ประเด็นสำคัญ
•ตลาดคอนโดมิเนียมกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในช่วงที่เหลือปี 2556: ผู้ประกอบการยังคงแผนการลงทุนโครงการใหม่ต่อเนื่อง โดยคาดว่าทั้งปี 2556 นี้ จะมีการเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่เข้าสู่ตลาดประมาณ 62,500 – 65,500 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.9-9.9 จากปี 2555
•ขณะที่จำนวนคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จในกรุงเทพฯและปริมณฑล ปี 2556 จะมีจำนวนประมาณ 80,000-85,000 หน่วย เพิ่มขึ้นจากปี 2555 ที่มีประมาณ 78,391 หน่วย และคาดว่าในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า จำนวนคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลจะยังทยอยเข้าสู่ตลาดในระดับสูง
•กิจกรรมการลงทุนคอนโดมิเนียมในต่างจังหวัดในช่วงที่เหลือของปี 2556 นี้ คาดว่าจะชะลอลง จากในช่วงครึ่งแรก โดยกิจกรรมการลงทุนส่วนใหญ่จะมาจากกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่จากส่วนกลาง และผลจากการที่ผู้ประกอบการเร่งขยายตลาดคอนโดมิเนียมในต่างจังหวัดอย่างเข้มข้นในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ทำให้ในปี 2556 จำนวนห้องชุดจดทะเบียนในต่างจังหวัดจะมีประมาณ 23,050 หน่วย เติบโตร้อยละ 179.0 จากที่ขยายตัวร้อยละ 296.0 ในปี 2555 และคาดว่าจำนวนห้องชุดคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จในต่างจังหวัดจะยังคงมีจำนวนสูงขึ้นในปี 2557 ต่อเนื่องยังปี 2558
สถานการณ์ตลาดคอนโดมิเนียมในช่วงต้นปี 2556 ที่ผ่านมา มีความคึกคักอย่างมากทั้งตลาดในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล และตลาดในต่างจังหวัดซึ่งไม่เพียงแต่จังหวัดที่เป็นหัวเมืองเศรษฐกิจเท่านั้น แต่รวมถึงตลาดในจังหวัดหัวเมืองรอง ที่มีผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จากส่วนกลางเข้าไปรุกขยายฐานตลาดคอนโดมิเนียมกันอย่างเข้มข้น
อย่างไรก็ดี ณ ปัจจุบัน ภาพความคึกคักของตลาดคอนโดมิเนียมดูเหมือนจะชะลอลง สืบเนื่องจากสภาวะปัจจัยแวดล้อมของตลาดคอนโดมิเนียมได้เปลี่ยนแปลงไปจากช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ตลาดคอนโดมิเนียมกำลังเผชิญกับปัจจัยท้าทายในการทำธุรกิจ ทั้งจากปัจจัยระดับมหภาคอย่างเสถียรภาพเศรษฐกิจของไทยในช่วงที่เหลือของปี 2556 ยังมีทิศทางอ่อนแอ ปัญหาราคาสินค้าที่ทยอยปรับตัวสูงขึ้น และภาระหนี้ของภาคครัวเรือนที่มีระดับเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวนี้ มีผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชน
นอกจากนี้ตลาดคอนโดมิเนียม ยังมีปัจจัยท้าทายเฉพาะของภาคธุรกิจที่จะมีผลต่อทิศทางการเติบโต เช่น การแข่งขันทางธุรกิจที่รุนแรง ต้นทุนการทำธุรกิจ อาทิ ราคาที่ดิน ค่าจ้างแรงงาน และวัสดุก่อสร้างที่สูงขึ้น ซึ่งมีผลกระทบต่อราคาห้องชุดที่ปรับตัวตาม ปัญหาการขาดแคลนแรงงานคุณภาพที่มีผลต่อความล่าช้าในการพัฒนาโครงการและคุณภาพของโครงการ ความไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานคอนโดมิเนียมในบางทำเลที่สูงขึ้น ประกอบกับขณะนี้สถาบันการเงินมีความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อเพื่อการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของผู้ประกอบการและสินเชื่อสำหรับซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภค อีกทั้งยังมีประเด็นในเรื่องของกฎหมาย เช่น กฎหมายผังเมืองและกฎหมายสิ่งแวดล้อม ที่มีผลต่อการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม
ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล กิจกรรมการลงทุนยังเติบโตเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ จากสถิติการเปิดโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2556 ที่ผ่านมา ของบริษัทเอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส พบว่า มีจำนวนคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ 49,761 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือเฉลี่ยเปิดตัวเดือนละ 6,220 หน่วย เพิ่มขึ้นจากที่เปิดตัวเฉลี่ย 4,964 หน่วย ในปี 2555 ที่ผ่านมา