คิดก้าวพ้น'ความขัดแย้ง ต้องใช้ ม.157 จริงๆจังๆ ลุยเอาผิดเจ้าพนักงานรัฐ จงใจละเว้นปฏิบัติหน้าที่

ปรากฏการณ์จุดกระแส “แก้ประมวลกฎหมายอาญา ม.112” ของ “กลุ่มนิติราษฎร์” ที่ออกมาร้อนแรงในเวลานี้...และมี “ผู้ออกมาต่อต้าน” ในหลากหลายกลุ่มนั้น...ถือเป็นการตอกย้ำชัด

แจ้งว่า...หลงเข้าไปอยู่ในกลเกมของ “พวกซ้ายจัด” ที่เป็นจอมวางแผน...อีกแล้ว

และเป็นภาพสะท้อนชัดว่า “คนถือกฎหมาย” ไม่ว่าจะเป็น “ข้าราชการ-นักการเมืองที่มีตำแหน่ง” จงใจบกพร่องต่อหน้าที่ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเข้าข่ายการทำผิดม.157 ชัดเจน

อย่าลืมว่า...“สถาบันกษัตริย์” นั้น...ทรงอยู่เหนือการเมือง ดังนั้นใครที่บังอาจล่วงละเมิดและจาบจ้วง...ทางหนึ่งก็จะถูกสังคมประณามจากประชาชน เพราะ “สถาบันกษัตริย์” เป็นที่เคารพ

รักของประชาชนคนไทยโดยสำนึกอยู่แล้ว

และอีกทางหนึ่ง...ก็ต้องถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย ซึ่งเป็นหน้าที่ของ “เจ้าพนักงาน” ทั้งตำรวจ-อัยการ และรวมถึง “รัฐมนตรีในตำแหน่งต่างๆ” ที่มีส่วนรับผิดชอบโดยตรง

แต่ดูเหมือนว่า...“เจ้าพนักงานเหล่านี้” กลับละเลยเสียเอง แทนที่จะใช้ “กฎหมาย” ให้เป็น “กฎหมาย” กลับมีความพยายามหลบเลี่ยง-เมินเฉย...ทำให้กระแสที่ไม่สมควรจะจุดติด กลับติด

ไฟได้อย่างง่ายดาย และเป็นการตอกย้ำชัดเจนว่า มีขบวนการล้มเจ้า...อยู่จริงๆ

อยากสะกิดเตือนถึงบรรดา “นักวิชาการ-อาจารย์ทั้งหลาย” ที่ออกมาจุดพลุและหนุนเรื่องการแก้ประมวลกฎหมายอาญา ม.112 ว่า...หากอยากเรียกร้องเรื่อง “สิทธิเสรีภาพ”...ทำไมถึงไม่

ออกมาจุดกระแสและต่อต้านบรรดา “ข้าราชการ-นักการเมือง” ที่จงใจ “ไม่ทำกฎหมายให้เป็นกฎหมาย”...บ้างล่ะ

ทำไม่ไม่เสนอหน้าออกมาเรียกร้องแจ้งความเอาผิดกับ “ข้าราชการ-นักการเมือง” ที่เป็น “เจ้าพนักงานตามกฎหมาย” ที่มีเจตนา “จงใจ-ละเลย” ไม่ปฏิบัติหน้าที่...ตามที่กฎหมายได้มอบ

อำนาจให้

ไม่ต้องดูอื่นไกล...กรณีของ “นักโทษทักษิณ ชินวัตร” ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง...มีคำพิพากษาตัดสินให้จำคุก...แต่ “เจ้าพนักงานรัฐ” ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง

ทั้งหลาย ก็พยายามเลี่ยงบาลี-เลี่ยงกฎหมาย ไม่ทำหน้าที่ในการนำตัว “นักโทษรายนี้” มาลงโทษตามกฎหมาย

เห็นได้ชัดสุดๆ ในเรื่อง “การเปลี่ยนสี” ก็กรณีที่เกิดขึ้นกับการคืนพาสปอร์ตให้ “นักโทษรายนี้” ซึ่งชัดเจนว่า...“เจ้าพนักงานรัฐ” กระทำผิดตามม. 157 เพราะหาก “ผู้มีอำนาจรัฐในปัจจุบัน”

