ประเด็นสำคัญ
•สภาพคล่องเดือนมิ.ย.2556 ตึงตัวขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับสิ้นเดือนก่อนหน้า ดังจะเห็นได้จากอัตราส่วนสินเชื่อรวมต่อเงินฝากรวมกับตราสารหนี้ที่ออกและเงินกู้ยืม ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นมาที่ระดับร้อยละ 89.68 จาก ณ สิ้นเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ 88.31 ตามการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อที่สูงกว่าการเพิ่มขึ้นของเงินฝากรวมกับตราสารหนี้ที่ออกและเงินกู้ยืม
•ทั้งนี้ เงินให้สินเชื่อสุทธิของธนาคารพาณิชย์ไทยเดือนมิ.ย.2556 อยู่ที่ 9.04 ล้านล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโตร้อยละ 12.79 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ เงินฝากรวมกับตราสารหนี้ที่ออกและเงินกู้ยืม อยู่ที่ระดับ 10.44 ล้านล้านบาท เติบโตร้อยละ 10.99
•ส่วนแนวโน้มสินเชื่อ คาดว่าน่าจะยังสามารถประคองการเติบโตไว้ได้อย่างต่อเนื่อง และคงเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ในระยะถัดไป แต่ด้วยการบริหารจัดการสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ผ่านการออกผลิตภัณฑ์เงินฝากที่สามารถแข่งขันได้อย่างต่อเนื่อง ก็คงจะช่วยให้สภาพคล่องของธนาคารยังอยู่ในระดับเพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี 2556 โดยไม่เป็นประเด็นที่ต้องกังวล
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้รวบรวมข้อมูลสินเชื่อ เงินฝาก และสภาพคล่องของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยที่ประกอบด้วยธนาคารพาณิชย์ไทย 14 แห่ง (เบื้องต้น) ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2556 เทียบกับสิ้นเดือนพฤษภาคม 2556 พร้อมประเมินแนวโน้มสภาพคล่องในระยะถัดไป โดยมีรายละเอียด ดังนี้
สภาพคล่องเดือน มิ.ย.2556 ตึงตัวขึ้น...จากการเพิ่มขึ้นของเงินให้สินเชื่อที่มากกว่าผลรวมของเงินฝากรวมกับตราสารหนี้ที่ออกและเงินกู้ยืม
ยอดเงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้สุทธิ ของ 14 ธนาคารพาณิชย์ไทย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2556 มีจำนวน 9.04 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.58 แสนล้านบาท จากยอดคงค้างที่ 8.88 ล้านล้านบาท ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2556 (นำโดยการเพิ่มขึ้นของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่เป็นหลัก) หรือเติบโตร้อยละ 12.79 เมื่อ
เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เร่งขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2556 ที่เติบโตได้ร้อยละ 12.23 ทั้งนี้ การเติบโตของยอดเงินให้สินเชื่อในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา คาดว่าเป็นผลจากความต้องการสินเชื่อของรายย่อยที่ยังอยู่ในระดับสูงโดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ขณะเดียวกัน ความต้องการสินเชื่อของผู้ประกอบการเติบโตได้ดีเช่นกัน ทั้งสินเชื่อเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและสินเชื่อเพื่อการลงทุนระยะยาว
ด้านยอดเงินฝาก มีจำนวน 9.68 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.34 หมื่นล้านบาท จากยอดคงค้างที่ 9.63 ล้านล้านบาท ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2556 ขณะที่ ตราสารหนี้ที่ออกและเงินกู้ยืม (ซึ่งมีตั๋วแลกเงินเป็นหนึ่งในองค์ประกอบ) มีจำนวน 7.91 แสนล้านบาท ลดลง 1.52 หมื่นล้านบาทจากเดือนก่อนหน้า ทำให้เมื่อรวมเงินฝากกับตราสารหนี้ที่ออกและเงินกู้ยืมแล้ว พบว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 10.48 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.82 หมื่นล้านบาท จากระดับ 10.44 ล้านล้านบาท ในเดือนก่อนหน้าหรือเติบโตราวร้อยละ 10.99 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
สภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ไทยในเดือนมิถุนายน 2556 ตึงตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า อันเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของยอดเงินให้สินเชื่อที่มากกว่าการเพิ่มขึ้นของเงินฝากรวมกับตราสารหนี้ที่ออกและเงินกู้ยืม ดังสะท้อนให้เห็นผ่าน
อัตราส่วนสินเชื่อรวมต่อเงินฝากรวมกับตราสารหนี้ที่ออกและเงินกู้ยืม (Gross Loans to Deposits and Borrowings) ที่ปรับเพิ่มขึ้นมาที่ระดับร้อยละ 89.68 เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2556 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 88.31
