ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

HotNews: KTIS ปีหน้าโตต่อเนื่องทั้งรายได้-ปริมาณอ้อยเข้าหีบ /-TITLE ซุ่มศึกษาพัฒนาโครงการ2 ทำเลใหม่ในภูเก็ต

6 ธ.ค. 2560 16:52:00 1,710

HotNews: KTIS ปีหน้าโตต่อเนื่องทั้งรายได้-ปริมาณอ้อยเข้าหีบ

/-TITLE ซุ่มศึกษาพัฒนาโครงการ2 ทำเลใหม่ในภูเก็ต

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 6 ธันวาคม 2560)--------KTIS มั่นใจรายได้ปี61 สูงกว่าปีนี้ที่คาดทำได้ 2หมื่นลบ. ตามผลผลิตน้ำตาลเพิ่มขึ้น มองราคาน้ำตาลปีหน้าอยู่ที่13-18เซนต์ต่อปอนด์ จากปัจจุบันที่14.9เซนต์ต่อปอนด์ ปีหน้าเตรียมทุ่มงบกว่า1หมื่นลบ. ผุดโครงการร่วมทุน "ไบโอคอมเพล็กซ์ " เริ่มดำเนินการปลายปี62

TITLE เปิดเกมรุกธุรกิจต่อเนื่อง เล็งศึกษาความเป็นไปได้พัฒนาโครงการแห่งใหม่ ในทำเลที่ 3 และ 4 เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งอาจจะเป็นการพัฒนาโครงการด้วยตนเองหรือร่วมมือกับพันธมิตร แย้มอยู่ระหว่างเจรจา 3 ราย ชี้บทสรุปของทางเลือกจะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อบริษัทและผู้ถือหุ้น

นายณัฎฐปัญญ์ ศิริวิริยะกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KTIS เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจรายได้ปี2561 จะสูงกว่าปีนี้ที่คาดทำได้ตามเป้าหมาย 20,000 ล้านบาท โดยคาดแนวโน้มผลผลิตน้ำตาลจะเพิ่มขึ้นแตะ 10 ล้านกระสอบ จากปีนี้ที่คาดผลิตได้ 9 ล้านกระสอบ ตามจำนวนอ้อยที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปริมาณความต้องการใช้น้ำตาลของตลาดลโลกยังเพิ่มขึ้นอีกด้วย ขณะที่ในปีหน้าบริษัทจะเริ่มหันมาผลิตน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ที่มีมาร์จิ้นสูงมากขึ้น ทำให้สัดส่วนการผลิตในปี 61 แบ่งเป็นน้ำตาลทราย 50% และน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ 50% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนน้ำตาลทรายขาว 65% และน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ 35%

KTIS ได้เปิดหีบอ้อยสำหรับฤดูการผลิตปี 2560/2561 แล้ว ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณอ้อยเข้าหีบทั้ง 3 โรงงาน คือ โรงงานน้ำตาลเกษตรไทยฯ โรงงานน้ำตาลไทยเอกลักษณ์ และโรงงานน้ำตาลเกษตรไทยฯ สาขา 3 มากกว่าฤดูการผลิตปี 2559/2560 เนื่องจากปีนี้มีปริมาณฝนมาก ประกอบกับการทำงานอย่างใกล้ชิดของพนักงานฝ่ายไร่กลุ่ม KTIS กับเกษตรกรชาวไร่อ้อย ทำให้ผลผลิตตันต่อไร่สูงขึ้นด้วย

“เมื่ออ้อยมีปริมาณมากขึ้น ก็จะสามารถผลิตน้ำตาล รวมไปถึงผลิตภัณฑ์พลอยได้อื่นๆ ทั้งเยื่อกระดาษ เอทานอล และไฟฟ้าที่ผลิตจากเชื้อเพลิงชีวมวล ก็จะได้ปริมาณมากขึ้น ส่วนราคาน้ำตาลในตลาดโลกนั้น ก็ยังเชื่อว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับปัจจุบันได้อีก” นายณัฎฐปัญญ์ กล่าว

อีกทั้งบริษัทยังมีการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าชีวมวลทั้งหมด 3 โรงกำลังการผลิต 160 เมกะวัตต์ที่จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในเชิงพาณิชย์(COD)เข้ามาเต็มปี

