ข้อแตกต่าง คุณค่าทางเศรษฐกิจ แต่ละประเทศ By : โค้ชซัน กระทรวง จารุศิระ ซุปเปอร์เทรดเดอร์ รีพับบลิค
ภูมิศาสตร์ทางเศรษฐกิจในแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน การกระจายรายได้ ระบบการจัดเก็บภาษี ระบบป้องกันการผูกขาด แนวทางส่งเสริม Start-Up การให้คุณค่าทางเศรษฐกิจในแต่ละวิชาชีพ ไม่เหมือนกัน
================================
คนเขียนหนังสือ BEST SELLER ในประเทศสหรัฐอเมริกาหรืออังกฤษ เป็น Billionaire ได้ ในขณะที่คนเขียนหนังสือ BEST SELLER ในไทย ไม่มีทางไปถึงจุดนั้น
สิ่งที่แตกต่างกันคือ
1.ขนาดของตลาด JK.Rowling ขายหนังสือได้ทั่วโลก ดังนั้นลิขสิทธิ์และสิทธิบัตร จึงมีมูลค่ามหาศาล
2.การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ เช่น เอาไปทำเป็นภาพยนตร์ เกมส์ ของที่ระลึก สถานท่องเที่ยว
3.กฏหมายการป้องกันการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญามีระดับการป้องกันสูง
4.การให้คุณค่าทางอาชีพ นักเขียนถือเป็นอาชีพที่มีเกียรติและได้รับการยอมรับ แต่ถ้ามีเด็กคนไหน อยากเป็นนักเขียน อาจมีผู้ปกครองเตือนว่า อย่าทำเลย เดี๋ยวไส้แห้ง ( มีเกียรติ แต่ไม่ตอบโจทย์ในการทำเงิน )
================================
เด็กที่เรียนเก่งๆ หลายคนจะถูกปลูกฝังให้เป็น
1.หมอ
2. หมอฟัน
3. วิศวกร
เป็นคณะยอดนิยมสำหรับเด็กสายวิทยาศาสตร์ บางทีตัวเด็กยังไม่รู้เลยว่า จะเรียนไปทำไม รู้แค่ว่าผู้ใหญ่บอกมาคณะครุศาสตร์ในสมัยที่ผมเรียน กลายเป็นคณะที่คะแนนต่ำสุดที่จะเข้าไปเรียนได้ หากอยากสอบติดจุฬา
================================
การให้คุณค่าในแต่ละวิชาชีพ มีผลสูงมากต่อการพัฒนาประเทศ เพราะเรามัวให้คุณค่ากับบางอาชีพมากเกินไป เลยทำให้เกิดสภาวะที่เรียกว่า มันสมองกระจุกตัว เพราะทุกคนเรียนโดยพิจารณาจากความมั่นคงและค่าตอบแทน รวมทั้งคุณค่าที่สังคมมองเป็นหลัก เลยทำให้เกิดความไม่สมดุลย์ในตลาดแรงงาน
=================================
จากงานวิจัย ประเทศที่เกิด มีผลทำให้เกิดความแตกต่างของการสร้างตัวของผู้ประกอบการ ถ้าเกิดในสหรัฐอเมริกา การให้คุณค่า กฏหมายป้องกันทรัพย์สินทางปัญญา และสภาพแวดล้อมของการผลักดันวิสาหกิจขนาดเล็ก มีมากกว่าประเทศอื่นๆ ถ้า Mark Zuckerberg เกิดในประเทศไทย จะถูกบริษัทใหญ่ๆ เอาไอเดียไปทำ และ Mark อาจได้เป็นแค่หัวหน้าฝ่าย IT ศักยภาพของคนพัฒนาได้ แต่สิ่งแวดล้อมของมันต่างหากที่ต้องเปลี่ยน หากเราอยากจะสู้ชาติที่พัฒนาแล้วได้
โค้ชซัน กระทรวง จารุศิระ ซุปเปอร์เทรดเดอร์ รีพับบลิค
แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....
FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น
NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68