Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : TTCL โละหุ้น "TTCL Gas Power" มูลค่า 85 ล้านเหรียญฯ

4,148

HotNews : TTCL โละหุ้น "TTCL Gas Power" มูลค่า 85 ล้านเหรียญฯ

 

 สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (10 เมษายน 2562)  บอร์ด TTCL ลงมติขายเงินลงทุน 60%  ใน TTCL Gas Power  ให้ 2 บจ.จากญี่ปุ่น  มูลค่ารวม  85 ล้านเหรียญฯ คาดได้รับเงินภายใน พ.ค.นี้   พร้อมมั่นใจปี 62 พลิกมีกำไร -คาดรายได้โต 50% จากปีก่อน หลังตุน Backlog ในมือ ราว 1.77 หมื่นลบ. คาดรับรู้ปีนี้ 50-55%  ลุยประมูลงานมูลค่ารวม 5.2 หมื่นลบ. คาดได้งานราว 1.75 หมื่นลบ. 

 

 

นายฮิโรโนบุ อิริยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีทีซีแอล จํากด (มหาชน) TTCL เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2562 ของบริษัท ทีทีซีแอล จํากด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ซึ่งจัดขึ้นในวันนี้ ( 10 เมษายน 2562) เมื่อเวลา 10.00 น. มีมติอนุมัติการจําหน่ายไปซึ่งเงินลงทุนในหุ้นสามัญของ TTCL Gas Power Pte. Ltd. (“TTGP”) ซึ่งเป็นบริษัทยอยทางอ้อมของบริษัทฯ จํานวน 29,700,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 60 ของจํานวนหุ้นทั้งหมดของ TTGP

 

 

ซึ่งหุ้นสามัญดังกล่าวถือโดย TTCL Power Holdings Pte. Ltd. (“TTPHD”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นอยู่เป็นจํานวนร้อยละ 100 ของจํานวนหุ้นทั้งหมดของTTPHD โดยจะจําหน่ายให้แก่ผู้ลงทุนที่สนใจเข้าลงทุนจํานวนสองราย ซึ่ งผู้ลงทุนทั้งสองรายดังกล่าวมิใช่บุคคลที่เกี่ยวโยงกนของบริษัทฯ (รวมเรียกว่า “ผู้ลงทุน”) โดยมีราคาซื้อขายรวมทั้งสิ'นจํานวน 85,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในการนี้ผู้ลงทุนแต่ละรายจะซื้อหุ้นจํานวนร้อยละ 30 ของจํานวนหุ้นทั้งหมดของ TTGP โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

 

 


ทั้งนี้ผู้ลงทุนรายที่ 1 ซึ่งเป็นบริษัทมหาชนจํากัดที่จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นภายใต้กฎหมายญี่ปุ่น(หรือโดยบริษัทย่อย) จะซื้อหุ้นสามัญของ TTGP จํานวน 14,850,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ30 ของจํานวนหุ้นทั้งหมดของ TTGP ในราคาซื้อขายรวมทั้งสิ้นจํานวน 42,500,000ดอลลาร์สหรัฐ (“ผู้ลงทุนรายที่ 1”) และ(2) ผู้ลงทุนรายที่ 2 ซึ่งเป็นบริษัทมหาชนจํากัดที่จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นภายใต้กฎหมายญี่ปุ่น(หรือโดยบริษัทย่อย) จะซื้อหุ้นสามัญของ TTGP จํานวน 14,850,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ30 ของจํานวนหุ้นทั'งหมดของ TTGP ในราคาซื้อขายรวมทั้งสิ้นจํานวน 42,500,000ดอลลาร์สหรัฐ (“ผู้ลงทุนรายที่ 2”)ในการนี้ TTPHD ผู้ลงทุนรายที่ 1 และ ผู้ลงทุนรายที่ 2 และ TTGP จะเข้าทําสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้นเพื่อกำหนดความสัมพันธ์ของแต่ละฝ่ายในฐานะผู้ถือหุ้นของ TTGP รวมทั้งจัดการและควบคุมดูแลการดําเนินงานของ TTGP และบริษัทยอย (“สัญญาระหว่างผู้ถือหุ้น”)

 

 

 


