รายงานพิเศษ : เปิดขุมทรัพย์ใหม่ AJA
สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 30 ตุลาคม 2560 ) --------บริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AJA ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ภายใต้แบรนด์ “AJ” หรือที่ชื่อคุ้นหูในนาม “พระเอกตัวจริง” หลังจากปรับโครงสร้างหนี้และโครงสร้างทุนของ บริษัท เวนดิ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (VDC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย โดยลดสัดส่วนการถือหุ้นลงจาก 60.08% เหลือเพียง 17.67% ซึ่งถือเป็น “จุดเปลี่ยน” ที่สำคัญของ AJA
และถือเป็นก้าวใหม่ในวันนี้...เพื่ออนาคตสดในวันหน้า เพราะถัดจากปรากฎการณ์ดังกล่าว AJA ได้มีมติจัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ คือ “บริษัท ไรเซน เอนเนอร์จี จำกัด” เพื่อประกอบธุรกิจการนำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า (EV : Electric Vehicle) ติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (Charging Station) และธุรกิจโรงงานผลิต แบตเตอรี่ และโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า โดยใช้ตรายี่ห้อ “BYD” จากประเทศจีน โดยมีทุนจดทะเบียนเริ่มต้นจำนวน 50 ล้านบาท ซึ่ง AJA จะถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 45
เรียกได้ว่าการลงทุนรอบนี้ของ AJA ถือเป็นการจับเทรนด์ตลาดโลก เพราะทั่วทุกมุมโลกกำลังเปลี่ยนผ่านการใช้พลังงานน้ำมันมาเป็น “พลังงานไฟฟ้า” ซึ่งนอกจากจะช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงลงแล้ว ยังจะสามารถช่วยให้สภาวะแวดล้อมของโลกดีขึ้น
โดยจะเริ่มเปิดฉากในเดือนพฤศจิกายน 2560 ซึ่งบริษัทฯได้ทำบันทึกความร่วมมือกับ BYD Auto Industry Co.,Ltd. (BYD) สาระสำคัญหลักๆ คือ 1. AJA ได้สิทธิเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าของ BYD ในประเทศไทย 2. AJA และ BYD จะทำข้อตกลงร่วมกันในการตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ หรือโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย หลังจากได้รับใบอนุญาตการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และ 3. กรณีที่ BYD จะมีธุรกิจใหม่ใดๆ ในประเทศไทยจะให้สิทธิ AJA เป็นรายแรกระยะเวลาของสัญญาให้ปฏิบัติต่อกันภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ 8 มิถุนายน 2560 เมื่อปฏิบัติแล้วก็จะผูกพันกันตามลักษณะทางธุรกิจและนิติกรรมหรือข้อตกลงที่จะทำกันต่อไป ซึ่งหลังจากที่ได้ลงนามสัญญาบริษัทได้ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและเมื่อมีความพร้อมมากขึ้นจึงได้เริ่มดำเนินธุรกิจ โดยคาดว่าจะได้เริ่มดำเนินการขอ BOI ในปลายไตรมาส 4 ปี 2560
การลงทุนครั้งนี้ของ AJA มากับกลุ่มพันธมิตรที่แข็งแกร่ง คือ บริษัท ชาริช โฮลดิ้ง จำกัด และนายนัยสันต์ จันทรศรี นอกจากนี้ ยังมีนายอภิชาติ ลีนุตพงษ์ และรณชัย จินวัฒนาภรณ์ ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจยานยนต์รายใหญ่ในเมืองไทยหรือรู้จักกันในนาม "ยนตรกิจ"
เห็นจากรายชื่อผู้ถือหุ้นแล้วก็สบายใจหายห่วง เพราะการันตีได้ถึงประสบการณ์ในกลุ่มธุรกิจยานยนต์ ที่จะทำให้การจับมือกันครั้งนี้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ได้คงไม่ใช่เรื่องยาก
ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจของผู้บริหารคนนี้ “ดร.อมร มีมะโน” ที่ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคใดๆ และไม่หยุดนิ่งในการมองหาโอกาสและศึกษาธุรกิจใหม่ๆที่จะสร้างการเติบโตให้ AJA กลับขึ้นมาผงาดอีกครั้ง ทำให้เชื่อมั่นว่า ในอนาคตธุรกิจใหม่นี้ คงก้าวขึ้นมาเป็น “พระเอกตัวจริง” ที่สร้างรายได้และกำไรให้กับ AJA ได้เป็นกอบเป็นกำอย่างแน่นอน
---จบ---
By:ศิลปินหุ้น