ประเด็นสำคัญ
เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยล่าสุดในเดือนก.ค. 2556 สะท้อนบรรยากาศที่ซบเซาในหลายภาคส่วน โดยการบริโภค-การลงทุนภาคเอกชน การผลิตภาคอุตสาหกรรม ผลผลิตภาคเกษตร การส่งออก ล้วนหดตัวลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังคงประเมินทิศทางเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังอย่างระมัดระวัง โดยคาดว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจอาจมีค่าเฉลี่ยตลอดครึ่งหลังของปี 2556 ที่ประมาณร้อยละ 4.0 เนื่องจากแม้เศรษฐกิจชั้นนำของโลก จะเริ่มทยอยมีภาพในเชิงบวก แต่ความไม่สงบในตะวันออกกลางที่ปะทุขึ้นมาใหม่ ก็ทำให้บรรยากาศที่เชื่อมโยงมาจากเศรษฐกิจโลก และการอ่อนค่าของเงินบาท ยังคงมีผลที่ค่อนข้างจำกัดที่จะหนุนการฟื้นตัวของภาคการส่งออก ขณะที่ สัญญาณระมัดระวังการใช้จ่ายของภาคเอกชนที่ลากยาวเข้าสู่ช่วงครึ่งปีหลัง ก็ทำให้บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศ อาจยังคงมีภาพที่ซบเซาอย่างต่อเนื่อง
ด้วยเหตุนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงยังคงตัวเลขประมาณการอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 2556 ไว้ที่กรอบร้อยละ 3.8-4.3 โดยมีค่ากลางกรณีพื้นฐานที่ร้อยละ 4.0 ตามเดิม
เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยล่าสุดในเดือนก.ค. 2556 ยังสะท้อนบรรยากาศที่ซบเซาในหลายภาคส่วน โดยเฉพาะการใช้จ่ายของภาคเอกชน ซึ่งหดตัวลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน พร้อมกันทั้งในส่วนของการบริโภคและการลงทุนเป็นครั้งแรกในรอบ 20 เดือน ขณะที่ สถานการณ์ในฝั่งการผลิตภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม ก็สะท้อนภาพการฟื้นตัวที่ต้องล่าช้าออกไป เช่นเดียวกับการส่งออกที่หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 แม้จะเทียบกับฐานมูลค่าการส่งออกที่ต่ำในเดือนก.ค. 2555 ก็ตาม ดังนั้น ภาพรวมกิจกรรมทางเศรษฐกิจของไทยในช่วงเริ่มครึ่งหลังของปี 2556 ที่ยังอ่อนแอดังกล่าว ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงมุมมองที่ระมัดระวังต่อแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังไว้ตามเดิม
สัญญาณล่าสุดของเศรษฐกิจไทยยังมีทิศทางอ่อนแอในช่วงเริ่มครึ่งหลังปี 2556
การใช้จ่ายของภาคเอกชน...ยังถูกกดดันจากหลายปัจจัยแวดล้อม
การบริโภคภาคเอกชนในเดือนก.ค. พลิกกลับมาหดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 20 เดือน ที่ร้อยละ 0.7 (YoY) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน จากที่ขยายตัวร้อยละ 0.4 (YoY) ในเดือนมิ.ย. ขณะที่ การลงทุนภาคเอกชนหดตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ที่ร้อยละ 5.4 (YoY) ในเดือนก.ค. เทียบกับที่หดตัวร้อยละ 4.3 (YoY) ในเดือนมิ.ย.
ทั้งนี้ แม้ฐานเปรียบเทียบที่สูงในช่วงเดียวกันปีก่อน จะทำให้การใช้จ่ายของภาคเอกชนหดตัวลง (YoY) ในเดือนก.ค. อย่างไรก็ดี การหดตัวลงต่อเนื่องของดัชนีการบริโภคและดัชนีการลงทุนภาคเอกชนจากเดือนก่อนหน้า ที่ร้อยละ 0.5 (MoM) และร้อยละ 0.2 (MoM) ตามลำดับ ก็บ่งชี้ว่า โมเมนตัมของอุปสงค์ในประเทศก็ยังคงแผ่วตัวลง ท่ามกลางความกังวลต่อภาระค่าครองชีพ/หนี้ครัวเรือน และทิศทางเศรษฐกิจในภาพรวม
สถานการณ์ภาคการผลิต...ยังคงหดตัวต่อเนื่อง
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ในเดือนก.ค. ที่ร้อยละ 4.5 (YoY) หลังจากที่หดตัวร้อยละ 3.2 (YoY) ในเดือนมิ.ย. โดยการผลิตในหมวดอุตสาหกรรมที่เน้นตลาดส่งออกยังคงหดตัวลงอย่างต่อเนื่องอีกร้อยละ 8.1 (YoY) ท่ามกลางปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบในบางอุตสาหกรรม และการฟื้นตัวอย่างช้าๆ ของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า ในขณะที่ การหดตัวของการผลิตยานยนต์เป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปีครึ่ง ก็กดดันให้การผลิตในหมวดอุตสาหกรรมที่เน้นตลาดในประเทศและตลาดส่งออกพลิกกลับมาหดตัวร้อยละ 4.9 (YoY) หลังจากที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องในช่วง 17 เดือนก่อนหน้า ซึ่งสะท้อนว่า ผลจากโครงการรถคันแรกกำลังจะสิ้นสุดลง