การจําหน่ายไปซึ่งเงินลงทุนในหุ้นสามัญของ TTGP โดย TTPHD ให้แก่ผู้ลงทุนดังกล่าวข้างต้น และการเข้าทําสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้น จะรวมเรียกว่า “ธุรกรรม”การเข้าทําธุรกรรมเข้าข่ายเป็นรายการจําหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทฯ ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทจ. 20/2551 เรื่อง หลักเกณฑ์ในการทํารายการที่มีนัยสําคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจําหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน (รวมทั้งที่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม) และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจําหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ พ.ศ. 2547 (รวมทั้งที่ได้มีการแกไขเพิ่มเติม) (รวมเรียกว่า “ประกาศรายการได้มาหรือจําหน่ายไปซึ่ งสินทรัพย์”)โดยมีขนาดของรายการสูงสุดเท่ากบร้อยละ 62.38 คํานวณตามเกณฑ์สินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิ อ้างอิงจากงบการเงินรวมของบริษัทฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561

 

 

ซึ่งได้มีการตรวจสอบและรับรองโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแล้ว ทั้งนี้เมื่อพิจารณานับรวมรายการจําหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์อื่นๆ ของบริษัทฯ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในระหว่าง 6 เดือนที่ผานมาซึ่งคํานวณตามเกณฑ์ สินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิ ขนาดของรายการดังกล่าวจะเท่ากบร้อยละ 13.52 และเมื่อพิจารณานับรวมกับมูลค่าของรายการในครั้งนี้ซึ่งเท่ากับร้อยละ 62.38 จะคิดเป็นขนาดของรายการรวมเท่ากบร้อยละ75.90 ดังนั้น ธุรกรรมนี้จึงมีขนาดของรายการสูงสุดเท่ากบร้อยละ 75.90ซึ่งเข้า ข่ายเป็นรายการประเภทที่ 1 กล่าวคือ เป็นรายการที่มีมูลค่าเท่ากบร้อยละ 50 หรือสูงกว่า แต่ต่ำกว่าร้อยละ 100 ตามประกาศรายการได้มาหรือจําหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ ด้วยเหตุนี้บริษัทฯ จึงมหน้าที่ต้องดําเนินการดังต่อไปนี้

 

 

(ก) จัดทํารายงานและเปิดเผยสารสนเทศการเข้าทําธุรกรรมตามประกาศรายการได้มาหรือจําหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“ตลาดหลักทรัพย์”) โดยทันทีเมื่อมีการเข้าทําธุรกรรม
(ข) แต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (“ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ”) เพื่อให้ความเห็นเกี่ยวกบัความสมเหตุผลและประโยชน์ของธุรกรรมดังกล่าว และจัดส่งความเห็นดังกล่าวต่อผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ พร้อมกบหนังสือเรียกประชุมผู้ถือหุ้น
(ค) จัดส่งหนังสือเรียกประชุมผู้ถือหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเป็ นการล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 14 วัน โดยแนบสารสนเทศตามประกาศรายการได้มาหรือจําหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์พร้อมกบหนังสือ เรียกประชุมผู้ถือหุ้น และ
(ง) จัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นเพือพิจารณาอนุมัติการเข้าทําธุรกรรมดังกล่าว โดยจะต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจํานวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน โดยไม่นับคะแนนเสียงของผู้ถือ
หุ้นที่มีส่วนได้เสีย

 

อย่างไรก็ดี การเข้าทําธุรกรรมดังกล่าวไม่เข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทฯ ตามประกาศคณะกรรมการกากํ บตลาดทุน ที่ ทจ. 21/2551 เรื่อง หลักเกณฑ์ในการทํารายการที่เกี่ยวโยงกน (รวมทั้งที่ได้มีการแกไขเพิ่มเติม) และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในรายการที่เกี่ยวโยงกน พ.ศ. 2546 (รวมทั้งที่ได้มีการแกไขเพิ่มเติม) (รวมเรียกว่า “ประกาศรายการที่เกี่ยวโยงกน”) (โปรดพิจารณารายละเอียดในสารสนเทศรายการจําหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของ บริษัท ทีทีซีแอลจํากด (มหาชน) เกี่ยวกับการจําหน่ายไปซึ่งเงินลงทุนใน TTCL Gas Power Pte. Ltd.(สิ่งที่ส่งมาด้วย 1)

 


