Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

สัมภาษณ์/รายงานพิเศษ

คัมภีร์หุ้น By ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ : ที่ด่าน 1200จุด และฉากจบวิกฤตม็อบการเมือง กลยุทธ์ต่อหุ้นใหญ่ใน SET50 และหุ้นท่องเที่ยว&ชิ้นส่วน

3,721

 

By ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ เลขที่ใบอนุญาต 12888
บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษการลงทุนต้นธารคอร์ปอเรชั่น
(ก่อตั้งพศ.2540 อยู่ใต้การกำกับกลต.)

 

 

ก.สถานการณม็อบกับตลาดหุ้น-สถานการณ์วิกฤตม็อบดูคลายความตึงเครียดลง มีการให้ประกันตัวผู้ถูกจับกุมราว 22 คน หรือราวครึ่งหนึ่งของแกนนำที่ถูกจับไป วันนี้ครม.จะมีมติว่าให้เปิดสภาวิสามัญเพื่อแก้รธน.หรือไม่ ขณะที่ม็อบยังคงยืนยันข้อเรียกนร้องเดิมและขอให้ปล่อยตัวผู้ถูกจับ

 

1.โมเดลของวิกฤตม็อบการเมืองต่อตลาดหุ้น-ร่วงแรงก่อนจบวิกฤต แต่ 2ปีหลังเหตุการณ์ขึ้นยาวและแรงมากถึง 3เท่าตัว

 

เคยมีวิกฤตม็อบการเมืองที่มีผลต่อตลาดหุ้นไทยที่สำคัญ 6 ครั้ง มีโมเดลดังนี้

 

ครั้งแรก เหตุการณ์ 6ตุลาคม2519 จากเริ่มม็อบถึงวันพีค (สลายการชุมนุม+รัฐประหาร) หุ้นตกราว25% จาก100 ลงไป 75จุด-->อีก 2ปีต่อมาขึ้นไป 265จุด หรือขึ้นไป 3เท่าเศษ

 

ครั้งที2 เหตุการณ์ 17 พฤษภา 2535 จากเริ่มม็อบถึงวันพีค (ร.9หย่าศึก+ตั้งรัฐบาลเฉพาะกิจ+เลือกตั้งใหม่) หุ้นตกราว 20% จาก 850ลงไป 650จุด-->อีก 2ปีต่อมาขึ้นไป 1789จุด หรือราว 3เท่าจากจุดต่ำสุด

 

ครั้งที่3 เหตุการณ์ม็อบพันธมิตรปี 2549-2551 จากวันม็อบถึงพีค (รัฐประหาร19กันยา/ศาลสั่งยุบพรรครัฐบาล/ย้ายขั้วตั้งรัฐบาลใหม่) ตกมากกว่า 50%จาก 900จุดลงไป 400จุด เพราะเจอวิกฤต Hamburger ซ้ำเติม-->อีก 2ปีต่อมาขึ้นไป 1,100จุด หรือเกือบ 3เท่าตัว

 

ครั้งที่4 เหตุการณ์ม็อบเสื้อแดงปี 2553 จากวันม็อบถึงพีค (สลายการชุมนุม/จับแกนนำ) หุ้นตกราว 12%จาก 820ลงมา 720จุด==>อีก 2ปีต่อมาขึ้นไป 1650จุด ขึ้นไปราว 2เท่าเศษ

 

ครั้งที่ 5 เหตุการณ์ม็อบกปปส.ปี 2557จากวันม็อบถึงวันพีค (รัฐประหารพฤษภาคม2557) หุ้นตกราว 25%จาก 1650ลงมา 1205จุด==> 2ปีต่อมาขึ้นไป 1850จุด หรือบวกราว 50%

 

ครั้งที่6 เหตุการณ์ม็อบปลดแอกคณะราษฎร 2563 จากวันม็อบถึงวันพีค (สลายการชุมนุม/จับแกนนำ/....) หุ้นตกมาตอนนี้ราว 13% จาก 1390จุดลงมาล่าสุดที่ 1208จุด==>อีก 2ปีข้างหน้า...?

