สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(30 พฤษภาคม 2566)---BTS เผยกำไรสุทธิงวดปี 65/66 ทรุด52.0% -โกยรายได้ 2.41 หมื่นลบ. พร้อมเคาะปันผลอัตรา 0.16 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD 7 ส.ค. 66 ขณะที่คาดงวดปี 66/67 รายได้ O&M 6.9 พันลบ. โกยรายได้ดอกเบี้ยรับโครงการรถไฟฟ้า 5.2 พันลบ.

บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) BTS เปิดเผยว่า ในปี 2565/66 บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)(บีทีเอส กรุ๊ป หรือบริษัทฯ) มีรายได้รวม จำนวน 24,139 ล้านบาท ลดลง22.6% หรือ 7,056 ล้านบาท จากปีก่อน รายได้ที่ลดลงมีสาเหตุหลักมาจากรายได้จากการให้บริการรับเหมาที่ลดลง 9,227 ล้านบาท เนื่องจากอยู่ในช่วงสุดท้ายของงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลือง อย่างไรก็ตาม การลดลงดังกล่าวถูกชดเชยด้วย (1) รายได้จากการบริการและการขายที่เพิ่มขึ้น 1,498 ล้านบาท จากการเติบโตของรายได้จากธุรกิจ MIX (การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กว้างและตรงจุด) และการเพิ่มขึ้นของรายได้จำกกำรให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง (O&M) ภายใต้ธุรกิจ MOVE (การเข้าถึงผู้โดยสาร) และ (2) การเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยรับจำนวน 1,097 ล้านบาท จากปีก่อน

ค่าใช้จ่ายรวม ลดลง 23.0% จากปีก่อน เป็น 17,510 ล้านบาท สอดคล้องกับรายได้ที่ลดลง แต่ลดลงในสัดส่วนที่มากกว่าการลดลงของรายได้บีทีเอส กรุ๊ป บันทึก กำไรจากการดำเนินงานที่เกิดขึ้นเป็นประจำก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยและภาษี (Recurring EBITDA)จำนวน 7,669 ล้านบาท ลดลง 5.5% หรือ 447 ล้านบาท จากปีก่อนหน้าส่วนใหญ่มาจากผลประกอบการที่ปรับตัวลดลงของธุรกิจ MIX และ MATCH

สำหรับ Recurring EBITDA ของธุรกิจ MIX ที่ลดลง สำเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารซึ่งเป็นผลจากการขยายธุรกิจและการเข้าควบรวมบริษัทย่อยต่างๆ ของวีจีไอ นอกจากนี้ กรบันทึกผลขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ทางการเงิน เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผลประกอบการของธุรกิจ MATCH ปรับตัวลง อย่างไรก็ตาม การลดลงถูกชดเชยบางส่วนด้วยการเพิ่มขึ้นของ Recurring EBITDA ของธุรกิจ MOVEซึ่งได้แรงหนุนจากการเติบโตของรายได้ดอกเบี้ยรับที่เกี่ยวกับโครงการรถไฟฟ้า และส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจากเงินลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGIF)

กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ จำนวน 1,836 ล้านบาท ลดลง52.0% หรือ 1,989 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 7.6% ลดลงจาก 12.3% ในปี 2564/65

พร้อมกันนี้บริษัทฯ ปันผลงวดดำเนินงานวันที่ 01 เม.ย. 2565 ถึงวันที่ 31 มี.ค. 2566 และกำไรสะสม ในอัตรา 0.16 บาทต่อหุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD 7 ส.ค. 66 โดยกำหนดจ่ายปันผลวันที่ 25 ส.ค. 2566

สำหรับในปี2566/67 บริษัทคาดว่าจะสามารถบันทึกรายได้ O&M จำนวน 6.9 พันล้านบาท รายได้ดอกเบี้ยรับที่เกี่ยวกับโครงการรถไฟฟ้า จำนวน 5.2 พันล้านบาท
(เพิ่มขึ้น 16% จากปีก่อน) และรายได้จากงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้ำสายสีชมพูและสีเหลืองที่เหลืออีกราว 2.9 พันล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯ คาดว่าจำนวนเที่ยวเดินทางของรถไฟฟ้าสายสีเขียวหลักจะกลับมาเท่ากับระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2566/67 ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ทำให้บริษัทฯ สามารถรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนใน BTSGIF ที่เพิ่มขึ้น

บล.บัวหลวง ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า BTS รายงานขาดทุนสุทธิ 4Q22 (ม.ค.-มี.ค. 2023) ที่ 222 ล้านบาท หักรายการพิเศษโดยเฉพาะจากตั้งค่าเผื่อขาดทุนและผลขาดทุนจากเครื่องมือทางการเงิน จะเป็นกำไรหลักอยู่ที่ 222 ล้านบาท ลดลง 64% YoY และ 77% QoQ กำไรหลักต่ำกว่าที่เราและตลาดคาด เนื่องจากส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนต่ำกว่าคาด ทั้งนี้ BTS จะจ่ายเงินปันผลสำหรับงวด 2H22 (ต.ค.22 - มี.ค.23) ที่ 0.16 บาท คิดเป็น Div. yields 2.1% ขึ้น XD วันที่ 7 ส.ค. ส่วนแนวโน้มกำไร 1Q23 (เม.ย.-มิ.ย. 23) คาดเพิ่มขึ้นทั้ง YoY (กำไรจาก BTSGIF และธุรกิจสื่อเพิ่ม) และ QoQ (ค่าใช้จ่ายลดลงโดยเฉพาะค่าไฟฟ้า) เรายังคงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 13.60 บาท มองกำไรฟื้นตัวและภาพระยะยาวดี