ในการนี้ คณะกรรมการบริษัทจึงมีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการเข้าทําธุรกรรมดังกล่าว และแต่งตั้งคณะกรรมการบริษัท และ/หรือกรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัทฯ หรือบุคคลใดๆ ที่คณะกรรมการบริษัท และ/หรื อกรรมการผู้จัดการใหญ่มอบหมาย ให้มีอํานาจในการดําเนินการใดๆ ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องและจําเป็นสําหรับการเข้าทําธุรกรรม ซึ่งรวมถึงการติดต่อ เจรจาต่อรอง แกไขเปลี่ยนแปลง ตกลงลงนาม ส่งมอบเอกสารและ/หรื อข้อตกลง และสัญญาที่เกี่ยวข้อง ยื่นขออนุญาตและการผ่อนผันจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งดําเนินการอื่นใดที่จําเป็นและเกี่ยวข้องกบธุรกรรมดังกล่าวทุกประการ

 


หมายเหตุ: ขณะนี้ บริษัทฯ ยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อของผู้ลงทุนที่เกี่ยวข้องได้ เนื่องจากบริษัทฯ และผู้ลงทุนอยู่ระหว่างการเจรจาเงื่อนไขของสัญญาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องนอกจากนี้ การเปิดเผยชื่อของผู้ลงทุนอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถของบริษัทฯ ในการเจรจาต่อรองเงื่อนไขของสัญญาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้เป็ นประโยชน์สูงสุดแก่บริ ษัทฯ อนึ่ง การเปิดเผยชื่อของผู้ลงทุนจะเป็นการเอื'อประโยชน์ต่อคูแข่งของบริษัทฯ อยางมีนัยสําคัญ ดังนั้น บริษัทฯ จะดําเนินการแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ และนักลงทุนทราบโดยเร็วเมื่อบริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว

 

 

 

 

ทั้งนี้อนุมัติกาหนดการจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2562 ในวันที่22 พฤษภาคม 2562 เวลา10.00 น. ณ ห้องประชุมบริษัท 2701 - 2703 ชั'น 27 อาคารเสริมมิตรทาวเวอร์ เลขที่ 159/41-44ซ. สุขุมวิท 21 ถนนอโศก แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร และมอบหมายให้
กรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริ ษัทฯ และ/หรือบุคคลที่กรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริ ษัทฯมอบหมาย มีอํานาจแกไขเปลี่ยนแปลงวาระการประชุม วัน เวลา และสถานที่สําหรับจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2562 ตามที่เห็นสมควร โดยพิจารณาถึงผลกระทบและประโยชน์
สูงสุดต่อบริษัทฯ เป็นสําคัญ โดยมีระเบียบวาระการประชุม ดังนี้

 

วาระที่ 1: พิจารณารับรองรายงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจําปี ครั้งที่ 1/2562 เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2562
วาระที่ 2: พิจารณาอนุมัติการจําหน่ายไปซึ่งเงินลงทุนใน TTCL Gas Power Pte. Ltd. ซึ่งเข้าข่ายเป็นรายการจําหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของบริ ษัท ทีทีซีแอล จํากัด(มหาชน)
วาระที่ 3: พิจารณาเรื่องอื่นๆ (ถ้ามี)

 


อนุมัติกำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2562(Record Date) ในวันที่ 24 เมษายน 2562 และมอบหมายให้กรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัทฯและ/หรือบุคคลที่กรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัทฯ มอบหมาย มีอํานาจพิจารณาเปลี่ยนแปลง
วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2562 (Record Date)ตามที่เห็นสมควร โดยพิจารณาถึงผลกระทบและประโยชน์สูงสุดต่อบริษัทฯ เป็นสําคัญ

 

 

ในการนี้บริษัทฯ ได้แต่งตั้ง บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จํากด ให้ทําหน้าที่เป็นที่ปรึกษา ทางการเงินอิสระเพื่อให้ความเห็นเกี่ยวกบความสมเหตุผลและประโยชน์ของการเข้าทําธุรกรรม และจัดส่งความเห็นดังกล่าวให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ พร้อมกบหนังสือเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2562

 

 

 

 

TTCL มั่นใจปี 62 พลิกมีกำไร

 