 

 

2.ฉากจำลองตอนจบของวิกฤตม็อบการเมือง

 

สำหรับฉากจบของการชุมนุมในอดีต 5ครั้งสำคัญที่ผ่านมา สรุปได้ดังนี้

 

*รัฐประหารยึดอำนาจเพื่อจัดระเบียบใหม่ 3 ครั้ง (6ตุลา19/19กันยา49//พฤษภาคม57)

 

*สลายการชุมนุมจับแกนนำ 2ครั้ง (6ตุลา19/พฤษภา53)

 

*เจรจาและยุติศึกและจัดระเบียบใหม่+ตุลาการภิวัฒน์ 2 ครั้ง(พฤษภา35 และธันวาคม2551)

 

*ส่วนครั้งล่าสุดนี้ผมมองว่า มีโอกาสเป็นไปได้หลายทาง คือ ทางเลือกแรก จับกุมแกนนำ+สลายการชุมนุม-ซึ่งรัฐบาลได้ทำมาแล้ว 2หนคือ 14ตุลาคมหน้าทำเนียบรัฐบาลและ 16ตุลาคมที่แยกราชประสงค์ แต่ม็อบไม่ยุติ แต่เปลี่ยนแผนเป็นดาวกระจาย ชุมนุมทั่วประเทศ ไม่ต้องมีแกนนำแทน และยังจะยืดเยื้อต่อไป

 

*การรัฐประหารยึดอำนาจ-ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าจะยุติม็อบได้ เพราะการรัฐประหารทุกคราวที่ผ่านมานั้นปราศจากการต่อต้าน แต่ในคราวนี้พวกกลุ่มผู้ชุมนุมประกาศว่าจะพากันต่อต้านขนานใหญ่ ทำให้อาจจะไม่ทางออก

 

*การเจรจา รอมชอม หรือแนวทางแบบพฤษภา 35หรือตุลาการภิวัฒน์ หรือการลาออกของพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อจัดรัฐบาลใหม่ หรือแก้ไขรธน. เปลี่ยนตัวนายกฯ ก็อาจเป็นทางออกนำมาใช้ ...ผมเริ่มให้น้ำหนักในทางเลือกนี้มากขึ้น เพราะทางเลือกแรกไม่เป็นผล ทางเลือกสองอาจเผชิญการต่อต้านไม่ว่าจะมีฉากจบอย่างไร ผลต่อตลาดหุ้นก็คือ

 

*หากเรื่องยุติ ไม่ว่าแบบใดก็ตาม ตลาดหุ้นก็จะลงจบและฟื้นตัวได้ไว และตามสถิติก็อาจขึ้นไปได้ตั้งแต่ 50%ถึง 300%

 

*หากเรื่องยังไม่ยุติ ก็จะเป็นปัจจัยเสี่ยงการเมืองกดดันต่อตลาด หากสถานการณ์พัฒนาไปในทางเลวร้ายลง เช่น การปรัะกาศกฎอัยการศึก หรือประกาศใช้เคอร์ฟิว ก็จะกระทบต่อตลาดต่อเนื่อง หลังจากที่ได้ลงมาจากข่าวม็อบแล้ว 13% (สถิติในอดีตลงมาระหว่าง 12ถึง 50%)

 

 

ดูคลิปที่ผมพูดเรื่องนี้ไว้

 

 

 

 

ข.อื่นๆ-ดาวโจนส์เมื่อคืนติดลบแรง-410จุด (-1.44%) วันนี้ดาวฟิวเจอร์ฟื้นบวก หุ้นเอเชียลบเล็กน้อย

 