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ออกบทวิเคราะห์ ระบุว่า ผลการดำเนินงาน 4Q65-66 (ม.ค.-มี.ค.66) น่าผิดหวัง เป็นขาดทุนสุทธิ -222 ล้านบาท แต่เพราะมีรายการพิเศษจ านวนมาก โดยเฉพาะรายการที่เป็นลบคือ ขาดทุนจากตราสารทางการเงิน และขาดทุนจากการด้อยค่าของเงินลงทุนของบริษัทในกลุ่ม โดยหลักมาจาก VGI และ U รวมทั้งการลงทุนของ BTS เอง หากไม่นับพลิกมาเป็นกำไรหลักที่ 796 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% y-o-y แต่ลดลง 17%q-o-q รายได้รวมเพิ่มขึ้น 6% y-o-y และ 6% q-o-q เป็น 5 พันล้านบาท แบ่งเป็น 1) รายได้จากการให้บริการเดินรถและโฆษณาเพิ่มขึ้น 13% y-o-y และ 12% q-o-q เป็น 3.5 พันล้านบาท จากบริการเดินรถที่เติบโต และรายได้โฆษณาในส่วนสื่อนอกบ้าน (OOH) รถไฟฟ้าที่ดีขึ้น และ 2) รายได้ E&Mลดลง 5% y-o-y แต่เพิ่มขึ้น 14% q-o-q เป็น 1.7 พันล้านบาท ที่ลดลง y-o-y เพราะรถไฟฟ้าสายสีเขียว ชมพู และเหลือง อยู่ในช่วงการก่อสร้างท้ายๆแล้ว อีกทั้งสัดส่วนค่าใช้จ่ายขาย-บริหารเทียบกับรายได้อยู่ในเกณฑ์สูงเป็น37.9% เทียบกับ y-o-y และ q-o-q ที่ 18.9% และ 37.7% ซึ่งมาจาก VGI เป็นหลัก ด้านอัตราก าไรขั้นต้นบริการและโฆษณาเป็น 48.8% ทรงตัว y-o-y แต่ดีกว่า q-o-q ที่ 37.6% ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นบริการ E&M เป็น 8.9% เพิ่มขึ้นจาก y-o-y ที่ 2.0% แต่ต ่ากว่า q-o-q ที่ 15.4% ด้านขาดทุนตามส่วนได้เสียจากบริษัทร่วมและร่วมทุนไตรมาสนี้เป็น190 ล้านบาท

ผลการดำเนินงาน FY65-66(เม.ย.65-มี.ค.66) ออกมาน้อยเช่นกัน เป็นก าไรสุทธิ1,836 ล้านบาท ลดลงถึง 52%y-o-yแต่เพราะมีรายการพิเศษจำนวนมาก โดยเฉพาะรายการที่เป็นลบคือขาดทุนจากตราสารทางการเงิน 975 ล้านบาท และขาดทุนจากการด้อยค่าของเงินลงทุนของบริษัทในกลุ่ม 260 ล้านบาท โดยหลักมาจาก VGI และ U รวมทั้งการลงทุนของ BTS เอง หากไม่นับเป็นก าไรหลักที่2,695 ล้านบาท ต่ำลง3% y-o-y รายได้รวมต่ำลง 30% y-o-y เป็น16.6 พันล้านบาท แบ่งเป็น 1) รายได้จากการให้บริการเดินรถและโฆษณาเพิ่มขึ้น 14% y-o-y เป็น 13.7 พันล้านบาทจากบริการเดินรถที่เติบโต และรายได้โฆษณาในส่วนสื่อนอกบ้าน (OOH) รถไฟฟ้าที่ดีขึ้น และ 2) รายได้E&M ลดลง61% y-o-y เป็น 2.9 พันล้านบาท ที่ลดลง y-o-y เพราะรถไฟฟ้าสายสีเขียว ชมพูและเหลือง อยู่ในช่วงการก่อสร้างท้ายๆแล้ว อีกทั้งสัดส่วนค่าใช้จ่ายขาย-บริหารเทียบกับรายได้อยู่ในเกณฑ์สูงเป็น 25% เทียบกับ y-o-y ที่ 23.9% ซึ่งมาจาก VGI เป็นหลัก ด้านอัตรากำไรขั้นต้นบริการและโฆษณาเป็น 43.5% เทียบ y-o-y ที่ 43.4% ส่วนอัตราก าไรขั้นต้นบริการ E&M เป็น 8.1% เพิ่มขึ้นจาก y-o-y ที่6.2% ด้านกำไรตามส่วนได้เสียจากบริษัทร่วมและร่วมทุนไตรมาสนี้เป็น 350 ล้านบาท ดีขึ้นกว่า y-o-y ที่ -563 ล้านบาท

คำแนะนำ อยู่ในช่วงการปรับประมาณการ (Review) จากเดิม ซื้อ เนื่องจากผลการดำเนินงานทั้ง ไตรมาส 4และตลอดปี 65-66 ออกมาต่ำกว่าคาด สำหรับแรงกระตุ้นราคาหุ้นในขณะนื้ คือการเริ่มเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และสายสีชมพู แต่ข้อเสียคือ ช่วงเปิดให้บริการในปีแรกๆจะยังมีผลขาดทุนสุทธิ สำหรับปัจจัยที่ไม่แน่นอนคือหนี้ที่กทม.ค้างอยู่หลายหมื่นล้านบาท เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ จะได้รับการชำระคืนหรือไม่

---จบ---