Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

สัมภาษณ์/รายงานพิเศษ

สัมภาษณ์พิเศษ : CHO กางแผน Road Map

3,061

 

 

 

สัมภาษณ์พิเศษ  :  CHO  กางแผน Road Map

                "สุรเดช  ทวีแสงสกุลไทย" บิ๊ก CHO กางแผน  Road Map  ปักธงธุรกิจโตยั่งยืนในช่วง10 ปีจากนี้ คาดจัดทำแผนงานเสร็จธันวาคมนี้  ระบุจะรักษาระดับการเติบโตของรายได้ให้เติบโตปีละ 15-20%  แถมเน้นองค์ความรู้ของพนักงานในองค์กร  ขยายฐานลูกค้าใน-นอก  ดันสัดส่วนรายได้ให้สมดุล  พร้อมศึกษาพัฒนาหุ่นยนต์ ออกขายเชิงพาณิชย์ คาดได้เห็นตัวแรกโลดแล่น ปลายQ1- ต้นQ2  ปี57  

 

***เป้าหมายรายได้ปีนี้มั่นใจว่าจะเข้าเป้าหรือไม่ ***

                บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 20%  ซึ่งเท่าที่ดูตอนนี้ยังเป็นไปตามแผน โดยรายได้จากมาจาก 3  ส่วน ส่วนแรกเป็นกลุ่มสินค้าผลิตภัณฑ์มาตรฐานที่ยังได้ออเดอร์ต่อเนื่องมา โลจิสติกส์ในประเทศไทยยังมีการขยายตัวบริษัทขนาดใหญ่ก็ยังสั่งออเดอร์เข้ามา เป็นจำนวนมาก แล้วก็ผลิตภัณฑ์พิเศษพระเอกของเราคือรถ Catering ก็ยังมีออเดอร์ต่อเนื่องมา นอกจากนี้ยังมีออเดอร์เพิ่มของตู้ที่เป็นอลูมิเนียมไฮเซนไทน์ ที่เราได้ออเดอร์จากลูกค้าในสิงคโปร์ที่มีการสั่งซ้ำ ส่วนงานด้านการบริการการรับบริหารโครงการ เดิมปีที่แล้วอาจจะดูด็อบลงไปเนื่องจากว่าโครงการของ OPV ใกล้เสร็จทำให้การรับรู้รายได้ลดลง แต่บริษัทฯ ก็มีรายได้เพิ่มจากการไปทำให้ลินฟ๊อก และโลตัสซึ่งไตรมาส1-2  ตัวเลขไม่เยอะมาก แต่ว่าไตรมาส3  เริ่มเข้ามาได้ตามแผน

 

 

***ความคืบหน้าโครงการที่จะเข้าไปประมูล ***

                สำหรับโครงการรถเมล์ NGV  ของขสมก.  ตอนนี้มีความชัดเจนแล้วหลังจากทางรัฐบาลและ ขสมก. ประกาศโปรเจ็คส์ ออกมาแล้วว่าภายในสิ้นปีนี้จะขายซอง แล้วก็จะมีการประมูลงานในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ซึ่งเปอเซนต์ที่เราจะได้งานคาดว่ามีโอกาสได้สูง  โดย ขสมก. จะมีรถอยู่  3,000  กว่าคันแบ่งเป็นรถร้อนกับรถติดแอร์ และบริษัทฯ มองว่ารถติดแอร์เป็นงานที่บริษัทฯ มีความชำนาญแล้วก็เหมาะกับเรา บริษัทฯ ก็จะเข้าไปในส่วนของรถติดแอร์ จำนวนรถน่าจะ 1-2  สาย คิดว่าน่าจะประมาณ  500  คัน ขณะที่มีผู้ที่จะประมูลในส่วนของรถร้อนได้มาเจรจากับบริษัทฯ  จะขอให้โรงงานบริษัทฯ เป็นฐานการผลิตให้ เพราะเขาต้องเอาโรงงานไปเสนอในการที่จะเข้าไปประมูล โดยตัวเลขที่ชัดเจนเรายังไม่ได้คุยกันในรายละเอียด เพราะอยากจะโฟกัสที่ออเดอร์ของเราก่อน ถ้ากำลังการผลิตที่บริษัทฯ สามารถจะเพิ่มได้ก็จะรับของเขามา

 

 