-แบงก์จะทยอยประกาศงบไตรมาส 3ในสัปดาห์นี้ คาดกำไรลดลงเฉลี่ย 40% แบงก์ใหญ่ KBANK นักวิเคราะห์คาดลดลง 60%   SCB 50%   BBL 42% ก็ดูตามจะมากหรือน้อยกว่าคาดนะครับ

 

ค.แนวโน้มและกลยุทธ์การลงทุน- SET ยังคงแกว่งตัวลงในแนวโน้ม Saideway down ต่อไป จากที่เคยแกว่งตัวลงมาแล้ว 4เดือน โดยทรงกับทรุดทำฐานต่ำลงมาเรื่อยๆ และขึ้นไป ไม่ทำนิวไฮ (2สัปดาห์ก่อนทำ new highได้ครั้งแรกในรอบ 4เดือน แต่ท้ายสัปดาห์ก่อน ก็ fail ลงทำ new low อีกในสัปดาห์นี้)

 

โดยฐานของสัปดาห์นี้จะอยู่บริเวณ 1200-1210 โดยประมาณ ซึ่งทิศทางจะเป็นดังนี้

 

แบบแรก-ลงมาไม่ต่ำกว่ากรอบล่างราวๆ 1200-1210 แล้วก็ฟื้นขึ้นไปมีแนวต้านกรอบบนราวๆ 1250-1265 หากขึ้นไปไม่เกินไฮเก่า1282 ก็แกว่งตัวลงตามแนวโน้มเดิม

 

แบบที่สอง-เกิด panic sell ลงมาลึกกว่า 1210 หรือหลุดแนวรับจิตวิทยาและแนวรับ downtrend channel บริเวณ 1200 ก็มีความเสี่ยงลงไปยาวๆลึกๆเขต 1150-1130 จุดได้ต่อไป อย่างไรก็ตามมีข้อสังเกตว่า ตบาดลงเที่ยวนี้ หุ้นใหญ่ในSET50ลงมามากกว่าหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก สังเกตจากSETรวมนั้นอเพิอ่งลงมาเขตกลางทาง หรือ 50% Fibonacci แต่หุ้นใหญ่ใน SET50 ลงไปถึงเขต 2ใน 3Fibonacci แล้ว ก็คือบริเวณแถวๆ 860-845 จุดในภาพ

 

ประเด็นทางเทคนิคคือ หากหุ้นใหญ่ใน SET50 ร่วงต่อหลุดด่านสุดท้ายราวๆ 750 จุด นี้ก็จะลงต่อเนื่อง ฉุดเอาตลาดลงหลุด 1200ลงไป แต่ทางตรงกันข้ามหากหยุดลงเขตนี้แล้เวฟื้นขึ้น ก็จะนำ SET ฟื้นด้วย

 

 

3.ทางเลือกและกลยุทธ์ ให้เหมาะสมกับนักลงทุนแต่ละประเภท เป็นดังนี้

 

ก.หากตัวเราเป็นนักลงทุนแนวเทรดเดอร์ เล่นเก็งกำไร เล่นเป็นรอบ

 

*หากตลาดยืนเหนือกรอบล่าง 1200-1210 ก็ให้ถือหุ้น หรือซื้อหุ้น ไปรอขายช่วงฟื้นไปกรอบบน 1250-1265 ไม่เกิน 1280 ยกเว้นหากผ่านกรอบบน 1280 และทำฐานยกสูงขึ้น ก็ให้ถือต่อ

*หากหลุดต่ำกว่าแนวรับด่านสุดท้ายนี้ (1200-1210+/- ) ก็ ทำดังนี้

 

-ให้หยุดซื้อ เพราะเสี่ยงลงไปต่อไปเขต 1150-1130 จุดต่อไป
-ขายรักษาทุน อาจจะรอรีบาวนด์ขายก็ได้ หรือขาย Short Against Port ลงไปก็ได้ และเมื่อขายแล้วอย่าคันมือรีบช้อนซื้อคืนเกินไป ให้มันลงไปจบและเกิดสัญญาณฟื้นตัวก่อน
-ขายเพื่อเล่นหากำไรขาลง