นายบุณยกฤต เสาวรรณ ผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ทีทีซีแอล จำกัด (มหาชน) หรือ TTCL เปิดเผยว่า บริษัทฯมั่นใจว่าผลการดำเนินงานในปี 2562 พลิกกลับมามีกำไรสุทธิ หลังจากปี 2561 มีผลขาดทุนสุทธิ 1,979.73 ล้านบาท พร้อมคาดรายได้จะเติบโตประมาณ 50% จากปีก่อน ที่มีรายได้อยู่ที่ 9,055.45 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบัน ณ สิ้นไตรมาส 4/2561 บริษัทฯมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ประมาณ 17,700 ล้านบาท แบ่งเป็นงานในประเทศประมาณ 10,280 ล้านบาท หรือคิดเป็น 58% และงานต่างประเทศ ประมาณ 7,420 ล้านบาท หรือคิดเป็น 42%

 

 

โดยทั้งหมดนี้แบ่งเป็น โครงการประเภทปิโตรเคมี 9 โครงการ มูลค่ารวม 16,680 ล้านบาท โครงการประเภทเคมิคอล 2 โครงการ มูลค่ารวม 900 ล้านบาท และโครงการประเภทพลังงาน 1 โครงการ มูลค่า 120 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 50-55% ส่วนที่เหลือจะสามารถรับรู้รายได้ภายในปี 2563

 

สำหรับในปี 2562 บริษัทฯอยู่ระหว่างเข้าประมูลงานมูลค่ารวม 52,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นงานในประเทศประมาณ 35,300 ล้านบาท หรือคิดเป็น 68% และงานต่างประเทศประมาณ 16,700 ล้านบาท หรือคิดเป็น 32% โดยทั้งหมดนี้แบ่งเป็นโครงการประเภทปิโตรเคมี 7 โครงการมูลค่ารวม 26,800 ล้านบาท โครงการประเภทเคมิคอล 7 โครงการ มูลค่ารวม 19,500 ล้านบาท โครงการประเภทพลังงาน 1 โครงการ มูลค่า5,500 ล้านบาท และโครงการประเภทสาธารณูปโภค 1 โครงการ มูลค่า 200 ล้านบาท

 

 

รวมทั้งสิ้นบริษัทฯอยู่ระหว่างประมูลงาน 16 โครงการ โดยบริษัทคาดหวังว่าจะได้งานประมาณ 1 ใน 3 ของงานที่เข้าประมูลทั้งหมด หรือคิดเป็นประมาณ 17,500 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นงานที่บริษัทฯได้ร่วมประมูลกับ โซจิทสึ คอร์ปอเรชั่น ประมาณ 7,000 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถรู้ผลการประมูลได้ในช่วงกลางปี 2562 ส่วนที่เหลือเป็นงานที่บริษัทเข้าประมูลด้วยตัวเอง

 

"ในปีนี้เราอยู่ระหว่างเจ้าประมูลงานเพิ่ม มูลค่ารวมกว่า 52,000 ล้านบาท โดยเราคาดว่าจะชนะการประมูลงาน 1 ใน 3 คิดเป็น 17,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นงานใหม่ที่คาดว่าถ้าชนะก็สามารถทำได้ เนื่องจากทีมวิศวกรเรามีความพร้อม ซึ่งแบ่งออกมา 7,000 ล้านบาท จะเป็นการร่วมทุนกับ โซจิทซึ คาดว่ารู้ผลกลางปีนี้ และเราคาดว่าหากเราได้รับงานดังกล่าวทั้งหมด ในปีนี้จะสามารถรับรู้รายได้ประมาณ 15% หรือ 2,600 ล้านบาท และเรายังมีการรับรู้รายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าเข้ามาอีกประมาณ 1,000 ล้านบาท "นายบุณยกฤต กล่าว

 

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจำหน่ายไปซึ่งเงินลงทุนในหุ้นสามัญของ TTCL Gas Power Pte. Ltd. (TTGP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมของบริษัทฯ จํานวน 29,700,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 60 ของจํานวนหุ้นทั้งหมดของ TTGP ซึ่งหุ้นสามัญดังกล่าวถือโดย TTCL Power Holdings Pte. Ltd. (“TTPHD”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นอยู่เป็นจํานวนร้อยละ 100 ของจํานวนหุ้นทั้งหมดของTTPHD โดยจะจําหน่ายให้แก่ผู้ลงทุนที่สนใจเข้าลงทุนจํานวนสองราย