***นอกจากโครงการรถเมล์ ขสมก.  ที่บริษัทฯ จะเข้าประมูลมีโครงการอื่นๆ อีกหรือไม่ที่จะเข้าประมูล***

                 บริษัทฯ ได้มีการทบทวนในหลายโครงการ อย่างของโครงการของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ถ้ามีการเปิดประมูลบริษัทฯ สามารถทำได้ก็พร้อมจะเข้าประมูล แล้วก็ในส่วนของรถบริการในสายการบิน ต้นทุนต่ำ( Low Cost )  ที่มองว่าตอนนี้มีออกมาค่อนข้างเยอะส่วนใหญ่จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ  Support  ในกลุ่มอุปกรณ์ตรงนี้บริษัทฯ ก็จะไปพัฒนาแล้วก็ทำสินค้าในกลุ่มนี้ออกมา 

                ทั้งนี้บริษัทฯ ยังมองว่าหลาย ๆ ผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ ทำยังมีช่องทางในตลาดที่จะเข้าได้ ยกตัวอย่างเช่น เรื่องตู้ไฟเบอร์ ตอนนี้บริษัทฯ ยังไม่ได้เข้าไปในตลาดของรถเล็กหรือรถ 4 ล้อเลย โดยถ้าบริษัทฯ มีการพัฒนาเรื่องต้นทุน เรื่องเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับทางตลาดนี้มองว่าตลาดนี้ก็เป็นตลาดใหญ่

 

***แผนธุรกิจปีหน้า ***

                ปีหน้าบริษัทฯ วางแผนแบบอนุรักษ์นิยม บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโต 15-20%  โดยยังไม่ได้รวมโปรเจ็คส์ใหญ่ๆ ที่บริษัทฯ จะได้  ทั้งงานรถเมล์  NGV  มูลค่า  2,000  ล้านบาท ตรงนี้มองว่าเป็นโอกาสที่ดีของบริษัทฯ และหลายๆ เรื่องก็มองว่าบริษัทฯ มีโอกาสสดใส ในการที่จะทำ อย่างเรื่องรถพ่วงที่ปกติเราจะทำรถมาตรฐาน บริษัทฯ จะพยามพัฒนาให้เป็นอีกแบบหนึ่ง คือเป็นรถมาตรฐานที่เข้าไปอยู่ในกลุ่มพรีเมี่ยม ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าจะทำตลาดในส่วนี้ได้ดี  ทำให้ปีหน้าจะเป็นปีที่ดีของ  CHO  ซึ่งเราได้วางแผนการเติบโตในอีก  10  ปีข้างหน้า ตอนนี้ฝ่ายบริหารก็กำลังทำเวิร์คช็อป คาดว่าปลลายปีนี้จะเสนอแผนให้ทางผู้ถือหุ้นและสื่อมวลชนได้รับทราบได้

 

               

***แผน Road Map จะทำให้  CHO  เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ***

 

แผน จัดทำแผนพัฒนาตามแผนยุทธศาสตร์(Road Map) ที่บริษัทฯ วางไว้จะวางล่วงหน้าไว้เป็น 10  ปีบริษัทฯ จะเอาโอกาสและเรื่องต่างๆ ที่บริษัทฯ วางแผนไว้มาเรียงลำดับความสำคัญ แล้วก็กำหนดว่าปีที่  1  บริษัทฯ จะทำอะไรปีที่  2 ปีที่  3  จะทำอะไร ซึ่งส่วนใหญ่บริษัทฯ จะเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการขยายตลาด ปีหน้าบริษัทฯ จะเน้นในเรื่องขององค์ความรู้ทั้งส่วนบริหารและพนักงานในองค์กร ที่ผ่านมาพนักงานเรามีองค์ความารู้เพราะบริษัทฯ  มีการถ่ายทอดเทคโนโลยี ซึ่งบริษัทฯ พบว่าพนักงานจะมีความรู้เฉพาะในส่วนงานของตัวเอง อย่างเช่นฝ่ายผลิตก็จะรู้เฉพาะในส่วนของงานฝ่ายผลิต อาจจะไม่รู้ในเรื่องของการตลาด เรื่องการเงิน ซึ่งบริษัทฯ จะเพิ่มพูนความรู้ทางด้านนี้ให้กับพนักงาน โดยปีหน้าจะเห็นการพัฒนาด้านองค์ความรู้ให้กับพนักงานก่อน  รวมทั้งบริษัทฯ จะรักษาระดับการเติบโตของรายได้ให้เติบโตปีละ 15-20% 

 

 