 

ข.หากเรานักลงทุนแนว VI หรือนักลงทุนยาวที่ไม่ได้สนใจกับความผันผวนของตลาด


*หากยืนเหนือกรอบล่าง 1200-1210+/- ได้ก็ถือหุ้น หรือซื้อหุ้นเพิ่มเมื่อทำฐานยกสูงขึ้นกว่าฐานก่อน แล้วก็ถือยาวไป
*หากหลุดต่ำกว่าแนวรับด่านสุดท้าย ก็..
-ให้หยุดซื้อก่อน เพราะเสี่ยงลงไปต่อ 1150-1130 จุดต่อไป จะได้ซื้อในราคาที่ต้นทุนต่ำกว่านี้ ให้มันลงไปจบและเกิดสัญญาณฟื้นตัวก่อน ค่อยซื้อเพิ่มเพื่อถือยาว
-ที่มีอยู่ หรือติดไว้ ก็ถือลงทุนไป เพราะในระยะกลางยาว 5 ปีขึ้นไป หากเราถือได้ยาวพอ และหุ้นเราเป็นหุ้นดี มันก็จะขึ้นบ้างลงบ้างผันผวนแบบนี้ แต่ในที่สุดจะได้รับผลตอบเฉลี่ย 12.8%/ปี โดยประมาณ

 

ค.หากเราเป็นนักลงทุนแนว Contrariants ที่ใช้กลยุทธ์ Creative Destruction ที่ผมชวนซื้อหุ้นลงทุนไว้ โดยเฉพาะพวกหุ้นท่องเที่ยว โรงแรม และการบิน - ผมก็อยากย้ำว่าผมมีมุมมองและไอเดียการลงทุนตามเดิมคือ"หาโอกาสซื้อหุ้นที่ดี รอดพ้นจากวิกฤตการณ์และเมื่อวิกฤตผ่านพ้นไปจะกลับมาฟื้นตัวโดดเด่น และจะเติบโตกว่าก่อนวิกฤต ราคาหุ้นในระยะ1หรือ2ปีขึ้นไปจะปรับตัวขึ้นโดดเด่น"


-หากทำฐานยกสูงขึ้นกว่าฐาน low เก่าทำไว้ 1200-1210+/- หรือรอไปผ่านกรอบไฮเก่า 1282 ก็ให้ซื้อเพิ่ม
-กรณีหลุดลึกกว่า 1200-1210+/-ลงไป ก็ให้หยุดซื้อไว้ก่อน เพราะตลาดจะลงต่อ จะได้ต้นทุนดีกว่านี้ครับ

 

 

4.อัพเดตหุ้นท่องเที่ยวในสถานการณ์วิกฤตการเมืองซ้ำเติม COVID-19 และหุ้นชิ้นส่วนฯที่ขึ้นมาแรง

 

ราคาหุ้นอุตสาหกรรมท่อวเที่ยวทั้งการบินและโรงแรมร่วงลงหลังวิกฤตการเมืองซ้กเติม COVID-19 ทำให้นักลงทุนมองเชิงลบว่าโอกาสฟื้นตัวจะล่าช้าออกไป ผมขออพัเดตรายตัวดังนี้