ส่วนผลผลิตในภาคเกษตรกรรมนั้น ลดลงร้อยละ 2.7 (YoY) ในเดือนก.ค. ท่ามกลางปัญหาภัยแล้งและโรคระบาดในกุ้ง (หลังจากที่ขยายตัวร้อยละ 7.6 YoY ในเดือนมิ.ย.) ซึ่งกดดันให้รายได้เกษตรกรลดต่ำลงร้อยละ 1.2 (YoY) (เทียบกับที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 10.3 YoY ในเดือนมิ.ย.) แม้ราคาสินค้าเกษตรจะเพิ่มสูงขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ก็ตาม
การส่งออกเดือนก.ค.56 ยังไม่กลับมาขยายตัว...แม้มีอานิสงส์จากฐานเดือนก.ค. 55 ที่ต่ำ
มูลค่าการส่งออกของไทยหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ที่ร้อยละ 1.3 (YoY) ในเดือนก.ค. ต่อเนื่องจากที่หดตัวร้อยละ 3.5 (YoY) ในเดือนมิ.ย. ท่ามกลางความเปราะบางของอุปสงค์จากประเทศคู่ค้า (ที่เพิ่งจะเริ่มมีสัญญาณเชิงบวก) และการขาดแคลนกุ้งจากปัญหาโรคระบาดที่กินเวลายาวนานหลายเดือน อย่างไรก็ดี หากพิจารณาเป็นรายสินค้า จะพบว่า ปริมาณการส่งออกสินค้าเกษตรที่สำคัญ อาทิ ข้าว ยาง และมันสำปะหลัง เริ่มปรับตัวดีขึ้น (กลับมาขยายตัวร้อยละ 12.8 ร้อยละ10.0 และร้อยละ 88.8 ตามลำดับ) และช่วยหนุนให้ปริมาณการส่งออกสินค้าเกษตรในภาพรวม สามารถพลิกกลับมาขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน
ทั้งนี้ การฟื้นตัวที่ล่าช้าของภาคการส่งออก ส่งผลให้ไทยบันทึกยอดเกินดุลการค้าเพียง 257.5 ล้านดอลลาร์ฯ ในเดือนก.ค. (ลดลงจากที่เกินดุล 587.6 ล้านดอลลาร์ฯ ในเดือนมิ.ย.) ซึ่งเมื่อรวมกับดุลบริการ รายได้และเงินโอนที่ขาดดุล 966.4 ล้านดอลลาร์ฯ ตามการส่งกลับกำไรและเงินปันผลไปต่างประเทศ ก็ทำให้ไทยยังคงบันทึกยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 อีก 708.9 ล้านดอลลาร์ฯ หลังจากที่ขาดดุล 644.3 ล้านดอลลาร์ฯ ในเดือนมิ.ย.
แนวโน้มเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลัง: ยังประเมินอย่างระมัดระวังไว้ที่ร้อยละ 4.0
แม้สัญญาณในช่วงระหว่างเดือนก.ค.และส.ค. 2556 ที่ผ่านมา จากเศรษฐกิจสหรัฐฯ จีน และยูโรโซน จะเริ่มทยอยมีภาพในเชิงบวก แต่ความไม่สงบในตะวันออกกลางที่ปะทุขึ้นมาใหม่ และดันให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน ก็ทำให้บรรยากาศที่เชื่อมโยงมาจากเศรษฐกิจโลก และการอ่อนค่าของเงินบาท ยังคงมีผลที่ค่อนข้างจำกัดในการหนุนทิศทางการฟื้นตัวของภาคการส่งออกของไทยในช่วงเริ่มครึ่งปีหลัง ขณะที่ สัญญาณระมัดระวังการใช้จ่ายของภาคเอกชนที่ลากยาวเข้าสู่ช่วงครึ่งปีหลัง ก็ทำให้บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศยังคงมีภาพที่ซบเซาอย่างต่อเนื่อง
จากภาพที่อ่อนแอดังกล่าวข้างต้น ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังคงประเมินทิศทางเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังอย่างระมัดระวัง โดยคาดว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจอาจมีค่าเฉลี่ยตลอดครึ่งหลังของปี 2556 ที่ประมาณร้อยละ 4.0 (YoY) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน หลังจากที่ขยายตัวร้อยละ 4.1 ในช่วงครึ่งปีแรก โดยตัวแปรที่คงต้องจับตาใกล้ชิด คือ ช่วงเวลาการฟื้นตัวของการส่งออก และสัญญาณเสถียรภาพของการใช้จ่ายในประเทศ ซึ่งหากกิจกรรมทั้ง 2 ด้าน ยังคงซบเซาลงในช่วงไตรมาส 3/2556 (ซึ่งจะมีอานิสงส์จากฐานที่ต่ำในปีก่อน และการเร่งเบิกจ่ายเม็ดเงินในช่วงโค้งสุดท้ายของปีงบประมาณ 2556) ก็อาจส่งผลให้โมเมนตัมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปี 2556 เผชิญกับความไม่แน่นอนมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงยังคงตัวเลขประมาณการอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 2556 ไว้ที่กรอบร้อยละ 3.8-4.3 โดยมีค่ากลางกรณีพื้นฐานที่ร้อยละ 4.0 ตามเดิม
โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
PTG ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน Fortune Southeast Asia 500 ประจำปี 2025 เป็นปีที่สองติดต่อกัน ...
SKIN ผนึก APM ลุยโรดโชว์ห้องค้า PST มั่นใจพื้นฐานแกร่ง นักลงทุนตอบรับดีเยี่ยม
แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ อารมณ์คอการเมือง ร้อนทันที เป็นคลิปเสียง แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สนทนากับ สมเด็จฯ ฮุน..
รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68