Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

HotNews : ALT สบช่องพัฒนาซอฟแวร์งานจราจรขนส่งทั้งระบบ ตั้งเป้าโกยยอดขาย 500 Licenses

3,129

HotNews : ALT สบช่องพัฒนาซอฟแวร์งานจราจรขนส่งทั้งระบบ ตั้งเป้าโกยยอดขาย 500 Licenses 

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (12 ตุลาคม 2563) ALT เดินหน้ายกระดับ “Pixenze” ซอฟแวร์ติดตั้งอ่านป้ายทะเบียนอัจฉริยะบนอุปกรณ์ Edge Computing เพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลอ่านป้ายทะเบียนรถ (ALPR) ได้รวดเร็ว ต่อยอดกับโครงข่าย Fiber optic ที่บริษัทลงทุนติดตั้งทั่วประเทศมูลค่าการลงทุนมากกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนตลาดให้กลุ่มพันธมิตร ทั้งภาครัฐและเอกชน ตั้งเป้ายอดขายครึ่งปีแรกปี 64 กว่า 500 Licenses

 

 

 

นายปริญญ์ ชากฤษณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ (Business Development Director and Data Scientist) บริษัท เอแอลที เทเลคอม จำกัด(มหาชน) หรือ ALT กล่าวว่า บริษัทได้มีการพัฒนาต่อยอดซอฟแวร์ Pixenze มาติดตั้งบนอุปกรณ์ Edge computing เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้งานให้ประมวลผลอ่านป้ายทะเบียนรถ (ALPR) รวดเร็ว และต่อยอดกับโครงข่าย Fiber optic ที่บริษัทลงทุนติดตั้งทั่วประเทศมูลค่าการลงทุนมากกว่า 1,000 ล้านบาท

 

 


สำหรับ “Edge Computing” เป็นอุปกรณ์ประมวลผลที่มีขนาดเล็กสามารถติดตั้งที่จุดติดตั้งกล้อง IP Camera สามารถใช้ได้กับทุกรุ่นทุกยี่ห้อ Edge Computing จะช่วยทำให้ประสิทธิภาพการประมวลผลของการอ่านป้ายทะเบียน (ALPR) ได้ดีขึ้น เพราะช่วยลดปริมาณข้อมูลที่เชื่อมต่อกับคลาวด์ รองรับปริมาณข้อมูลขนาดใหญ่ อีกทั้งยังประหยัดพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์โดยไม่จำเป็นได้อีกด้วย ในระยะยาวจะช่วยลดต้นทุนในการบริหารจัดการดูแลระบบศูนย์รวมข้อมูลกลาง ได้กว่า 50% การพัฒนาระบบของบริษัทฯ จะเป็นการสนับสนุนกลุ่มธุรกิจพันธมิตรให้มีการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน ซึ่งคาดว่าจะเริ่มออกสู่ตลาดได้ในไตรมาส 1 ปี 2564 โดยตั้งเป้ายอดขายเบื้องต้น ประมาณ 500 Licenses

 

 

ทั้งนี้ Pixenze ยังได้รับความสนใจจากพันธมิตรกลุ่มธุรกิจ Parking รวมถึงหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีความยืดหยุ่นต่อการเชื่อมต่อกับระบบเดิมที่ผู้ใช้มีอยู่ ซึ่งทุกครั้งที่มีการทดสอบทุกสภาพแวดล้อมบนท้องถนนในเมืองไทยโดยปรับปรุงชุดข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการอ่านทะเบียนรถให้ความแม่นยำได้มากกว่า 98%

 

 

ด้านนายสมชาย วิกิจไพศาล ผู้จัดการฝ่ายการพัฒนาธุรกิจ บริษัท เจนก้องไกล จำกัด หรือ JPARK ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจด้านบริหารจัดการที่จอดรถมากว่า 18 ปี กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัททำธุรกิจการบริหารจัดการลานจอดรถครบวงจร ให้บริการทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เช่น อาคารสยามสแควร์วัน, อาคารจอดภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ลานจอดรถท่าอากาศยานขอนแก่น, MRT สายสีม่วง และสีเขียว ฯลฯ ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้นำระบบการอ่านป้ายทะเบียนอัตโนมัติ (ALPR) มาทดสอบหลายยี่ห้อ ซึ่งรวมถึง Pixenze โดยผลการทดสอบนั้น Pixenze ให้ผลการอ่านป้ายทะเบียนที่แม่นยำที่สุด ส่งผลให้ระบบการอ่านป้ายทะเบียนอัตโนมัติ (ALPR) มาช่วยลดขั้นตอนในการทำงานและช่วยลดต้นทุนด้านบุคลากรได้เป็นอย่างมาก

 

 