1.การบิน

1.1 AAV
ปัจจัยบวก-เพิ่ม hub ให้บริการมาที่สนามบินสุวรรณภูมิเพิ่มเติม จัดโปรขายเหมา/ไทยเริ่มเปิดรับทัวร์ต่างประเทศบ้างแล้ว/รัฐมนตรีคลังเผยจะปล่อยกู้ซอฟต์โลน ช่วยในส่วนค่าจ้าง ค่าน้ำมัน
ปัจจัยลบ-ต้องดูว่าซอฟต์โลนที่รัฐบาลช่วยพอหรือไม่ ทำให้กังวลว่าอาจจะมีเพิ่มทุน/การเมืองวิกฤตซ้ำเติม COVID-19
แนวโน้มเทคนิค-ปรับตัวลงมีเป้าหมายตกใหญ่ราวๆ 1.56-1.49 จากนั้นคาดส่าจะหยุดลงและฟื้นในกรอบ 1.50-2.00 บาทไปซักระยะ จนกว่าวิกฤตคบี่คลาย และเกิดคสามชัดเจนได้รับความช่วยเหลือซอฟต์โลน
ความเห็น:รอดูท่าทีให้ลงจบไม่เกินเป้าหมายตกที่ประเมินไว้ก่อน จึงควรจะซื้อลงทุนเพิ่ม หรือแก้ไขพอร์ต

 

1.2 AOT
ปัจจัยบวก-รัฐบาลจะเริ่มเปิดให้ทัวร์ต่างประเทศเดินทางเข้ามาได้บ้าง
ปัจจัยลบ-ต้องโอบอุ้มคิงพาวเวอร์ และสายการบินต่างๆต่อไป กระทบต่อรายได้
มุมมองเทคนิค-อ่อนตัวลงมามีกรอบแนวรับเขต 52.75-54 กรอบแนวต้าน 58-61บาท
ความเห็น:ซื้อแนวรับ ขายแนวต้าน

 

1.3 BA
ปัจจัยบวก-คล้ายกับAAV แต่มีฐานการเงินที่เข้มแข็งกว่า หากได้ซอฟต์โลนมาจะหนุนให้ฟื้นตัวได้ไว
ปัจจัยลบ-คล้ายกับ AAV
แนวโน้่มเทคนิค-ย่ำฐานเหนือเขตแนวรับกรอบล่างคือ 5.20-5.00 บาท
ความเห็น:ทยอยซื้อเพื่อลงทุนหรือแก้ไขพอร์ตเมื่อยืนเหนือแนวรับได้

 

1.4ฺ BAFS
ปัจจัยบวก-เริ่มเปิดรับทัวร์ต่างประเทศ/สายการบินในประเทศเปิดเพิ่มเส้นทางมากขึ้น
ปัจจัยลบ-วิกฆตการเมืองซ้ำเติมการเดินทางท่องเที่ยว
มุมมองทางเทคนิค-ซึมเหนือแนวรับเขต 19.60-19.00
ความเห็น:รอให้ยืนเหนือแนวรับ 19+/- และหรือฟื้นขึ้นไปเกิน 20.50 จึงจะน่าซื้อลงทุนหรือซื้อแก้ขไพอร์ตที่ติดสูง

 

 

2.หุ้นโรงแรม


2.1 CENTEL
ปัจจัยบวก-ฐานการเงินแข็งแกร่ง มีธุรกิจอาหารชดเชย
ปัจจัยลบ-วิกฤตการเมืองซ้ำเติม COVID-19
มุมมองเทคนิค-ลงจากเขต 28บาท ลงมาล่าสุดแนวรัย 50% Fibonacci แถว20+/- หากยืนเหนือ 20 ได้ก็จะฟื้นไป 23/27 แต่หากหบลุดก็อาจเสี่ยงลงต่อไปเขต 18.50-18
ความเห็น: รอดูท่าที หากยืนเหนือ 20 และฟื้นตัวได้ จึงจะน่าซื้อลงทุน หรือแก้พอร์ต

 