เช่นเดียวกับสินทรัพย์สภาพคล่องในงบดุลของธนาคารพาณิชย์ไทยตามความหมายกว้าง ที่ลดลงจากเดือนก่อนหน้า โดย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2556 สภาพคล่องดังกล่าวมีจำนวน 2.66 ล้านล้านบาท ลดลง 1.01 แสนล้านบาท จาก ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2556 โดยเป็นผลจากการลดลงขององค์ประกอบสภาพคล่องด้านเงินลงทุนสุทธิในตลาดเงินระยะสั้นและเงินสด ส่วนเงินลงทุนสุทธิในหลักทรัพย์ (รวมเงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วมสุทธิ) ปรับเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ หากไม่รวมเงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วมสุทธิแล้ว สภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์จะอยู่ที่ระดับ 2.49 ล้านล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2556 ลดลงเช่นกันจาก 2.62 ล้านล้านบาท ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2556
ที่มา: ธ.พ. 1.1 รวบรวมโดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย
สภาพคล่องของธนาคารในช่วงที่เหลือของปี 2556 อยู่ในระดับเพียงพอต่อการขยายตัวของสินเชื่อ ภายใต้การบริหารจัดการเงินฝากอย่างระมัดระวัง
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ภาพรวมสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ทั้งปี 2556 ยังน่าจะสามารถประคับประคองการเติบโตไว้ได้ นำโดยความต้องการสินเชื่อเพื่อเงินทุนหมุนเวียนของผู้ประกอบการรายใหญ่และผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จากต้นทุนการผลิตที่น่าจะเร่งตัวขึ้นตามราคาพลังงานโลกและการปรับโครงสร้างราคาพลังงานของภาครัฐ ขณะเดียวกัน อัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ที่ทรงตัวในระดับต่ำ ก็คงเป็นแรงหนุนที่ช่วยเสริมความต้องการสินเชื่อเพื่อการลงทุนระยะยาวของผู้ประกอบการได้บางส่วน ส่วนความต้องการสินเชื่อของลูกค้ารายย่อยคาดว่ายังคงขยายตัวได้จากความต้องการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ แม้อาจเป็นอัตราการเติบโตที่ไม่หวือหวานักเหมือนในช่วงที่ผ่านมา หลังการทยอยส่งมอบรถยนต์ตามโครงการรถยนต์คันแรกเสร็จสิ้นลง อย่างไรก็ดี ด้วยโมเมนตัมของเศรษฐกิจไทยในระยะถัดไปที่มีแนวโน้มอ่อนแรงลงจากหลากหลายปัจจัยเสี่ยง โดยเฉพาะการฟื้นตัวที่ล่าช้าของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญ และการชะลอตัวของอุปสงค์ในประเทศจากการเร่งใช้จ่ายไปในช่วงก่อนหน้า คงมีส่วนกดดันภาพรวมการเติบโตของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ในระยะถัดไปบ้าง โดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อการค้าระหว่างประเทศและสินเชื่อเพื่อการจับจ่ายใช้สอยของภาคครัวเรือน ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงปรับลดประมาณการเติบโตของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศในปี 2556 ลงมาที่ร้อยละ 11.0 (กรอบคาดการณ์ที่ร้อยละ 9 - 12) จากประมาณการเดิมที่ร้อยละ 11.5
ทั้งนี้ แม้การขยายตัวอย่างต่อเนื่องของเงินให้สินเชื่อดังกล่าว จะเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ในระยะถัดไป แต่ด้วยการบริหารจัดการสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ที่มีความระมัดระวังสูง คงทำให้แต่ละธนาคารติดตามความก้าวหน้าของสินเชื่อและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจต่างๆ อย่างใกล้ชิด พร้อมออกผลิตภัณฑ์เงินออมที่สามารถแข่งขันได้ในจังหวะที่สอดรับกับความต้องการใช้สภาพคล่องของแต่ละธนาคาร ซึ่งในที่สุดแล้วก็น่าจะช่วยหนุนให้สภาพคล่องของธนาคารยังอยู่ในระดับเพียงพอกับการดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี 2556 อย่างไม่เป็นประเด็นที่ต้องกังวล
อย่างไรก็ดี คงต้องติดตามสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่ผูกโยงกับแนวโน้มเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญทั้งสหรัฐฯ จีน และยุโรปอย่างใกล้ชิด เพราะจะมีผลต่อความเชื่อมั่นในการลงทุนของภาคเอกชนไทย ความสามารถในการจับจ่ายใช้สอยของครัวเรือน รวมถึงความต้องการสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ ตลอดจนการวางแผนบริหารจัดการสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ในระยะถัดไป
ที่มา ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
PTG ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน Fortune Southeast Asia 500 ประจำปี 2025 เป็นปีที่สองติดต่อกัน ...
SKIN ผนึก APM ลุยโรดโชว์ห้องค้า PST มั่นใจพื้นฐานแกร่ง นักลงทุนตอบรับดีเยี่ยม
แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ อารมณ์คอการเมือง ร้อนทันที เป็นคลิปเสียง แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สนทนากับ สมเด็จฯ ฮุน..
รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68