เห็นว่า การคืนพาสปอร์ตให้ “นักโทษรายนี้” เป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย ก็ต้องดำเนินการเอาผิดกับ “คนสั่งการ-คนปฏิบัติ” ที่เคยยกเลิกพาสปอร์ตของ “นักโทษรายนี้” ไม่ว่าจะเป็น “กษิต

ภิรมย์ อดีตรมว.ต่างประเทศ” หรือ “ข้าราชการที่ทำหน้าที่ในขณะนั้น”

กรณีจงใจจาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบัน...ก็เช่นกัน “เจ้าพนักงาน” ที่มีหน้าที่โดยตรงก็คือ “ตำรวจ” แต่ก็ไม่เห็นการใส่ใจในการจะดำเนินการเอาผิดกับคนที่ทำผิดกฎหมายแต่อย่างใด

อยากย้ำว่า...หาก “เจ้าพนักงานรัฐ” มีสำนึกในการทำหน้าที่ ใช้กฎหมายให้เกิดความยุติธรรม สังคมไทยจะไม่เกิดปัญหาความขัดแย้ง-แตกแยก...อย่างที่เป็นอยู่ในเวลานี้ และ “โจร” ก็ไม่

มีทางครองเมือง

การคิดจะแก้รัฐธรรมนูญ 2550 ก็เช่นกัน...เป็นการถกเถียงและต้องการแก้...เพื่อประโยชน์ของตัวเองทั้งสิ้น เพราะ “ตัวอักษร” ที่ปรากฏในกฎหมาย...จะไม่มีความหมายเลย หาก “ตัว

บุคคล” ไม่คิด-ไม่กระทำผิด

หากอยากแก้รัฐธรรมนูญกันจริงๆ...กล้าหรือไม่...ที่จะแก้กฎเกณฑ์ว่า ทั้งนักการเมือง-ทั้งข้าราชการระดับสูง...จะต้อง “สำแดงการเสียภาษี” และเปิดให้ “สาธารณชน” ได้รับรู้...เพื่อจะได้

ตรวจสอบ เพราะนี่คือรากฐานเบื้องต้นในการสกรีนคน...ที่จะเข้ามาใช้อำนาจรัฐทั้งทางตรง-ทางอ้อม

ปัญหาของชาติในเวลานี้ ทั้งเรื่องความขัดแย้ง-แบ่งฝักแบ่งฝ่าย-คิดล้มล้างสถาบัน...ที่บานปลายมาถึงขณะนี้...ก็อยู่ที่ “เจ้าพนักงานรัฐ” ที่เป็นผู้ถือกฎหมาย ซึ่งไม่ได้ใช้กฎหมายให้เกิด

ความศักดิ์สิทธิ์ แต่เป็นเพราะ “เจ้าพนักงานรัฐ” คิดถึงแต่ “ตัวเอง” ทั้งตำแหน่งหน้าที่และทรัพย์สินเงินทอง...และระบบการตอบแทนบุญคุณ จึงทำให้เกิดปัญหาลุกลามมาถึงเวลานี้

ถ้าจะก้าวข้ามความขัดแย้ง-ก้าวผ่านตัวบุคคลเจ้าปัญหา...วิธีดีที่สุดคือการใช้ม.157 จัดการกับ “เจ้าพนักงานรัฐ” ที่เป็นถือกฎหมาย แต่ไม่ได้ยอมรักษากฎหมายให้ศักดิ์สิทธิ์

ถ้ากล้าจริง...ในเรื่องนี้ “การนองเลือด” อย่างที่หลายคนกลัว...ก็คงไม่มีทางเกิดขึ้นแน่…แต่กล้ากันหรือเปล่า...โดยเฉพาะ “คนที่เสนอหน้า” ออกมาเสนอให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมาย

อาญา ม.112 นั่นแหล่ะ...กล้าทำหรือไม่...ขอถามหน่อย