พร้อมกันนี้บริษัทประเมินราคาน้ำตาลในปี2561 ไว้ที่ 13-18 เซนต์ต่อปอนด์ จากปัจจุบันอยู่ที่ราว 14.9 เซนต์ต่อปอนด์ โดยมองว่าความต้องการใช้น้ำตาลจะเพิ่มขึ้น หลังหลายประเทศทั่วโลกเริ่มที่จะนำผลผลิตอ้อยไปใช้ผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น เอทานอล ทำให้จะได้รับผลดีจากปริมาณอ้อยที่จะในตลาดโลกที่จะลดลงในอนาคต

สำหรับแผนการลงทุนในปีหน้า บริษัทเตรียมใช้งบลงทุนตามสัดส่วนการถือหุ้น 50% หรือประมาณกว่า 10,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการร่วมทุนไบโอคอมเพล็กซ์ ซึ่งเป็นการร่วมมือกับ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) GGC โดยมีมูลค่าลงทุนรวมอยู่ที่ 20,000 ล้านบาท เบื้องต้นคาดว่าจะสร้างเสร็จพร้อมดำเนินการได้ช่วงปลายปี 2562

ทั้งนี้โครงการลักษณะของโครงการดังกล่าวเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดกำลังผลิตติดตั้ง 40 - 50 เมกะวัตต์ และยังมีโรงผลิตน้ำอ้อย โรงผลิตเอทานอล และสาธารณูปโภคเพื่อรองรับโครงการ

นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์จากเยื่อกระดาษ เช่นการผลิตบรรจุภัณฑ์จากธรรมชาติที่สามารถทนความร้อนได้ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มประเทศยุโรป เบื้องต้นคาดใช้เงินลงทุนราว 400-50 ล้านบาท เพื่อนำมาขยายไลน์การผลิตเพิ่ม คาดชัดเจนในปีหน้าซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างค้นคว้าและวิจัยรวมถึงดูความต้องการของตลาดเพิ่ม

อนึ่ง KTIS รารงานผลประกอบการ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2560 มีรายได้รวม 15,305.3 ล้านบาท สูงกว่าปี 2559 ทั้งปีที่มีรายได้รวม 15,086.6 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิงวด 9 เดือน 1,140.2 ล้านบาท สูงกว่างวดเดียวกันของปี 2559 ถึง 4,307%

ทั้งนี้ ในไตรมาสที่ 3 (ก.ค.-ก.ย.60) พบว่า รายได้ของสายธุรกิจผลิตและจำหน่ายเยื่อกระดาษฟอกขาวจากชานอ้อย เติบโตสูงสุดถึง 30% เนื่องจากปริมาณการขายเยื่อกระดาษเพิ่มขึ้นแม้ว่าราคาเฉลี่ยจะลดลง รองลงมาเป็นการผลิตและจำหน่ายเอทานอล ซึ่งมีรายได้เพิ่มขึ้น 8.7% จากราคาขายที่สูงขึ้น และธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทราย ก็มีรายได้เพิ่มขึ้น 4%

นายเด่นดนัย หุตะจูฑะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (TITLE) เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทฯกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตทำเลที่ 3 และ 4 จากปัจจุบันพัฒนาโครงการอสังหาฯที่ หาดราไวย์และหาดในยาง จ.ภูเก็ต ซึ่งโครงการทำเลใหม่มีโอกาสความเป็นไปได้ที่อาจจะเป็นการพัฒนาโครงการด้วยตนเองเหมือนที่ผ่าน หรือร่วมมือกับพันธมิตรซึ่งเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในจังหวัดภูเก็ต

"เราเดินหน้าพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ทำเลใหม่ โดยเราอาจจะพัฒนาโครงการเอง หรือ ร่วมกับพันธมิตร โดยขณะนี้มีการเจรจากับพันธมิตรกว่า 3 ราย ซึ่งบทสรุปของทางเลือกจะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อบริษัทฯและผู้ถือหุ้น โดยหากมีความคืบหน้าใดๆเพิ่มเติม ทางบริษัทฯก็จะรีบแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯต่อไป" นายเด่นดนัย กล่าว

ขณะที่นายศศิพงษ์ ปิ่นแก้ว กรรมการบริหาร/กรรมการผู้จัดการสายงานวางแผนและควบคุม บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (TITLE) กล่าวว่า ในส่วนของการศึกษาความเป็นไปได้ จะมีทั้งการลงพื้นที่สำรวจความเป็นไปได้ อาทิ เป้าหมายกลุ่มนักท่องเที่ยว ตามวัย อายุ และไลฟ์สไตล์ เป็นต้น ซึ่งคาดว่ากระบวนการดังกล่าวจะใช้เวลาในการศึกษาพอสมควร

---จบ---

https://www.hooninside.com/test/cache/author/1559285961_200x200_1.png