Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

HotNews: LEO ธุรกิจขาขึ้น!! อัพเป้ารายได้ปีนี้ทะยาน 80-85%

2,575

 

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(31 สิงหาคม 2564)----LEO ผู้นำธุรกิจการให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจร ปรับเป้าหมายรายได้ปี 64 โตเท่าตัว จากเดิมขยายตัว 40-45% ปรับเพิ่มเป็น 80-85% รับอานิสงส์ธุรกิจ “ขาขึ้น” ค่าระวางเรือพุ่ง-ออเดอร์ทะลัก บิ๊กบอส “เกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์” เผยเริ่มรับรายได้ขนส่งพัสดุและไปรษณีย์ภัณฑ์ ให้กับ China Post Group ใน Q3/64 ล่าสุดจับมือบริษัทย่อย “ไปรษณีย์ไทย” ขนส่งวัคซีน ขนส่งสินค้า E-commerce หนุนรายได้-กำไร ในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า All Time High ต่อเนื่อง

 

 

นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) (LEO) หนึ่งในผู้นำด้านการให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรที่ครอบคลุมทั่วโลก เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ปรับประมาณการรายได้ในปี 2564 เพิ่มขึ้นเท่าตัว จากเดิมคาดรายได้เติบโต 40-45% เพิ่มเป็น 80-85% สอดคล้องแนวโน้มธุรกิจที่อยู่ในช่วงขาขึ้น โดยได้รับปัจจัยบวกจากค่าระวางเรือและอากาศที่อยู่ในระดับสูง และปริมาณการขนส่งสินค้าทั้งทางเรือและทางอากาศของลูกค้ามีจำนวนมากขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย อีกทั้งในช่วงไตรมาส 3 เป็นช่วง High season ของการขนส่งสินค้า

 

นอกจากนี้ บริษัทฯจะเริ่มรับรู้รายได้จากความร่วมมือกับ China post ในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศไทย-จีน ตั้งแต่ไตรมาส 3/64

 

ทั้งนี้ ล่าสุด LEO ได้ประกาศความร่วมมือกับ บริษัทไปรษณีย์ไทย ดิสทริบิวชั่น (THPD) โดยอยู่ระหว่างจัดโครงสร้างการทำธุรกิจร่วมกัน เช่น การขนส่งวัคซีน การขนส่งสินค้า E-commerce

 

“ความร่วมมือทางธุรกิจระหว่าง LEO กับ China post รวมไปถึงกับ บริษัทไปรษณีย์ไทย ดิสทริบิวชั่น จะเป็นแรงสนับสนุนสำคัญที่ทำให้แนวโน้มผลการดำเนินงานเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า ผลักดันรายได้และกำไร All Time High อย่างต่อเนื่อง” นายเกตติวิทย์ กล่าวในที่สุด

 

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยในไตรมาส 2/64 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564 ) มีรายได้รวม 559.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 81% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 310.0 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 42.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.7 ล้านบาท เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 19.0 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์

 

ส่วนผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรก มีรายได้รวม 1,033.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 92% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 538.1 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 69.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 147% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 28.3 ล้านบาท และยังทำให้กำไรสุทธิของผลประกอบการครึ่งปี 2564 ที่ 69.8 ล้านบาทนี้ มากกว่ากำไรสุทธิทั้งปีของปี 2563 ที่ทำได้ 57.8 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/64 และครึ่งปีแรกที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ได้รับปัจจัยหนุนจากสถานการณ์ค่าระวางเรือตู้คอนเทนเนอร์ที่ยังทำ New High อีกทั้งปริมาณความต้องการขนส่งทางเรือและอากาศยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปริมาณตู้สินค้าที่ขนส่งระหว่างประเทศทางเรือของบริษัทฯ ในระยะเวลา 6 เดือนของปี 2564 เติบโตเพิ่มขึ้น 52% เมื่อเทียบกับ 6 เดือนแรกของปี 2563 และมีรายได้เพิ่มขึ้น 144% เมื่อเทียบกับปีก่อน และมีแนวโน้มโตต่อเนื่องถึงครึ่งหลังของปีนี้

 

