HotNews : GUNKUL H2/63 สุดแจ่มรับไฮซีซั่น / KUN ส่งซิกครึ่งหลังปี 63 โตสวยตามดีมานต์แนวราบพุ่ง

 

 

 

**GUNKUL ส่งซิก H2/63 โตกว่า H1/63 หลังรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าตปท. พร้อมลุยประมูลงานใหม่ดันผลงานโตแกร่ง***

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (31 สิงหาคม 2563) ดร. สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย  กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยว่า  ภาพรวมธุรกิจครึ่งปีหลังของกลุ่มบริษัทฯ คาดว่าจะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศเวียดนาม จำนวน 2 โครงการ กำลังการผลิตรวม 60 เมกะวัตต์ อีกทั้งยังเป็นช่วงไฮซีซั่นของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม

 

 

นอกจากนี้ยังมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ประเทศมาเลเซีย 1 โครงการ กำลังการผลิต 29.99 เมกะวัตต์ โดยมีสัดส่วนกำลังการผลิตที่บริษัทฯนั้นถือหุ้นอยู่ราว 21 เมกะวัตต์ ซึ่งจะเป็นส่วนที่เข้ามาสนับสนุนให้รายได้ของบริษัทฯเติบโตต่อเนื่อง ด้านความคืบหน้าในการเปิดประมูลโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 1,000 เมกะวัตต์ จำนวน 30 โครงการ นั้น ปัจจุบันบริษัทฯได้มีการยื่นไปทั้งหมด 4 โครงการ กำลังการผลิตรวมประมาณ 150 เมกะวัตต์ โโยบริษัทฯคาดว่าจะได้รับงาน 2 โครงการ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการติดตามผลคาดใช้ระยะเวลาประมาณ 1-2 เดือน

 

 

 

 

 

ในส่วนธุรกิจพลังงานลมไตรมาส3/2563 คาดว่าจะปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังจากพายุไม่ค่อยมีมากเท่าไรนัก ซึ่งต้องติดตามความแรงของลมในช่วงไตรมาส 4/2563 ต่อไป ขณะที่ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง (EPC) เชื่อว่ายังมีโอกาสเติบโตค่อนข้างสูง เนื่องจากทยอยรับงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมียอดขายที่รอรับรู้รายได้หลังจากได้มีการโอนสินค้าแล้ว (Backlog) ราว 8,000 ล้านบาท โดยจะรับรุ้เป็นรายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ 800-1,000 ล้าบาท ส่วนที่เหลือทยอยรับรู้รายได้ถึงปี 2565

 

 

ทั้งนี้บริษัทฯ เชื่อว่าธุรกิจด้านพลังงานทดแทนจะยังคงเติบโตทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ ยังคงเข้าร่วมประมูลงานใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในต่างประเทศ ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตร คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ อย่างน้อย 1 โครงการ รวมถึงเข้าร่วมประมูลโครงการต่างๆ จากภาครัฐ เนื่องจากภายใน 10 ปีนี้ ภาครัฐจะเร่งขยายการสร้างกิจการเกี่ยวกับระบบไฟฟ้า คิดเป็นมูลค่ากว่า 6 แสนล้านบาท

 

 

 

 

 

**KUN มั่นใจ H2/63 ผลงานดีกว่า H1/63 หลังมองภาพรวมธุรกิจอสังหาฯแนวราบดีมานด์โตต่อเนื่อง**

 

นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ KUN เปิดเผยว่า บริษัทฯคาดว่าภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลัง 2563จะดีกว่าครึ่งปีแรก ตามความต้องการสินค้ากลุ่มแนวราบที่ยังคงเติบโตต่อเนื่อง

 

 

สำหรับแผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังนี้ บริษัทจะพยายามแก้รูปแบบโครงการที่มีอยู่ให้ตอบโจทย์ลูกค้าซึ่งมีความต้องการบ้านแฝดมากเป็นพิเศษ จึงมีการพยายามปรับบ้านโฉมใหม่ให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุดโดยยังคงราคาและความสะดวกสบายให้เหมาะสมและไม่สูงจนเกินไป อีกทั้งยังมีการใช้งบลงทุนสำหรับการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายให้เป็นตามเป้าหมายที่วางไว้ ประกอบกับนำเงินลงทุนบางส่วนไปใช่ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ให้ตอบโจทย์ลูกค้าต่อไป

 

 

"สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แนวราบในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทยังมองเห็นดีมานด์ความต้องการบ้านในราคาที่ไม่สูงจนเกินไป ประกอบกับการที่มีคู่แข่งรายใหญ่เกิดขึ้นมามากขึ้นในทำเลที่บริษัทมีสัดส่วนในตลาดมากที่สุด ยิ่งตอกย้ำว่าบริเวณที่บริษัททำธุรกิจนั้นมีความต้องการและเป็นจุดที่ดีที่น่าอยู่ โดยในปี2563 บริษัทคาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้มาจากสินค้าในพื้นที่จ.นนทบุรี 85% และพื้นที่อื่นๆ15%"นางประวีรัตน์ กล่าว

 

 

 

 

ขณะที่บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายรายได้รวมทั้งปี 2563 จะเติบโตเป็นเลข 2 หลัก หรือไม่ต่ำกว่า15%จากปีก่อนที่มีรายได้ 652.67 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 56.31 ล้านบาท ส่วนยอดขาย(Presale)ในปี2563 คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 1.3 พันล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้บริษัทฯสามารถทำได้แล้ว 58% ของสัดส่วน1.3พันลบ. หรือ759ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถทำยอดขายได้ใน H2/2563 ไม่ต่ำกว่า 750 ล้านบาท

 

 

โดยในปีนี้บริษัทฯ ได้เปิดโครงการใหม่จำนวน 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 2,341 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการ คุณาลัย บีกินส์ 2 ซึ่งเป็นโครงการประเภททาวน์โฮม รวม 363 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 826 ล้านบาท ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2.28ล้านบาท/หลัง ซึ่งเจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นหนุ่มสาวเริ่มมีบ้านหลังแรก ซึ่งโครงการนี้ได้เริ่มทยอยรับรู้รายได้แล้วในตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

 

 

และ 2. โครงการคุณาลัย พรีม ซึ่งเป็นโครงการประเภทบ้านแฝด-บ้านเดี่ยว 2 ชั้น รวม 411 ยูนิต ที่มาทดแทนโครงการคุณาลัย จอย มุ่งเน้นฐานลูกค้าที่อยู่บ้านเป็นครอบครัวใหญ่ที่เริ่มมีสมาชิกเพิ่มมากขึ้น ซึ่งมีมูลค่าโครงการประมาณ 1,500 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 3.65 ล้านบาท/หลัง ซึ่งบริษัทจะทยอยโอนบ้านหลังแรกให้ได้ภายในไตรมาสที่ 3/63 ด้านสถานการณ์โควิด-19ที่ยังต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด บริษัทมีความกังวลว่าอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจต่อไปซึ่งจะมีผลต่อยอดปฏิเสธสินเชื่อ (Reject Rate)ที่เพิ่มขึ้น โดยบริษัทได้มีการวางตัวเลข Reject Rateไว้ไม่เกิน 20% และหากกรณีรุนแรงมากที่ยอด Reject Rate แตะ50% บริษัทก็ยังไปต่อได้จากยอดพรีเซลล์ที่คาดว่าจะโตต่อเนื่อง