AOT อยู่ที่ 57.25 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ -4.98% มูลค่าการซื้อขาย 2,752 ล้านบาท