2.2 MINT
ปัจจัยบวก-ผ่านจุดแย่สุดไปแล่้วในไตรมาส2 และเพิ่มทุนสำเร็จที่จะดำเนินธุรกิืจไปได้/ได้รายได้จากธุรกิจอาหารชดเชย/โรงแรมกลับมาเปิดอีกครั้งเป็นส่วนใหญ่
ปัจจัยลบ-วิกฤตการเมืองซ้ำเติม COVID ทำให้การฟื้นตัวล่าช้าออกไป แบะอาจยังจำเป็นต้องลดค่าใช้จ่ายด้วยการลดพนักงานลง
มุมมองทางเทคนิค-ลงมาใกล้เขตฐานแนวรับล่างราวๆ 18.20-17.50 หากยืนได้ก็มีโอกาสฟื้นกลับไปเขต 20/23.50 บาท
ความเห็น:รอดูท่าทีหากยืนเหนือเขตแนวีับนี้ได้และเกิดการฟื้นตัว จึงจะน่าซื้อหรือแก้ไขพอร์ตที่ติดสูง

 

2.3 U
ปัจจัยบวก-โรงแรมในยุโรปกลับมาเปิดได้เป็นส่วนใหญ่/ลดการลงทุนเพื่อเก็บเงินไว้บริหารสภาพคล่อง/ยืนยันไม่มีแผนเพิ่มทุน
ปัจจัยลบ-การระบาดรอบ 2ในยุโรป
มุมมองทางเทคนิค-ลงมาเขตแนวรับล่างราวๆ 1.10-1.05 หากยืนได้จะฟื้นไปทดสอบแนวต้านแรก 1.24 และัหากผ่านก็จะฟื้นไปเขต 1.50+/-
ความเห็น:รอดูท่าทีหากยืนเหนือเขตแนวรับได้ และหรือขึ้นผ้่านแนวต้านเขต 1.24 บาทได้่จึงจะน่าซื้อหรือแก้ไขพอร์ต

 

 

3.หุ้นที่ได้รับ impact บวกจากวิกฤต กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์

 

3.1 DELTA

ขึ้นมาเกินพื้นฐานมากแล้ว และน่าจะพีคไปแล้ว หากลงหลุดแนวรับ uptrend เขต 185 ควรระสวังว่าจะตกได้ยาว
ความเห็น:ขายทำกำไร หรือขายหากำไรขาลงหากลงหลุด 185 หรือ 180 ลงมา

 

3.2 HANA

-ขึ้นมาใกล้เขตแนวต้านเป้าหมายที่เคยประเใินไว้ราวๆ 55-60 บาท แนะนำให้ขายทำกำไรที่เขตเป้าหมาย

 

3.3 KCE

มีสัญญาณทางบวกและยังมี upside อยู่มาก จึงคงแนะนำถือ หรือซศื้อในช่วงพักฐานเขตแนวรับ 32.50-34 บาท และถืิอทดสแอบแนวต้านต่างๆตั้งแต่เขต 40/45-47.50 บาท

 

 

โชคดีมีกำไรปลอดภัยในการลงทุนทุกท่านครับ

 

 

ติดตามเราช่องทางอื่นๆได้ที่
Facebook : http://fb.com/tontancorp


Youtube : https://goo.gl/J9u1jm


สอบถามข้อมูล
Line@ : https://goo.gl/ybfAvJ

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ความหวัง By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดหุ้นไทย เขียวสดใส แรงซื้อหุ้นบิ๊ก แคป หนุนนำ ท่ามกลางนักลงทุน ลุ้นผลเจรจาภาษีระหว่าง..

ATLAS โชว์ศักยภาพผู้นำตลาด LPG ร่วมเวทีเสวนาสร้างธุรกิจยั่งยืนก่อนเข้า SET

ATLAS โชว์ศักยภาพผู้นำตลาด LPG ร่วมเวทีเสวนาสร้างธุรกิจยั่งยืนก่อนเข้า SET

มัลติมีเดีย

TMILL วางกลยุทธ์ ขยายตลาดควบคู่เน้นบริหารต้นทุน ดันมาร์จิ้นสดใส

TMILL วางกลยุทธ์ ขยายตลาดควบคู่เน้นบริหารต้นทุน ดันมาร์จิ้นสดใส

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้