"ในปัจจุบันที่จอดรถในเขตเมือง และพื้นที่จอดรถบางแห่งที่ทางบริษัทได้สิทธิในการบริหารพื้นที่ จะเริ่มเปลี่ยนมาใช้เป็นระบบการอ่านป้ายทะเบียนรถอัตโนมัติ(ALPR) ระบบนี้จะเริ่มกับพื้นที่จอดรถในอาคาร เนื่องจากสามารถควบคุมปัจจัยในการอ่านป้ายทะเบียนได้ดี เช่น แสงไฟ ตำแหน่ง มุมกล้อง และภาพสะท้อน ฯลฯ โดยก่อนที่จะนำมาใช้กับระบบบริหารจัดการที่จอดรถนั้น เราได้ทำการทดสอบหลายรอบ จนมั่นใจได้ว่าซอฟแวร์การอ่านป้ายทะเบียนอัตโนมัติของ Pixenze เป็นระบบที่มีความแม่นยำสูงสุด และในอนาคตจะนำไปต่อยอดใช้กับในพื้นที่จอดรถอื่นๆ ด้วย” นายสมชาย กล่าว

 

 

 


--- ALT โชว์ไตรมาส 2/63 กำไรพุ่ง 222% ----

 

นายสมบุญ เศรษฐ์สันติพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานการเงินและบัญชี บริษัท เอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ALT เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2563 บริษัทมีรายได้รวม 401.94 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 116% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 186.31 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 45.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 222% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิ 37.18 ล้านบาท โดย ณ สิ้นไตรมาส 2/63 บริษัทมีงานในมือ (Backlog) จำนวน 1,732 ล้านบาท
ทั้งนี้สาเหตุที่กำไรและรายได้ปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้น 339% จาก 70.02 ล้านบาท เพิ่มเป็น 307.65 ล้านบาท โดยรายการหลักที่เพิ่มขึ้นคือ รายได้จากโครงการ Smart Grid รวมทั้งมีรายได้อื่นอีกจำนวน47.56 ล้านบาท โดยรายการหลักเกิดจากการโอนสินทรัพย์โครงข่ายใยแก้วนำแสงให้กับบริษัท สมาร์ท อินฟราเนท จำกัด

 


นายสมบุญกล่าวว่า ในปี 2563 ถือเป็นปีแห่งการปรับโครงสร้างกิจการ ปัจจัยลบที่เป็นภาระเหนี่ยวรั้งการเติบโตของบริษัทในอดีตได้คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับ โดยในไตรมาส 1/2563 บริษัทได้รับเงินชดเชยค่าเสียหายจากคู่กรณีตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุดเป็นเงินราว 370 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 2/2563 ที่ผ่านมา บริษัทได้บรรลุเป้าหมายในการปรับโครงสร้างกิจการด้วยการโอนสินทรัพย์โครงข่ายใยแก้วนำแสง 2 โครงการให้แก่ กิจการร่วมทุน คือ บริษัท สมาร์ท อินฟราเนท จำกัด ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัทกับบริษัท ราชกรุ๊ป จำกัด(มหาชน) หรือ RATCH ซึ่งมีความแข็งแกร่งด้านเงินทุนและมีกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับทิศทางของบริษัท จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะช่วยผลักดันให้แผนธุรกิจของบริษัทพัฒนาไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมได้เร็วขึ้น เพื่อสร้างผลกำไรที่ยั่งยืนในระยะยาว

 


สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2563 บริษัทยังคงเดินหน้าปรับโครงสร้างและขยายธุรกิจอีกหลายโครงการเช่น การเข้าซื้อหุ้นบริษัท เอ็นเนอร์จี แม็คซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายมิเตอร์ไฟฟ้าระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อรองรับการเติบโต Smart Grid Technology ได้อย่างเต็มที่ รวมทั้งโครงการร่วมทุนกับพันธมิตรในอีกหนึ่งโครงการเพื่อรองรับการลงทุนและสร้างเสาสัญญาณสำหรับโครงข่าย 5G ของพันธมิตร

 


โดยล่าสุดประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2563 ได้มีมติอนุมัติ เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท เอ็นเนอร์จี แม็คซ์ จำกัด (EMAX) ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายมิเตอร์ไฟฟ้าระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยเป็นการซื้อหุ้นต่อจากบริษัท เอแอลที โฮลดิ้ง จำกัด (ALTH) สัดส่วน 97.82% ในราคาหุ้นละ 38 บาท รวมเป็นมูลค่าประมาณ 25.55 ล้านบาท ซึ่งวัตถุประสงค์ของการซื้อหุ้นดังกล่าว เพื่อเป็นการปรับโครงสร้างกิจการรองรับการพัฒนาและรองรับการเติบโตสูงของเทคโนโลยี Smart Grid อย่างไรก็ตามรายการดังกล่าวถือเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน โดยบริษัทเอแอลที โฮลดิ้ง จำกัดเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน ALT สัดส่วน 50.69%