และคาดว่าทิศทางการลงทุนคอนโดมิเนียมในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลในช่วงที่เหลือของปี 2556 นี้ ผู้ประกอบการจะยังคงเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ตามเป้าหมายทางธุรกิจที่วางไว้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ เนื่องจากมองว่าตลาดยังคงสามารถขับเคลื่อนได้จากความต้องการซื้อที่ยังมีอยู่ในตลาด โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในปี 2556 นี้ การเปิดโครงการใหม่น่าจะอยู่ที่ประมาณ 62,500 – 65,500 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.9-9.9 จากปี 2555 โดยทำเลที่มีการเปิดโครงการใหม่จะยังคงเน้นทำเลแนวรถไฟฟ้าและในรัศมีที่ใกล้รถไฟฟ้า
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตลาดจะมีการแข่งขันรุนแรง ประกอบในช่วงครึ่งแรกของปีที่ผ่านมา ราคาขายห้องชุดเปิดตัวใหม่ขยับขึ้นสูงเฉลี่ยประมาณร้อยละ 7.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เมื่อวิเคราะห์ถึงปัจจัยแวดล้อมทางธุรกิจที่ผลักดันให้เกิดการพัฒนาตลาดที่อยู่อาศัยรูปแบบคอนโดมิเนียม อาทิ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม โดยเฉพาะการเกิดขึ้นของระบบรถไฟฟ้าทั้ง 2 ระบบ ปัญหาการจราจร ราคาที่ดินที่แพงขึ้น กฎหมายผังเมืองที่มีผลต่อการพัฒนาโครงการแนวราบ และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่แปรเปลี่ยนไป โดยปัจจุบันการซื้อคอนโดมิเนียมของผู้บริโภคส่วนใหญ่จะเป็นการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง ซึ่งส่วนหนึ่งจะเป็นความต้องการซื้อเป็นที่อยู่อาศัยหลังที่ 2 และการซื้อเพื่อลงทุนระยะยาว ประกอบกับการแข่งขันในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เข้มข้นขึ้น ผู้ประกอบการจำเป็นต้องแสวงหาโอกาสในการทำธุรกิจ เห็นได้ว่า เพียงในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมในเขตในกรุงเทพฯและปริมณฑลมีสัดส่วนสูงขึ้น โดยในช่วงปี 2551-2555 มีจำนวนที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จประเภทคอนโดมิเนียมเข้าสู่ตลาดประมาณ 371,422 หน่วย และในปี 2556 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าจะมีจำนวนที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จประเภทคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯและปริมณฑลประมาณ 80,000-85,000 หน่วย เพิ่มขึ้นจากปี 2555 ที่มีประมาณ 78,391 หน่วย และคาดว่าในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า จำนวนที่อยู่คอนโดมิเนียมสร้างเสร็จในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลจะยังทยอยเข้าสู่ตลาดมากขึ้น
สำหรับทิศทางตลาดคอนโดมิเนียมในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลในช่วงที่เหลือของปี 2556 นอกจากจะมีประเด็นด้านทิศทางเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ ที่จะมีผลกระทบต่อความสามารถของผู้ซื้อที่อยู่อาศัย รวมถึงการเพิ่มความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินแล้ว การพัฒนาตลาดคอนโดมิเนียมในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ยังมีปัจจัยที่ท้าทายภาคธุรกิจทั้งจากการแข่งขันกันเปิดโครงการคอนโดมิเนียม ที่มีผลต่ออุปทานห้องชุดเข้าสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก และได้สร้างแรงกดดันต่อความไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานในตลาดในบางพื้นที่ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในปิดโครงการของผู้ประกอบการต่อไปในระยะข้างหน้า
ในช่วงต้นปี 2556 ที่ผ่านมา ตลาดคอนโดมิเนียมในต่างจังหวัดมีความคึกคักอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วง 7 เดือนแรกของปีที่ผ่านมา บริษัทพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่จากส่วนกลางได้ขยายการลงทุนไปยังตลาดต่างจังหวัดไม่ต่ำกว่า 20 โครงการ สำหรับการเปิดตัวโครงการใหม่ในปีนี้ของผู้ประกอบการจากส่วนกลางในต่างจังหวัด ไม่เพียงแต่เน้นทำเลในจังหวัดที่เป็นหัวเมืองเศรษฐกิจ และจังหวัดที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวสูงเท่านั้น เช่น ภูเก็ต สงขลา เชียงใหม่ และชลบุรี เป็นต้น