***บริษัทฯ ได้มีการวางงบประมาณการลงทุนในส่วนนี้หรือไม่***

                เรื่องงบประมาณตัวเลขยังไม่ได้ออกมาชัดเจน บริษัทฯ กำลังจัดทำแผนในส่วนนี้อยู่ โดยการทำเวิร์คช็อปบริษัทฯ  กำหนดเอาไว้ทั้งหมด  4  ครั้งตอนนี้ผ่านไปแล้ว  2  ครั้ง ครั้งที่  3  จะจัดในช่วงสิ้นเดือนนี้ และอีกครั้งหนึ่งที่จะสรุปผลก็คือกลางเดือน ธันวาคมนี้ เพราะฉะนั้นโรดแม็ป  10  ปีก็จะออกมาราวปลายเดือนธันวาคม  โดยหลังจากที่แผนRoad Map ออกมาแล้ว บริษัทฯ มองว่าการเปลี่ยนแปลงอาจจะไม่ได้เป็นแบบพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ บริษัทฯ ต้องการก้าวแบบค่อยเป็นค่อยไปมากกว่า แล้วก็เติบโตอย่างยั่งยืน และจะได้เห็นในเรื่องว่าบริษัทฯ จะมีการพัฒนาและขยายตลาดในกลุ่มไหน แล้วก็แนวทางที่จะดำเนินการจะเป็นอย่างไร

 

 

***ในปี 57  จะเห็นการทำกำไรของ  CHO  อย่างไร***

                ปีหน้าบริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโต   15-20%  และบริษัทฯ ตั้งเป้าอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 5%  มาจากข้อแรกคือในส่วนของยอดขาย การขยายตลาดในหลายๆ ส่วนงานบริษัทฯ ก็จะขยาย ส่วนที่2  คือเรื่องต้นทุนบริษัทฯ มีการบริหารจัดการเรื่องต้นทุนที่ต่อเนื่องมาตลอด โดย  2  ปีกว่าแล้วที่บริษัทฯ  ควบคุมต้นทุนแบบงานต่องาน ซึ่งทำให้เห็นว่ามีจุดไหนที่บริษัทฯ ต้องปรับปรุง  ต่อมาคือเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหลาย บริษัทฯ ได้มีการตั้งงบประมาณค่าใช้จ่าย เพื่อควบคุม ซึ่งหากยอดขายของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นแต่ต้นทุนในการผลิตบริษัทฯ ยังสามารถจัดการได้  ต้นทุนคงที่ ที่มีอยู่จะถูกถัวเฉลี่ยไปด้วยยอดรายได้ ฉะนั้น Net น่าจะเพิ่มขึ้นได้ไม่ยากมาก

 

***ความคืบหน้าของการผลิตหุ่นยนต์ และเงินลงทุนที่ใช้ ***

                การพัฒนาหุ่นยนต์บริษัทฯ ไม่ได้เริ่มจากศูนย์ บริษัทฯ ได้ต่อยอดมาจากอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ในการผลิตเรื่องหุ่นยนต์ ซึ่งพัฒนาออกมาจนอยากจะทำในเชิงพาณิขย์ ถึงได้มาคุยกับทางบริษัทฯ  เพราะเขามองว่าเขาเป็นนักวิชาการ ทำเชิงพาณิชย์อาจจะไม่ดี  ตอนนี้เงินลงทุนที่บริษัทฯ ลงไปในการทำหุ่นยนต์ บริษัทฯ จะมีสัญญาการวิจัยวงเงิน  5  ล้านบาท ตอนนี้จ่ายเงินไปประมาณ 2.5  ล้านบาท ตัวอุปกรณ์อ่ะไหล่ที่จ่ายเงินไปยังไม่เยอะมาก  แต่บริษัทฯ มองว่าโปรเจ็คส์นี้ ถ้าสำเร็จไม่น่าจะใช้เกิน  30  ล้านบาท  หุ่นยนต์ที่บริษัทฯ จะพัฒนาจะใช้ตาเป็นตัวเซ็นเซอร์

 

 

***จะได้เห็นหุ่นยนต์ตัวแรกของ  CHO  เมื่อไหร่***

                 ตัวแรกคาดว่าจะได้เห็นปลายไตรมาส1 หรือต้นไตรมาส2  ปีหน้า โดยจะเป็นหุ่นที่พร้อมใช้งาน แต่อาจจะยังไม่100%  แต่บริษัทฯ จะนำมาใช้งานในบริษัทฯ ก่อน นำมาทดสอบภายในบริษัทฯ และนำมาช่วยงานในจุดที่ต้องการกำลังคนตรงนั้นจนมั่นใจว่าประสบความสำเร็จไม่ มีปัญหาแล้วถึงจะทำในเชิงพาณิชย์ ซึ่งมองว่ากว่าจะถึงจุดนั้นได้คงต้องใช้เวลสัก 2-3  ปี

