สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(9พฤศจิกายน 2565)----TPCH เปิดผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/65 กำไรสุทธิ 104.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 100% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลจากการรับรู้รายได้โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล 10 แห่ง ขนาดกำลังการผลิตรวม 106.8 เมกะวัตต์ ฟากบิ๊กบอส “กนกทิพย์ จันทร์พลังศรี” ระบุ โค้งสุดท้ายปีนี้ เดินหน้ารุกขยายธุรกิจพลังงานทดแทนในกลุ่มประเทศ CLMV เต็มพิกัด หนุนผลงานปีนี้เติบโตตามเป้าหมาย

นางกนกทิพย์ จันทร์พลังศรี ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH) ประกอบธุรกิจหลักโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2565 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2565) มีกำไรสุทธิ 104.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.41 ล้านบาท หรือ มากกว่า 100% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 51.75 ล้านบาท และมีรายได้รวม 720.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60.03 ล้านบาท หรือ 9.1% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีรายได้รวม 660.51 ล้านบาท ขณะที่ ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 มีรายได้รวม 1,959.66 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 139.52 ล้านบาท

ปัจจัยที่สนับสนุนให้มีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ของโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลครบ 10 แห่ง ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าชีวมวล CRB, MWE, MGP, TSG, PGP, SGP , PTG ,TPCH 5 , TPCH 1 และ TPCH 2 ซึ่งมีกำลังการผลิตรวม 106.8 เมกะวัตต์

“ภาพรวมผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 3 ของปีนี้ บริษัทฯ สามารถทำกำไรได้เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการเดินเครื่องโรงไฟฟ้าชีวมวลทั้ง 10 แห่งได้ตามปกติ รวมทั้งมีการบริหารต้นทุนการผลิตได้ดีขึ้น ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าขยะ สยาม พาวเวอร์ (SP) ขนาดกำลังการผลิต 9.5 เมกะวัตต์ ขณะนี้อยู่ในช่วงจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบให้มีความเสถียรมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง” นางกนกทิพย์กล่าว

ด้านนายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH) กล่าวว่า แผนการดำเนินงานที่เหลือของปีนี้ TPCH พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจพลังงานทดแทน โดยจะลงทุนร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความชำนาญในพื้นที่ เพื่อเข้าลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนขนาดใหญ่ในกลุ่มประเทศ CLMV มีจำนวนหลายโครงการ ซึ่งอยู่ระหว่างการเข้าศึกษาโครงการ และคาดว่าจะเห็นความชัดเจนสำหรับโครงการแรกในรูปแบบ IPP ประมาณไตรมาส 1/ 2566

ขณะเดียวกัน การลงทุนภายในประเทศ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าประเภทเชื้อเพลิงขยะ 5-7 โครงการ ภายใต้บริษัท สยาม พาวเวอร์ จำกัด (SP) ซึ่ง TPCH ถือหุ้นในสัดส่วน 50% เพื่อเข้าร่วมโครงการรับซื้อไฟฟ้าของภาครัฐ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนเร็วๆ นี้ ประมาณ 1-2 โครงการ ดังนั้น บริษัทฯ จึงมั่นใจว่า ปัจจัยเหล่านี้ จะเป็นส่วนสนับสนุนให้ผลงานในปีนี้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

สำหรับโรงไฟฟ้าประชารัฐชีวมวล แม่ลาน กำลังการผลิตรับซื้อไม่เกิน 2.85 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าประชารัฐชีวมวล บันนังสตา กำลังการผลิตรับซื้อไม่เกิน 2.85 เมกะวัตต์ ขณะนี้การก่อสร้างมีความคืบหน้ากว่า 80% คาดว่าจะสามารถ COD ได้ภายในไตรมาส 1/2566

---จบ---