 

 

 


บล.คิงส์ฟอร์ด แนะนำซื้อ ALT ราคาพื้นฐาน ที่ 4.30 บาท

 


บล.คิงส์ฟอร์ด แนะนำซื้อ ALT โดยมีราคาเป้าหมายปี 2564 ที่ 4.30 บาท Backlog ของ ALT ในปีนี้ยังแข็งแกร่งที่ระดับ 1.73 พัน ลบ. และกำลังทยอยรับรู้รายได้จากโครงการ Smart Grid ต่อเนื่อง โดยบริษัทคาดว่าโครงการนี้จะรับรู้เป็นรายได้ประมาณ 400 ลบ. ช่วง 2H63 และอีกหนึ่งงานใหญ่ที่กำลังทยอยรับใน 2H63 เช่นกันก็คืองานโครงข่ายรถไฟ (Strong Project) ซึ่งโครงการนี้น่าจะรับรายได้ประมาณ 167 ลบ. หลังการปรับประมาณการต้นทุนและงบประมาณของโครงการต่างๆใน Backlog แล้วในช่วงที่เหลือของปีอัตรากำไรขั้นต้นจะกลับมาอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น นอกจากนั้นการที่ ALT เข้าไปซื้อบริษัท เอ็นเนอร์จี แน็คซ์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตและหน่ายมิเตอร์ไฟฟ้าระบบอิเล็กทรอนิกส์ จาก ALTH แสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์ของบริษัทที่จะรับงานในกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นนอกเหนือจากกลุ่มโทรคมคมนาคมมากขึ้น เป็นการกระจายพอร์ตรายได้

 

 

สำหรับปี 2563-2565 จะเป็นปีที่บรรดา Operator ผู้ให้บริการมือถือและบรอดแบนด์ต้องมีการลงทุนโครงข่ายทั้ง 4G และ 5G กันอย่างมากโดยเราเห็น CAPEX ของทั้ง ADVANC, DTAC และ TRUE ในช่วงดังกล่าวมีการงบการลงทุนเอาไว้ค่อนข้างสูง ส่วนงานใหม่ที่สำคัญและต้องติดตามข่าวต่อคือ 1) งานโครงการภาครัฐอย่างงานจัดระเบียบสายไฟ (Arial Cable) 2) งานเสา/สถานี Sharing Infrastructure สถานะปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาและต้องรอดูมูลค่าโครงการ

 

 


สำหรับประมาณการกำไรปี 2563-2564 เราประเมินไว้ที่ระดับ 490 ลบ. และ 141 ลบ. พลิกจากขาดทุนในปี 2562 และชะลอตัวลง -71%YoY ในปี 2564 แต่สำหรับกำไรปกติเราประเมินปี 2563-2564 ไว้ที่ระดับ 82.9 ลบ. และ 140.6 ลบ. ตามลำดับ พลิกจากขาดทุนในปี 2563 และเติบโตต่อเนื่อง +70% ในปี 2564 Outlook ของธุรกิจหลักยังอยู่ในทิศทางที่ดี และเรายังต้องติดตามความคืบหน้าของการเข้าไป Bid งานทั้งในอุตสาหกรรมรับเหมาโทรคมนาคมและงานในกลุ่มโรงไฟฟ้าด้วย ซึ่งหากมีการรับงานเข้ามาเพิ่มเติมและมูลงานงานทำให้ Backlog เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเราอาจมีการปรับประมาณการของปีหน้าเพิ่มขึ้นได้ ในส่วนของการประเมินมูลค่าหุ้นเราปรับไปใช้ราคาเป้าหมายของปี 2564 ที่ 4.30 บาท/หุ้น ใช้วิธี Avg P/E ของ Dosmetic Peer 3 ปีย้อนหลัง ที่ระดับ 31.15X และใช้ EPS ของ Norm ปี 2564 มาประเมิน ราคาเป้าหมายมี Upside จากราคาปัจจุบันประมาณ +25% เราจึงแนะนำให้ "ซื้อ"

 

 

 

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

ครึ่งปีแรก By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ วันนี้ ตลาดหุ้นไทย จะสีเขียวแบบไหน เข้ม อ่อน แก่ ปิดตลาด คงรู้กัน แต่บ่ายวันนี้ จับตาแรง....

LEO อัปเดตแผนธุรกิจในงาน mai FORUM 2025

LEO อัปเดตแผนธุรกิจในงาน mai FORUM 2025

มัลติมีเดีย

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้