 

 

โดยมีราคาซื้อขายรวมทั้งสิ้นจํานวน 85,000,000 เหรียญสหรัฐ คาดว่าจะได้รับเงินจำนวนดังกล่าว ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับว่าที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นที่จะจัดขึ้นในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้จะมีมติอนุมัติหรือไม่

 

ซึ่งหากได้รับเงินจำนวนดังกล่าวแล้ว บริษัทฯมีแผนที่จะนำเงินไปลงทุนก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้า Ahlone เฟส 2 กำลังการผลิตประมาณ 388 เมกกะวัตต์ มูลค่าโครงการประมาณ 470 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 15,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะได้รับสัญญาซื้อขายไฟ (PPA) ภายในไตรมาสที่ 2/2562 หลังจากนั้นบริษัทฯก็จะนำ PPA ไปเจรจากับสถาบันการเงินเพื่อขอกู้ยืมเงินส่วนที่เหลือ คาดว่าจะสามารถเริ่มก่อสร้างได้ในช่วงต้นปี 2563

 

"จากการที่เราขายเงินลงทุนใน TTGP ไป 60% แต่เราก็ยังคงเหลือถืออยู่อีก 40% โดยเงินที่ได้มา 85 ล้านเหรียญ เราจะเอาเงินลงทุนไปต่อยอดในโครงการ Ahlone เฟส 2 กำลังการผลิต 388 MW มูลค่าโครงการประมาณ 470 ล้านเหรียญ ตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าอาจจะมีพันธมิตรเข้ามาร่วมลงทุน ตอนนี้พูดคุยอยู่กับผู้สนใจหลายราย ต้องดูหลายมุม โดยการขายเงินลงทุนดังกล่าวเราคาดว่าจะได้รับเงินช่วง พฤษภาคม ก็ขึ้นอยู่กับผู้ถือหุ้นอนุมัติ และสัดส่วนรายได้จากโรงไฟฟ้าในปีนี้ของเราจะลดลง แต่จะเพิ่มตรงส่วนก่อสร้างมากขึ้น โดยโครงการดังกล่าวเราคาดหวังว่าจะได้ IRR ประมาณ 13% และมาร์จิ้นอยู่ที่ประมาณ 5-7%" นายบุณยกฤต กล่าว

 


สำหรับความคืบหน้าในการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ของ TTPHD บริษัทฯคาดว่าจะต้องเลื่อนออกไปเป็นปี 2563 จากเดิมที่จะเสนอขายในปี 2562 เนื่องจากต้องมีการใช้ระยะเวลาในการปฏิบัติตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่จะนำบริษัทต่างชาติเข้าจดทะเบียนในไทย

 

ส่วนการที่บริษัทฯได้มีการยื่นฟ้องต่ออนุญาโตตุลาการในการเรียกร้องค่าเสียหายในโครงการ Lao 's Rock Salt Processing ที่บริษัทได้โดนคำสั่งให้หยุดก่อสร้าง ซึ่งบริษัทได้มีการบันทึกเป็นหนี้คงค้างทางบัญชีประมาณ 2,500 ล้านบาท และบริษัทจึงได้ยื่นฟ้องร้องค่าเสียหายไปมากกว่าจำนวนยอดหนี้ที่ต้องบันทึก คาดว่าจะสามารถได้ข้อสรุปภายในช่วงระยะเวลา 5-7 ปี

 

อย่างไรก็ตามจากการที่รัฐบาลได้มีการประกาศบังคับใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานที่กำหนดสำหรับลูกจ้างทำงานติดต่อกันครบ 20 ปีขึ้นไป ให้มีสิทธิได้รับค่าชดเชยไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้าย 400 วัน ของค่าจ้างอัตราสุดท้าย บริษัทฯจะต้องมีการตั้งสำรองค่าใช้จ่ายคิดเป็นมูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลกระทบที่ไม่มากต่อบริษัท

 

TTCL

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

ต่างชาติ ลุยซื้อหุ้นไทย By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม เห็นนักลงทุนต่างชาติ กลับมาซื้อหุ้นไทย วานนี้ จัดไป เกือบ 3,600 ล้านบาท ส่วนในประเทศ พร้อมใจขายอย่าง...

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้