แต่ในปีนี้จะเห็นการเปิดตัวโครงการใหม่ในจังหวัดที่เป็นจังหวัดยุทธศาสตร์ตามแผนการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมของภาครัฐ อาทิ ขอนแก่น ระยอง พิษณุโลก ฯลฯ และรวมถึงจังหวัดยุทธศาสตร์ของ AEC เช่น อุดรธานี และเชียงราย เป็นต้น และจากการรุกตลาดของผู้ประกอบการจากส่วนกลางในต่างจังหวัดที่มีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น มีส่วนกระตุ้นให้ผู้ประกอบพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ท้องถิ่นเข้ามาลงทุนในตลาดเช่นกัน
เห็นได้ว่า การพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในต่างจังหวัดมีความเข้มข้นมากขึ้น โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2556 ที่ผ่านมา มีจำนวนห้องชุดจดทะเบียนประมาณ 12,079 หน่วย มีจำนวนสูงขึ้นกว่าจำนวนห้องชุดจดทะเบียนในปี 2555 ที่มีประมาณ 8,261 หน่วย
ขณะที่ทั้งปี 2556 นี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า จำนวนห้องชุดจดทะเบียนในต่างจังหวัดจะมีจำนวนประมาณ 23,050 หน่วย เติบโตร้อยละ 179.0 ชะลอลงจากที่เติบโตร้อยละ 296.0 ในปี 2555 และคาดว่าจำนวนห้องชุดคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จในต่างจังหวัดจะยังคงมีจำนวนสูงขึ้นในปี 2557 ต่อเนื่องยังปี 2558 เนื่องจากการที่ผู้ประกอบการส่วนกลางได้เข้าไปรุกตลาดอย่างหนักในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา
ทิศทางตลาดโครงการคอนโดมิเนียมในต่างจังหวัดในช่วงที่เหลือของปี 2556 นี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า กิจกรรมการลงทุนยังคงมีอย่างต่อเนื่องแต่จะชะลอลงจากในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เนื่องจากในช่วงต้นปี 2556 ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการได้มีการเร่งเปิดตัวโครงการในพื้นที่ศักยภาพ
อย่างไรก็ดีผู้ประกอบการจากส่วนกลางยังให้ความสำคัญกับการลงทุนในจังหวัดที่เป็นหัวเมืองเศรษฐกิจ เช่น ชลบุรี (พัทยา) ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) เชียงใหม่ ภูเก็ต และสงขลา เป็นต้น ขณะที่จังหวัดที่เป็นหัวเมืองรองที่มีศักยภาพ ซึ่งยังไม่มีการทำตลาดคอนโดมิเนียม จะเห็นว่าผู้ประกอบการจากส่วนกลางเองก็ให้ความสำคัญ และมีแผนที่จะขยายตลาดเข้าไปยังจังหวัดเหล่านั้น
อย่างไรก็ตาม ตลาดคอนโดมิเนียมในต่างจังหวัดแม้จะมีศักยภาพแต่มีประเด็นที่ผู้ประกอบการควรคำนึงถึงอีกหลายประการ อาทิ ขนาดของเศรษฐกิจในต่างจังหวัด แม้ว่าขณะนี้ ภาวะเศรษฐกิจในหลายๆ จังหวัดจะมีการขยายตัวอย่างคึกคัก ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย แต่ความเจริญของต่างจังหวัดยังคงกระจุกตัวอยู่เฉพาะในเขตเทศบาลเป็นส่วนใหญ่ และประชากรส่วนใหญ่ยังคงประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำให้กลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมในต่างจังหวัดที่ยังคงมีจำนวนจำกัด หากมีผู้ประกอบการหลั่งไหลเข้าไปเปิดโครงการเป็นจำนวนมาก อาจเกิดภาวะอุปทานส่วนเกินได้
อีกทั้งการเปิดโครงการใหม่ๆ ในบางจังหวัดที่มีการขยายตัวรวดเร็ว จากการแข่งขันทางธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีความรุนแรง มีส่วนผลักดันให้ต้นทุนการทำธุรกิจ เช่น ราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้น มีผลทำให้ราคาขายต่อหน่วยปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งอาจมีผลต่อการตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียม เนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ในต่างจังหวัดยังมีทางเลือกอย่างเช่นตลาดบ้านแนวราบ ที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคในต่างจังหวัดได้ดี
โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
PTG ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน Fortune Southeast Asia 500 ประจำปี 2025 เป็นปีที่สองติดต่อกัน ...
SKIN ผนึก APM ลุยโรดโชว์ห้องค้า PST มั่นใจพื้นฐานแกร่ง นักลงทุนตอบรับดีเยี่ยม
แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ อารมณ์คอการเมือง ร้อนทันที เป็นคลิปเสียง แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สนทนากับ สมเด็จฯ ฮุน..
รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68