 

 

***หุ่นยนต์จะเป็นสิ่งหนึ่งที่สร้างรายได้ให้ CHO  ในอนาคตหรือไม่***

                บริษัทฯ ไม่ได้มองว่าผลิตภัณฑ์หุ่นยนต์จะเป็นเมนหลักที่สร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ  แต่มองว่าการพัฒนาตัวนี้จะเป็นสิ่งที่ทำให้ช่วยลดต้นทุนในโรงงานของเรา และสร้างความมั่นคงในแผนการผลิต ส่วนการทำเชิงพาณิชย์บริษัทฯ มองว่าเป็นการช่วยสังคมอีกทางหนึ่งเพราะว่าถ้าบริษัทฯ พัฒนาหุ่นยนต์แล้วสามารถทำได้ จะช่วยสังคมได้ในรูปแบบช่วยบริษัท SME ที่มีเงินทุนไม่มากที่จะซื้อหุ่นยนต์ที่แพง ๆ  แล้วก็ต้องมีวิศวกรมาควบคุมใช้งานจะมีโอกาสได้ใช้หุ่นยนต์มาช่วยงานได้ ไม่ต้องหาแรงงานต่างชาติ บริษัทฯ จะมองในส่วนนี้มากกว่า ส่วนเรื่องการขายและได้กำไรมาบริษัทฯ ถือว่าเป็นผลพลอยได้มากกว่า

                จริงๆ แล้วบริษัทฯ คิดว่าตัวรถ Catering เป็นกึ่งหุ่นยนต์แล้วนะ  เพราะว่าไม่ใช่แค่รถ ในนั้นจะมีตัวควบคุมเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นเซ็นเซอร์ การควบคุมอุณหภูมิที่จะมีการปรับไปในตัว เรื่องของเซ็นเซอร์เวลาที่เข้าไปใกล้จุดอันตรายทุกอย่างจะถูกปิดหมด

 

 

 

***หลังเข้าตลาดฯ มีอะไรเปลี่ยนแปลงกับ CHOบ้าง ***

                สื่งที่เห็นได้ชัดคือเรื่องการเงิน  CHO  เองได้รับโอกาสคือเข้าตลาดแล้วได้เงินทุนเพิ่มขึ้นมา จากอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ที่ดีขึ้นทำให้สถาบันทางการเงินก็สนใจบริษัทฯ มีการเพิ่มวงเงินเพิ่มเติมให้  และสภาพคล่องในการดำเนินงานก็ดีขึ้นทำให้บริษัทฯ มีโอกาสในการที่จะรับงานมากขึ้น

                " บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะดำเนนธุรกิจ และก็มีความโปร่งใสอยากที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์อยากจะเป็นจุดแข็งของประเทศชาติ หลายๆ เรื่องบริษัทฯ ได้รับการถ่ายทอดเรื่องเทคโนโลยีเข้ามา ซึ่งบริษัทฯ นำมาเป็นประโยชน์ให้กับบริษัทฯ เองและประเทศชาติด้วย คิดว่านักลงทุนจะเห็นการเติบโตของบริษัทฯ และเห็นความมุ่งมั่นของฝ่ายบริหาร และหวังว่าจะสนับสนุนบริษัทฯ ต่อไป " นายสุรเดช กล่าว

---จบ---


 

บทความล่าสุด

ความหวัง By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดหุ้นไทย เขียวสดใส แรงซื้อหุ้นบิ๊ก แคป หนุนนำ ท่ามกลางนักลงทุน ลุ้นผลเจรจาภาษีระหว่าง..

ATLAS โชว์ศักยภาพผู้นำตลาด LPG ร่วมเวทีเสวนาสร้างธุรกิจยั่งยืนก่อนเข้า SET

ATLAS โชว์ศักยภาพผู้นำตลาด LPG ร่วมเวทีเสวนาสร้างธุรกิจยั่งยืนก่อนเข้า SET

มัลติมีเดีย

TMILL วางกลยุทธ์ ขยายตลาดควบคู่เน้นบริหารต้นทุน ดันมาร์จิ้นสดใส

TMILL วางกลยุทธ์ ขยายตลาดควบคู่เน้นบริหารต้นทุน ดันมาร์จิ้นสดใส

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้