นอกจากนี้ ด้วยการบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์และการบริหารความสัมพันธ์ที่ดีกับพันธมิตรทางธุรกิจ ทำให้บริษัทฯ สามารถจัดหาพื้นที่และตู้คอนเทนเนอร์ในการส่งสินค้าได้ตามความต้องการของผู้ส่งออก จึงทำให้มีลูกค้าใหม่เพิ่มมากขึ้นกว่าปี 2563 ถึง 40% และปริมาณตู้เพิ่มขึ้นถึง 52% (YoY)

 

ขณะที่ปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเตรียมทำดีล M&A Airfreight Company คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ และมีการเจรจาM&A กับบริษัทภายในประเทศอีกจำนวน 2-3 ดีล คาดว่าจะเห็น
ความชัดเจนได้ในปีหน้า รวมถึงยังมีความมุ่งมั่นและตั้งเป้าหมายการดำเนินงานในปีหน้าที่จะเข้าไปทำดีล M&A ในประเทศเวียดนามและอินโดนีเซียอย่างแน่นอน


บริษัทฯ ได้วางงบลงทุนสำหรับการทำดีลM&A ในปีนี้ไว้ที่ราว 200 ล้านบาท และวางงบลงทุนจำนวน 300ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับดำเนินการซ่อมแซมและปรับปรุงพื้นที่ให้บริการห้องเก็บของส่วนบุคคล (Self Storage) แห่งที่ 2 บริเวณใกล้ย่านเยาวราช หรือ China Town ของกรุงเทพ ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการสำเร็จและสามารถเปิดให้บริการได้ในช่วงไตรมาส4/64 ส่วนการขยายพื้นที่ธุรกิจลานเก็บตู้คอนเทนเนอร์ (Container Depot) แห่งที่ 2 บริเวณ ถนนบางนา-ตราด ขาเข้า กม.21 ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการออกแบบพื้นที่ คาดว่าจะก่อสร้างและเปิดดำเนินงานได้ในช่วงไตรมาส
4 เช่นเดียวกัน

สำหรับเงินที่ใช้ในการลงทุนจะมาจากเงินระดมทุน IPO และขอเงินลงทุนเพิ่มเติมจากสถาบันการเงิน ซึ่งปัจจุบันบริษัทมี D/E ratio อยู่ที่ 0.3เท่า ซึ่งยังมีความสามารถในการหาเงินทุนได้และขอวงเงินกู้ได้ถึง 800 ล้านบาท

“โควิด-19ในปัจจุบัน ทำให้เราได้รับผลกระทบเชิงบวกจากค่าระวางเพิ่มมากขึ้น แต่ทั้งหมดก็จะตามมาด้วยการทำงานที่ยากมากขึ้นกว่า3-4เท่า จากขั้นตอนการทำงานที่ต้องคอยติดตามงานและเช็คราคาอย่างสม่ำเสมอ แม้ว่าจะมีอัตราการการทำงานที่ยากขึ้น แต่มาร์จิ้นและผลกำไรดีก็ดีขึ้นตามไปด้วย” นายเกตติวิทย์ กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทได้มุ่งมั่นในการเป็น Blue-Chip Stock ที่มีการจ่ายปันผลและสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งในปีนี้อยากให้นักลงทุนไม่ต้องกังวลใจและดูความสามารถของบริษัทได้จากผลกำไรของการดำเนินงานในตอนนี้ที่ได้มีมากกว่าปีที่แล้วทั้งปีไปแล้ว


เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณในความเชื่อมั่นของนักลงทุน ที่มีต่อหุ้นของ LEO และรักษาคำมั่นสัญญาของบริษัทฯ ที่ตั้งใจจะทำให้หุ้น LEO เป็น BLUE CHIP STOCK ของธุรกิจผู้ให้บริการโลจิสติกส์ในประเทศไทย คณะกรรมการบริษัทฯ จึงได้มีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปี 2564 ในอัตราหุ้นละ 0.07 บาท/หุ้น กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 9 กันยายน 2564 นี้

 

 


---จบ--

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

ผถห. SSP ผ่านฉลุย! จ่ายปันผล 0.20 บาท/หุ้น

ผถห. SSP ผ่านฉลุย! จ่ายปันผล 0.20 บาท/หุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้